มีต เดอะ เพรส ยังคึกคัก "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ บอลไทย ชี้ศึกไทยลีก ช่วงโค้งสุดท้าย ต้องมีมาตรการดูแลผู้ตัดสินเป็นพิเศษ บอกข่าวดีปีหน้าแชมป์ไทยลีก อาจจะเพิ่มเงินมากกว่า 10 ล้านบาท พร้อมชี้รู้ตัวบุคคล ผู้ไปเปิดเผยข้อมูล การที่ลีกบ้านเรา เอาการเมืองเข้ามาแทรกแซง ซึ่งจะนำตัวมาพูดคุยในเร็ววันนี้ และยังเชื่อว่าหาก "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทะลุเข้าชิงศึก เอเอฟซี คัพ ได้ น่าจะทำให้หนทางสู่ถ้วยใบใหญ่มีมากขึ้น

ความเคลื่อนไหวการแข่งขันสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก2010 เป็นประจำทุกวันพฤหัสบดี สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพแห่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพการจัดงานแถลงข่าว 'มีต เดอะ เพรส เพื่อให้สโมสรที่จะลงทำการแข่งขัน ได้ออกมาแถลงความพร้อมของทีม

โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. 'บิ๊กเปี๊ยก องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯสมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธานในการจัดงานแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพแห่งประเทศไทย โดยฝ่ายจัดได้เชิญตัวแทนทีม ที่จะลงดวลแข้งในวันเสาร์ที่ 25 ก.ย. นี้ อย่าง "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม พบ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรฯ

และวันอาทิตย์ที่ 26 ก.ย.นี้ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี และอีกคู่คือ "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด กับ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ท่ามกลางผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ให้ความสนใจเดินทางมาทำข่าวครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

"บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯสมาคมฟุตบอลฯ แสดงความเป็นห่วงในโค้งสุดท้ายของ ศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 หลังจากที่เดินทางมาถึงในช่วงโค้งสุดท้าย ทั้งทีมที่มีลุ้นแชมป์กับโซนอันตราย กำลังคับเขี่ยวกันอย่างสนุก แต่ที่น่าเป็นห่วงคืออยากจะให้ทุกๆ สโมสร ที่เป็นเจ้าบ้านช่วยคุมเข้มในเรื่อง มาตรการการรักษาความปลอดภัยให้หนาแน่น เพื่อเป็นการควบคุมแฟนบอลให้อยู่ตามกฎของ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ได้ตั้งไว้

นอกจากนี้ ทางเลขาธิการสมาคมฟุตบอล ยังเอ่ยถึงการทำหน้าที่ของกรรมการที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีส่วนกับผลการแข่งขันเมื่อลงไปทำหน้าที่ในสนาม แต่ละเกมที่มีความสำคัญ มีผลต่อการลุ้นแชมป์และตกชั้น

ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวว่า เรื่องนี้ทางสมาคมฟุตบอลตระหนักในเรื่อนี้เป็นอย่างมากอยู่แล้ว ซึ่งได้เตรียมที่จะใช้ สห.และตำรวจ นำกรรมการที่จะลงทำหน้าที่ในแมตช์ที่มีผลนั้นๆ ตั้งต้นออกเดินทางจากสมาคมฟุตบอลไปยังสนามแข่งขันเลยและรับกลับมาส่งถึงที่ เพื่อให้กรรมการมีความมั่นใจในการทำหน้าที่ แต่อย่างไรเชื่อว่าตอนนี้ฟุตบอลไทยเป็นอาชีพแล้ว ทุกทีมมีความรับผิดชอบ สื่อก็เข้ามาเยอะในการนำเสนอ เพราะฉะนั้นสบายใจได้

ซีซั่นหน้าอาจเพิ่มเงินแชมป์มากกว่า 10 ล.

"บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า ยังได้กล่าวถึงเงินรางวัลที่อาจจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ว่า เราเข้าใจว่าตอนนี้ทุกๆ สโมสร มีการลงทุนอย่างมหาศาล ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย และในปีนี้เราได้ตั้งเงินสำหรับแชมป์ไว้ 10 ล้านบาท รวมทั้งมีเงินรางวัลอีก 8 อันดับ มอบให้กับแต่ละสโมสร ซึ่งในปีหน้าหากมีสปอนเซอร์ที่เข้ามามากกว่านี้ เรายืนยันว่าจะเพิ่มเงินรางวัลให้มากกว่า 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน

เชื่อไม่มีซูเอี๋ยเพราะสมาคม,สื่อ ส่อง

ขณะที่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ที่เหลือการแข่งขัน 6 หรือ 7 นัด มีการขับเคี่ยวกันอย่างหนักทั้งการลุ้นแชมป์และหนีตกชั้น โดยเฉพาะกลุ่มหนีตายซึ่งทำให้เกิดความกังวลหวั่นเกรงกันไปว่าจะมีการเล่นไม่เต็มที่ในบางนัดนั้น

เรื่องนี้ทาง แม่บ้านสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่มีเรื่องที่ไม่ดีอย่างที่หวั่นเกรงกัน เพราะทางสมาคมฟุตบอลฯ ก็มีมาตรการเข้มงวดในเรื่อนี้อยู่แล้ว อีกทั้งยังมีสื่อมวลชนที่คอยเป็นหูตาคอยสอดส่องติดตามเกาะติดข่าวอยู่ทุกฝีก้าว คงไม่มีทีมใดกล้าทำเรื่องที่ไม่ดีต่อวงการฟุตบอลบ้านเรา

ส่วนในเรื่องของโปรแกรมการแข่งขันของฟุตบอลถ้วยอย่าง โตโยต้า ลีก คัพ และ มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอคัพ ที่แฟนบอลหลายคนกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการเก็บตัวทีมชาติ ชุดเอเชียนเกมส์ ปลายปีนี้หรือไม่

ซึ่ง "บิ๊กเปี๊ยก" กล่าวว่า "เราได้วางโปรแกรมไว้หมดแล้ว ซึ่งไทยลีกคงจะเล่นนัดสุดท้ายในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ส่วนเกม เอฟเอคัพ ให้จบปลายเดือน ต.ค. นี้ เพื่อจะไม่ให้การเก็บตัวของทีมชาติต้องสะดุด"

แม่บ้านสมาคมฯ รู้คนให้ข่าวสอบตกประเมิน

จากการที่หนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ ผู้บริหารคนหนึ่งของ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ที่ไปตอบข้อซักถามของเจ้าหน้าที่จาก เอเอฟซี ในหัวข้อที่ว่าฟุตบอลลีกในประเทศไทย โดนแทรกแซงหรือไม่ และตอบไปว่าโดนแทรกแซงจากกรณีของนักเตะคนหนึ่งที่โดนลงโทษไปแล้ว แต่มีรายการคุณขอมาทำให้ต้องเปลี่ยนบทลงโทษใหม่

โดย "บิ๊กเปี๊ยก" เผยว่า ตอนนี้ตนได้รับทราบข้อมูลแล้วว่าเป็นใครใน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก เพียงแต่อยากจะได้เทปในการสัมภาษณ์วันนั้น เพื่อเอามาดูว่าบุคคลดังกล่าวได้พูดในเรื่องนี้จริงหรือไม่ เนื่องจากเรามีระเบียบที่ทาง ฟีฟ่า กับ เอเอฟซี ได้กำหนดไว้ทั้งในเรื่องของ การพิจารณามารยาทที่มีท่าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา เป็นประธานดูแลอยู่ รวมไปถึงเรื่องของการพิจารณาโทษและอุทธรณ์โทษ

ซึ่งหากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงขึ้นมา ตนคงจะต้องเรียกมาคุยเป็นการด่วน เพราะทาง เอเอฟซี จะเข้ามาตรวจสอบทั้ง 16 สโมสรในไทยพรีเมียร์ลีก ในวันที่ 1-9 ต.ค.นี้แล้ว

ชี้หากเมืองทองฯ ชิงลีกไทย มีลุ้นเข้า ชปล.

