อาร์เซน่อล ผลงานสะดุดหลังแพ้เกมแรกในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม และนั่นเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่าเส้นทางลุ้นแชมป์กลับมาเข้มข้นอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ พอล เมอร์สัน ตำนานกองกลาง "ปืนใหญ่" ซึ่งปัจจุบันหันไปทำงานเป็นนักวิเคราะห์เกมลูกหนัง แสดงความมั่นอกมั่นใจว่าต้นสังกัดเก่าของตน จะเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกแบบม้วนเดียวจบ หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเหนือคู่แข่งในช่วงต้นซีซั่นนี้

อย่างไรก็ตาม ผลงานสะดุดที่ออกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า ทำให้ตอนนี้สาวก "เดอะ กูนเนอร์ส" เริ่มใจคอไม่ดี เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขยับทำแต้มไล่จี้หายใจรดต้นคอเหลือแค่ 2 แต้มเท่านั้น และนั่นทำให้เกิดคำถามที่ว่า อาร์เซน่อล จะต้องพบกับโชคชะตาสุดช้ำเป็นแค่ครองแชมป์ 3 ซีซั่นติดต่อกันหรือไม่

แล้วประเด็นใดบ้างที่อาจทำให้ทีมของกุนซือมิเกล อาร์เตต้า สะดุดในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อีกครั้งล่ะ ?

1. การขาดหายไปของ มากัลเญส และ ซาลิบา

อาร์เซน่อล ต้องพบกับสถานการณ์ยากลำบากจากการที่พวกเขาไม่มี กาเบรียล มากัลเญส และ วิลเลี่ยม ซาลิบา สองเซนเตอร์แบ็กตัวหลักลงคุมแนวรับ ซึ่งแน่นอนว่านี่คือปัญหาใหญ่ของทีมอย่างแท้จริง

การที่่ทัพ "ปืนใหญ่" มีสถิติเกมรับที่แข็งแกร่งที่สุดในลีก นั่นเป็นเพราะการทำงานร่วมกันระหว่าง มากัลเญส และ ซาลิบา แต่หลังจากที่พวกเขาขาดสองแนวรับตัวหลัก ส่งผลกระทบอย่างมากในแผงหลังของทีม

ในแมตช์เยือน วิลล่า กุนซือชาวสแปนิช จำเป็นต้องปรับแผงรับโดยเลือกใช้งาน ปีเอโร อินกาปีเอ คู่กับ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ขณะที่ฟูลแบ็กเป็นหน้าที่ของ เบน ไวท์ กับ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ แม้ว่านักเตะเหล่านั้นสามารถลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กได้ แต่ถึงอย่างนั้น อาร์เซน่อล ก็ยังมีเกมรับที่ไม่เหนียวแน่นเหมือนเดิม

ตัวอย่างเช่น ประตูแรกของ วิลล่า เกิดจากจังหวะสกัดพลาดของ คาลาฟิออรี่ ขณะที่ อินกาปีเอ ก็ไม่ได้ทำผลงานน่าประทับใจนักในจังหวะขึ้นเกมจนนำไปสู่การเสียประตูในช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ

สำหรับเกมรับที่เปราะบางของ อาร์เซน่อล ในช่วงเวลานี้ อาจจะเป็นจุดเปลี่ยสำคัญในการลุ้นแชมป์ของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นการขาด มากัลเญส และ ซาลิบาซึ่งโดดเด่นในลูกกลางอากาศ ทำให้ "เดอะ กันเนอร์ส" ลดประสิทธิภาพลงในจังหวะลูกตั้งเตะ ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญภายใต้การทำทีมของอาร์เตต้ามาโดยตลอด

2. โยเคเรส ไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหาหน้าเป้าหรือไม่ ?

สำหรับเรื่องเกมรุก มิเกล เมรีโน่ ได้รับโอกาสลงเป็นกองหน้าตัวจริง  ก่อนที่วิคตอร์ โยเคเรส จะถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองภายหลัง ซึ่งการลงสนามของเขาสร้างอิมแพ็คได้ในช่วงแรกแต่หลังจากนั้นก็แทบไม่มีอะไรเลย

โยเคเรส ควรจะเป็นคนที่เข้ามาแก้ปัญหากองหน้าของอาร์เซน่อลตั้งแต่ย้ายมาจากสปอร์ติ้ง ลิสบอนในช่วงซัมเมอร์ แต่กลายเป็นว่า เมรีโน่ ซึ่งย้ายมาในฐานะกองกลางเมื่อปีก่อน ยังถูกใช้งานในหน้าเป้าเป็นบางครั้ง แสดงให้เห็นว่ายังมีบางอย่างที่เป็นปัญหาค้างคาอยู่

 ปัญหาเรื่องความฟิตทำให้ กองหน้าทีมชาติสวีเดน สะดุดอยู่หลายครั้ง และแม้ในช่วงที่พร้อมลงเล่น เขาก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาได้ นั่นจึงทำให้นักเตะต้องเริ่มต้นเกมด้วยการนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง

สำหรับ เมรีโน่ ก็ไม่ได้สร้างความประทับใจนักในบทบาทหน้าเป้าในเกมกับ วิลล่า และนักเตะมีจุดอ่อนเรื่องการครองบอล นอกจากนี้การจ่ายบอลทะลุช่องแบบง่ายๆ ก็ทำได้ไม่ดีนัก ซึ่งนี่เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความแตกต่างในแมตช์นี้

บางที โยเคเรส อาจต้องการเวลาในการปรับตัวอีกซักนิด แต่เชื่อว่าถ้าแฟนบอลอาร์เซน่อลอดทนรอได้ คงจะได้เห็นฟอร์มเก่งของเขาในเร็วๆ นี้

3. แมนฯ ซิตี้ เครื่องฟิตสตาร์ทติดแล้ว!

อาร์เซน่อล อาจเพิ่งถูกยกให้เป็นทีมเต็งแชมป์ไม่นานนี้เอง แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้เลยตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา

แรงกดดันและความคาดหวังที่ถาโถมอาจกลายเป็นภาระที่หนักเกินรับไหวเมื่อฤดูกาลยืดเยื้อออกไป โดยเฉพาะเมื่อทีมที่คว้าแชมป์มาอย่างต่อเนื่องอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มกลับเข้าสู่ฟอร์มของตัวเอง

ทัพ "เรือใบสีฟ้า" ภายใต้การกุมบังเหียนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจจะเริ่มต้นไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเร่งเครื่องกลับมาได้เรื่อยๆ และการคว้าสามคะแนนอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ "ปืนใหญ่" สะดุด นั่นทำให้การลุ้นแชมป์กลับมาเข้มข้นอีกครั้ง