ไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ลากยาวซีซั่นใหม่จบเกือบปลายเดือน ม.ค. ปี 2555 เลยทีเดียวโดยพร้อมทำตามนโยบายของสมาคมลูกหนังไทยเพื่อให้ทีมชาติไทยมีเวลา เตรียมทีมมากขึ้น แข้งต่างชาติให้แต่ละทีมส่งชื่อขึ้นทะเบียนได้ภายในวันที่ 9 ก.พ. 54 นี้ ส่วนนักเตะไทยยืดไปเป็น 9 มี.ค. 54
 

       เมื่อเวลา 14.00 น. ณ ห้องวาสนา โรงแรมโกลเดน ทิวลิป ซอฟเฟอริน (เรดิสัน ) ดร.วิชิรต แย้มบุญเรือง ในฐานะประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก และผู้ควบคุมการแข่งขัน ได้เรียกบรรดาตัวแทนของทุกสโมสรในศึก "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก" และดิวิชั่น 1 รวม 36 ทีม มาร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับระเบียบการแข่งขัน รวมถึงโปรแกรมการแข่งขันในฤดูกาล 2011 อีกทั้งนโยบายด้านต่างๆ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามแข่งขันฤดูกาลนี้อีกด้วย

       ในส่วนของโปรแกรมการแข่งขันศึกลูกหนัง "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก" และ  "ดิวิชั่น 1" นั้น ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ยังคงยืนยันว่าโปรแกรมยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยเฉพาะวันที่  6 เม.ย. ซึ่งเป็นแมตช์กลางสัปดาห์โดยอาจจะโยกไปแข่งขันวันอื่น ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก กลั่นกรองอีก 1 วัน  คาดว่าวันที่ 3 ก.พ. นี้  ทุกสโมสรน่าจะได้ความชัดเจนในเรื่องของโปรแกรมการแข่งขัน

       แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก น่าจะปรับโปรแกรมเพียงเล็กน้อยจากเดิมเท่านั้น ซึ่งไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 จะมีกำหนดเปิดฤดูกาล วันที่ 12 ก.พ. 54  ส่วนการพักเลก นายใหญ่บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกยังไม่ได้ยืนยันว่าจะมีการพักหรือไม่ แต่จะมีการหยุดพักการแข่งขันในวันที่ 30  ต.ค. 53 ให้ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ก่อนจะกลับไปแข่งขันอีกทีในวันที่ 26 พ.ย. 53 ขณะที่การปิดฤดูกาล ได้เลื่อนกำหนดปิดจากเดิม วันที่ 2 ต.ค. 54  ไปเป็นวันที่ 28-29 ม.ค. 55 เพื่อหลีกทางให้กับทีมชาติไทยชุดปรีโอลิมปิก และฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

       ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ได้เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า "ทางคุณ  วรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ให้นโยบายมาว่า ฤดูกาลนี้ทั้งไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 อยากจะให้มีโปรแกรมการแข่งขันนัดกลางสัปดาห์น้อยที่สุด หรือไม่มีเลยก็จะยิ่งดี เพื่อให้ตรงกับหลักการของลีกฟุตบอล ขณะเดียวกันหากเตะกลางสัปดาห์ถี่เกินไปสโมสรก็จะได้รับผลกระทบในเรื่องของ รายได้ นอกจากนั้นตนอยากจะขอความร่วมมือกับทุกสโมสรในการปล่อยตัวนักเตะให้กับทีม ชาติไทยล่วงหน้าเป็นเวลา 10 วัน เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบมากเพราะว่านักเตะซีเกมส์ และปรีโอลิมปิก เป็นนักเตะชุดยู-23 ปี  ซึ่งส่วนใหญ่ใช่ตัวหลักของทุกสโมสรอยู่แล้ว" ดร.วิชิต กล่าว 
    

       ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ได้มีการขยายโปรแกรมแข่งขันของ "ไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 ออกไปปิดฤดูกาล ในเดือนมกราคม ปี 2555 นั้น ใครจะรับผิดชอบในเรื่องของค่าใช้จ่ายให้กับทุกสโมสร เพราะนักเตะส่วนใหญ่จะหมดสัญญากับต้นสังกัดภายในเดือนตุลาคม  เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ไม่สามารถที่จะตอบคำถามให้ความกระจ่างแก่ผู้เข้าร่วมประชุมได้ โดย ทาง "ขาวผ่อง" ทวี อัมพรมหา เลขานุการทีมโอสถสภา เอ็ม-150  สระบุรี แสดงความคิดเห็นว่า "สมาคมฟุตบอลฯ และบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ต้องมีความแข็งแกร่งไม่ใช่ว่าโอนเอนเป็นสนลู่ลม กรณีนี้ตนเห็นว่าทุกสโมสรควรจะขยายสัญญานักเตะออกไปอีก 3 เดือนน่าจะได้ข้อตกลงที่ดีจากทุกฝ่าย หรือบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เพิ่มเงินสนับสนุนทีม ก็ไม่น่าเสียหาย"
 

       นอกจากนั้น ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ยังได้เปิดเผยถึงตลาดนักเตะต่างชาติ ซึ่งจะปิดตลาดตามกำหนดการของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) คือวันที่ 9 ก.พ. 53 ในขณะที่นักเตะไทย ได้ขยายเวลาเพิ่มอีก 1 เดือนไปปิดตลาดในวันที่ 9 มี.ค. 53 "ในส่วนของการลงทะเบียนนักเตะ ของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งแต่ละทีมจะต้องส่งรายชื่อ 35 ราย นั้น นักเตะตัวต่างชาติ เราก็คงจะปฏิบัติตามกฎระเบียบของ "เอเอฟซี" คือปิดตลาด วันที่ 9 ก.พ. นี้  ส่วนนักเตะไทยก็ยังคงขยายเวลาเพิ่มอีก 1 เดือน ออกไปเป็นวันที่ 9 มี.ค. เพื่อความลงตัวของทุกสโมสรซึ่งอาจจะมีการยืดหยุ่นได้ในช่วงระยะเวลาดัง กล่าว" 
    

 ยิงสดไทยลีกทุกคู่,ด.1ถ่าย100กว่าเกม

       ขณะที่การถ่ายทอดสดการแข่งขันทั้งสองลีก นั้น ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ได้เปิดเผยว่า "ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ทุกเกมจะเริ่มทำการแข่งขันในเวลา 18.00 น. เนื่องจากจะมีการถ่ายทอดสดทุกสนาม  ส่วนในระดับดิวิชั่น 1 ปีนี้ตนมั่นใจว่าน่าจะคึกคักมากกว่าเดิมเพราะว่าทางบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด นั้นจะมีการถ่ายทอดสดมากกว่าเดิม ซึ่งอาจจะมีมากกว่า 100 แมตช์ โดยในเบื้องต้นคาดว่าลีกรองจะเริ่มทำการแข่งขันในเวลา 16.00 น. เพราะเวลาถ่ายทอดสดจะได้ไม่ไปชนกับไทยพรีเมียร์ลีก" ดร.วิชิต กล่าว

       จากกรณีที่มีการยื้นทวงสิทธิ์การทำทีมของ 3 สโมสรในศึก "สปอนเซอร์ไทย พรีเมียร์ลีก" นั้น ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ยังได้ยืนยันในที่ประชุมอีกว่า "ทั้งไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 ฤดูกาลนี้ ทุกทีมจะต้องทำการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของ "เอเอฟซี" เนื่องจากเป็นการป้องกันปัญหาเรื่องการทวงสิทธิ์ โดยหากทีมใดไม่มีการจดทะเบียนจะหมดสิทธิ์ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันแน่นอน"

         ขณะเดียวกัน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ยังได้ให้นโยบายแก่บรรดาทุกสโมสร ด้วยว่า ในปีนี้ทุกทีมจะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนารัดกุม ทั้งในเรื่องมาตรการคุมแฟนบอลและคุ้มกันผู้ตัดสิน โดยหากทีมใดมีระบบรักษาความปลอดภัยไม่ได้มาตรฐานหรือไม่รัดกุมมากพอ เตรียมโดนบทลงโทษจากบ.ไทยพรีเมียร์ลีก