สุดท้าย "บิ๊กเปี๊ยก" ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จของ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ รายการ เอเอฟซี คัพ ได้สำเร็จว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก ที่สโมสรของบ้านเราสามารถผ่านเข้ารอบรองฯ ไปได้อีก

หากทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศได้ แน่นอนว่าคะแนนในแรงกิ้งของสโมสร จะเพิ่มสูงมากขึ้นและหากว่าเอามาประกอบกับข้อบังคับ ของทาง เอเอฟซี ที่ต้องมีคนดูในลีกเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5 พันคน กับขนาดธุรกิจแล้ว น่าจะทำให้มีสิทธิ์ในการผ่านเข้ารอบไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกปีหน้าอย่างแน่นอน

มอบรางวัลยอดเยี่ยมให้ "เซอร์เด็จ" ,"อจายี่"

ในวันเดียวกันนี้เองทาง สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพแห่งประเทศไทย ได้มีการมอบรางวัลผู้เล่นและโค้ชยอดเยี่ยมประจำเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก ซึ่งรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมตกเป็นของ ซามูเอล อาจายี่ ที่ได้รับการเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ 4 นัดติดต่อกัน ได้รับถ้วยรางวัลพร้อมกับเงินรางวัลจำนวน 1 หมื่นบาท จาก พิทักษ์ ทับทิม ผู้จัดการส่วนประชาสัมพันธ์และกิจกรรมพิเศษ บ.ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด

ซึ่ง คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโย่ กุนซือใหญ่ "เดอะกล๊าสแร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี เป็นผู้มารับมอบแทน และรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมประจำเดือน ส.ค. ตกเป็นของ "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ กุนซือของ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ที่พาทีมเก็บชัยชนะ 4 นัดติดต่อกัน ได้รับถ้วยรางวัลพร้อมกับเงินรางวัลจำนวน 1 หมื่นบาท จาก พิทักษ์ ทับทิม ผู้จัดการส่วนประชาสัมพันธ์และกิจกรรมพิเศษ บ.ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด

น้าเหม่ง มั่นใจตกชั้นทีมไม่มีทางแตก

"น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือใหญ่ของทีม "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังเผยถึงสถานการณ์ของทีมที่ตอนนี้ยังต้องลุ้นหนีการตกชั้น และถือว่ามีความเสี่ยงสูงอยู่ หากว่าไม่สามารถหนีการตกชั้นมีอันต้องลงไปเล่นในดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้า สภาพทีมเรื่องของตัวนักเตะ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชจะยังคงอยู่กับทีมต่อไปไม่แตกแน่นอน และตนเองก็พร้อมที่จะสานงานต่อ

"ผมขอยืนยันว่าหากทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด มีอันจะต้องตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้าทีมของเราจะไม่มีคำว่าแตกทัพ ทุกคนยังคงพร้อมที่จะอยู่ทำงานร่วมกัน โดยส่วนตัวผมและทีมสต๊าฟก็คงจะอยู่สานงานต่อไป"

"น้าฉ่วย" ไม่คอนเฟิร์มปลาทูรอดตกชั้น

ด้าน "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมอันดับ 8 ของตารางจากการลงสนาม 24 นัด มีอยู่ 31 คะแนนซึ่งถือว่าอยู่ในอันดับกลางตารางและน่าจะมีความอุ่นใจได้ในฤดูกาลนี้ว่าน่าจะปลอดภัยไม่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นเหมือนฤดูกาลที่ผ่านๆ มา

ทว่าล่าสุดทาง "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือใหญ่ของทีมเอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ยังไม่ประมาท ไม่การันตีว่าทีมจะรอดการตกชั้น 100 เปอร์เซ็น แต่ยอมรับว่ามีนี้โอกาสของการอยู่รอดในสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกมีสูง

