นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกปากยอมรับ เป็นปลื้มกับพัฒนาการของลีกลูกหนังไทย ที่เติบโตไม่หยุดยั้งได้รับความสนใจจากแฟนบอลทุกลีก ทั้งไทยพรีเมียร์ลีก, ด.1 และ ด.2 เชื่ออนาคตจะดีกว่านี้ และรัฐบาลพร้อมหนุนอย่างเต็มที่แน่นอน

      นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ กล่าวหลังเสร็จสิ้นการไปเป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันฟุตบอล ทรูวิชั่นส์ อาร์เซน่อล ซอคเก้อร์ สกูลฯ น็อกเอาต์ 2010 เมื่อ 27 พ.ย. 53 ที่ผ่านมา ณ สนามฟุตบอล ประพุทธกำลังเอก ฟุตบอลคลับ ซ.ปรีดีพนมยงค์ 21 ว่า โดยส่วนตัวรู้สึกดีใจเมื่อเห็นการพัฒนาของลีกฟุตบอลในประเทศของไทยทุกลีกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เชื่อว่าอนาคตจะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งยิ่งกว่าปัจจุบันได้แน่นอน 

       "ผมมองว่าปัจจุบันฟุตบอลลีกในประเทศของไทย ที่ผมทราบทางข่าวสารตามสื่อต่างๆ นั้นกำลังเดินหน้าไปได้สวยทุกลีก ไม่ว่าจะเป็น ไทยพรีเมียร์ลีก, ลีกดิวิชั่น 1 หรือกระทั่งลีกดิวิชั่น 2 ภูมิภาค ที่ได้รับความสนใจจากแฟนบอลไทยมากขึ้น แถมทราบอีกว่าองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะกับสมาคมฟุตบอลฯ นั้นได้มีการพัฒนาฟุตบอลอย่างเป็นระบบตั้งแต่เยาวชน ซึ่งผมมั่นใจว่าอนาคตต่อจากนี้ไป ฟุตบอลลีกในประเทศไทยจะไปได้สวยกว่าปัจจุบันอย่างแน่นอน"
     

ยันรัฐพร้อมหนุนฟุตบอล, กีฬาเต็มที่

       นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อว่า "ในฐานะของตัวแทนรัฐบาล ผมเป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลคนหนึ่ง ยืนยันว่ารัฐบาลเองพร้อมจะให้การสนับสนุนฟุตบอลลีกของไทยต่อไปอย่างแน่นอนฤดูกาลที่เพิ่งปิดฉากไป สำหรับฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และลีกดิวิชั่น 1 รวมถึงลีกดิวิชั่น 2 นั้นภาครัฐเอง ก็ได้จัดสรรงบประมาณให้ผ่านทางการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว 

       หรือการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง สทท. กรมประชาสัมพันธ์นั้น ฤดูกาลที่เพิ่งจบไปก็มีถ่ายทอดสดผ่านสายตาแฟนบอลไปหลายต่อหลายเกมด้วยกัน ที่ผ่านมา ผมเองไม่ได้นิ่งนอนใจกับการพัฒนาฟุตบอลของบ้านเรา เพราะได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯ มาตลอดไม่ว่าจะเป็น คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ หรือ ส.ส.สามารถ มะลูลีม 

       ซึ่งท่านก็เป็นผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯ อยู่ด้วย ว่าเราควรจะปรับปรุงฟุตบอลลีกและทีมชาติของเราในแนวทางไหน อย่างโครงการที่จะให้ทุกจังหวัดมีสนามกีฬาให้ครบนั้น ครม.ก็ได้ผ่านความเห็นชอบเรื่องนี้ไปแล้ว โดยอยู่ในโครงการไทยเข้มแข็งต่อ จากนี้ไปเรื่องการกีฬาในประเทศเราที่ไม่ใช่แค่ฟุตบอลจะดีขึ้นยิ่งขึ้นแน่"