ปีนี้เราโชคดีที่เอสซีจี เข้ามาให้การสนับสนุน ทำให้ขวัญและกำลังใจของนักเตะดีขึ้น รวมถึงกองเชียร์ของเราก็มีส่วนช่วยทีมเป็นอย่างดี ทำให้ผลงานออกมาถือว่าน่าพอใจ แต่ผมก็ไม่ประมาทยังไม่กล้าการันตีว่าจะรอดตกชั้น 100 เปอร์เซ็น แต่มั่นใจว่าโอกาสของทีมที่จะอยู่ในลีกสูงสุดมีไม่น้อยทีเดียว"

ปีหน้าเล็งนักเตะติดธงเสริมทัพ

ขณะเดียวกันทาง สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือใหญ่ของทีมเอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ยังได้เผยถึงแผนการเตรียมทีมในฤดูกาลหน้า ซึ่งทางเอสซีจี สปอนเซอร์ใหญ่ของทีมพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทว่า ตอนนี้ได้เริ่มที่จะเล็งหานักเตะมาเสริมทัพแล้ว เพื่อเตรียมไว้ในซีซั่นหน้า

ซึ่งมองไปที่นักเตะทีมชาติชุดใหญ่ปัจจุบัน 2-3 คน และนักเตะชุดซีเกมส์อีกประมาณ 3 คน แต่ยังไม่สามารถเผยรายชื่อนักเตะเหล่านั้นได้ ซึ่งทางสโมสรพร้อมจ่ายสู้ค่าตัว 1-2 ล้านบาทและพร้อมที่จะจ่ายและอัพเงินเดือนนักเตะให้สูงขึ้นอีกด้วย หากสามารถทำได้ตามเป้าแผนที่วางไว้มั่นใจว่าจะสามารถติด 1 ใน 5 ได้

ป๋าวัฒน์ ยันพลาดท็อปไฟฟ์ไม่ไล่ "โค้ชวัง"

ด้าน ผอ.ฝ่ายจัดการแข่งขันจอมโวอย่าง "ป๋าวัฒน์" วิวัฒน์ เอี่ยมแล้ ให้สัมภาษณ์กับเป้าหมายที่ทางสโมสรต้องการว่า "บอกตามตรงเลยว่าตอนแรกที่เราตั้งไว้ คือการพาสโมสรติด 1 ใน 5 แม้ว่าปัจจุบันเราจะรั้งอยู่ในอันดับที่ 6 ก็ตามที"

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวสยามกีฬา ยังได้ถามถึงหากเป้าหมายที่วางไว้ จะมีการปลด "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือคนปัจจุบันออกจากตำแหน่งหรือไม่ "เราไม่เคยคิดที่จะปลดเขาอยู่แล้ว เพราะหากดูผลงานในฤดูกาลก่อน ต้องยอมรับว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะตกชั้น แต่ปีนี้เรากลับเก็บแต้มได้อย่างต่อเนื่อง จนมีลุ้นแชมป์เหมือนกับทีมอื่น ก่อนที่จะมาแผ่วในช่วงนี้ หากว่าในฤดูกาลนี้เรามี่สามารถติด 1 ใน 5 ก็จะไม่มีทางปลดโค้ชวังออกแต่อย่างใด

สตาฟฟ์เมืองทองฯ รับนักเตะล้าลุ้น 4 ถ้วย

ส่วน "โค้ชอู๊ด" สระราวุฒิ ตรีพันธ์ สตาฟฟ์โค้ช "กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด กล่าวถึงสภาพความอ่อนล้าของนักเตะทีมตนเองว่า เมื่อเราจะสร้างประวัติศาสตร์เพื่อเป็นทีมแรกของประเทศไทย ในการคว้า 4 แชมป์ให้ได้ในปีนี้ ทำให้นักเตะทุกคนรู้สภาพถึงความอ่อนล้า โดยเฉพาะการเดินทางไกลในการไปเล่น เอเอฟซี คัพ ในแถบตะวันออกกลางทั้ง 2 เกมที่ผ่านมา

โดยเราก็ไม่เคยกังวลกับเกมทุกนัดที่ลงสนามมากนัก เนื่องจากเรามีนักเตะโรเตชั่น สามารถที่จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนลงไปเล่นได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว