ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » จากกันแต่ยังรัก "บอล-ฟ้า"น้ำตาคลอ แจงแยกกัน8เดือนก่อนไม่เกี่ยวเจ้าชู้ นัดหย่าในเดือนนี้ไร้ปัญหาแบ่งสมบัติ

จากกันแต่ยังรัก "บอล-ฟ้า"น้ำตาคลอ แจงแยกกัน8เดือนก่อนไม่เกี่ยวเจ้าชู้ นัดหย่าในเดือนนี้ไร้ปัญหาแบ่งสมบัติ

Posted 01/03/2011 by siamdara

หลังจากมีข่าวว่าอดีตนักเทนนิสซูเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวไทย ''เจ้าบอล'' ภราดร ศรีชาพันธุ์ กับ ''น้องฟ้า'' นาตาลี เกลโบว่า ภรรยาสาวสวยชาวแคนาดา ที่มีดีกรีเป็นถึงมิสยูนิเวิร์ส 2005 เตียงหักรักร้าว จนเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ ซึ่งที่ผ่านมาคนใกล้ชิดของทั้งคู่ต่างก็ออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งคู่แยกทางกันแล้วจริง ทั้งทางฝั่งของ ชนะชัย ศรีชาพันธุ์ ผู้เป็นพ่อของ ''บอล-ภราดร'' และทางฝั่งของ ลีน่า คริสเตนเซ่น นางแบบสาวชั้นแนวหน้า ซึ่งเป็นเพื่อนซี้ของ ''น้องฟ้า-นาตาลี'' อยู่ในเวลานี้ โดยที่ทั้งบอลและนาตาลียังไม่ใครออกมาพูดถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตครอบครัวต้องอับปาง โดยทั้งคู่มีแผนที่จะควงคู่กันไปเปิดในในรายการตีสิบครั้งแรกและครั้งเดียวตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 54 เวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ''เจ้าบอล-ภราดร'' และ ''น้องฟ้า-นาตาลี'' ได้เดินทางไปบันทึกเทปรายการตีสิบที่ห้องพระราม 2 ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 2 ตามที่นัดหมายไว้ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนจำมากที่มาเฝ้าติดตามรายงานความเคลื่อนไหวจนทำเอาสถานที่ดังกล่าวดูคับแคบลงไปถนัดตา โดยทั้งคู่นั้นต่างคนต่างมา มีฝ่ายภราดรเดินทางมาถึงก่อนกว่าครึ่งชั่วโมง จากนั้นนาตาลีได้เดินทางตามมาถึง ก่อนที่ทั้งคู่เข้าไปนั่งทำใจพักใหญ่ก่อนเข้ารายการ
 
เมื่อเข้ารายการ บนเวทีมี ''ฮาร์ท'' สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล รับหน้าที่พิธีกรเฉพาะกิจ ทำหน้าที่ดำเนินรายการ หลังจากทักทายสื่อมวลชน และและแขกรับเชิญทั้งสองคนแล้วฮาทเริ่มตั้งคำถามเปิดใจ ''บอล-นาตาลี'' ทันที 
 
เหตุผลที่ทำไมทั้งสองถึงแยกทางกันเดิน ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร?
 
ภราดร : ''จริงๆ แล้วอย่างที่บอกนะครับ ก็คือ ในช่วงกรกฎาฯ ที่ผ่านมา เราได้ตกลงกันว่าเราจะลองใช้ชีวิตแบบแยกกันดู ทั้ง 2 คน มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองต้องการครับ เนื่องจากว่าหลังๆ มาเนี่ย งานหรือว่าธุรกิจต่างๆ ที่มันเข้ามาเยอะกว่าปกติ ตัวผมเองและตัวน้องฟ้าเองเนี่ยก็เรียกว่ามีเวลาให้กันน้อย ก็เลยถึงจุดที่เราลองมาใช้ชีวิตของคุณ ไอใช้ชีวิตของไอในช่วงแรกก่อน ก็เป็นเวลาเกือบ 8 เดือน''
 
สื่อได้รับข่าวการแยกทางกันมาจากเอเยนของทั้งคู่ หลายคนไม่เชื่อ คิดว่าเป็นข่าวลือ แต่วันนี้คุณภราดรยืนยันว่าคือเรื่องจริง?
 
ภราดร : ''ใช่ครับ คือเรื่องจริงครับ อย่างที่บอกครับว่า เรารักกัน แล้วช่วงเวลาที่เราแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันมันก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข แล้วก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดี ผมก็จะมีการเล่นกีฬา การซ้อมกีฬา การออกไปแข่งขัน ในช่วงที่ผมมีเวลาในช่วงแรกๆ ที่ผมได้อยู่กับน้องฟ้า ที่เราได้ตกลงแต่งงานกันเนี่ย มันเป็นช่วงที่ผมมีเวลาค่อนข้างมาก เพราะว่าเป็นช่วงที่หมดการแข่งขัน และไม่สามารถที่จะแข่งได้ เพราะว่าได้รับบาดเจ็บ ช่วงนั้นเราก็เลยมีเวลาเยอะ แล้วก็พอถึงวันหนึ่งที่เราจะต้องมองไปข้างหน้า ต้องทำธุรกิจต่อไปในอนาคต เพื่อจะมีรายได้เข้ามาในครอบครัว ซึ่งช่วงหลังๆ งานเยอะ รวมถึงตัวน้องฟ้าเองด้วย ที่ต่างประเทศเค้าก็งานเยอะ เราได้ลองหลายวิธีแล้ว ที่จะทำยังไงให้มันมีเวลาให้กันและกันมากที่สุด ซึ่งแน่นอนที่มันไม่มีเวลาให้กันร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ''
 
สาเหตุที่แยกกันอยู่นั้นคือไม่มีเวลาให้กันใช่ไหม?
 
ภราดร : ''ครับ เหตุผลหลักครับ''
 
จากนั้นฮาร์ทได้อธิบายเหตุผลที่ภราดรพูดให้นาตาลีฟัง แล้วถามนาตาลีกลับถึงสาเหตุที่ต้องเลิกรากัน?
 
นาตาลี : ''ทั้งคู่เป็นคนที่ต่างก็มีความจริงใจ แล้วก็มีจิตใจที่ดีต่อกัน ไม่ได้มีควงามโกรธแค้นเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด ทั้งคู่มีความเห็นพ้องตรงกันว่า มีการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ทั้งคู่ก็เลยตกลงที่จะเดินแยกทางกัน คุณนาตาลียกตัวอย่างให้ฟังว่า เธอจะต้องเดินทางไปที่ไหนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายๆ เดือน คุณภราดรเองก็มีภารกิจของเค้าเอง ก็เลยทำให้สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเหมือนแรงกดดัน ทำให้ชีวิตแต่งงานของทั้งคู่ไม่ราบรื่นเท่าที่ควร สุดท้ายก็เลยต้องทำให้ทั้งคู่แยกทางกัน''
 
อยากจะถามว่า 3 ปี ที่ผ่านมาใช้เวลาเป็นสามี-ภรรยาจริงๆ กันกี่วัน?
 
นาตาลี : ''เค้าบอกว่า ก็ใช้ชีวิตเหมือนสามี-ภรรยาทั่วๆ ไป ตั้งแต่ต้นมาจนถึงกรกฎาคมปี 53 เมื่อนับจริงๆ ก็ถึง 3 ปี เกือบๆ จากจุดนั้นแหละ ตั้งแต่ตอนนั้นมา ด้วยความกดดันต่างๆ และตารางงานที่ไม่ลงตัวกัน ก็เลยทำให้ทั้งคู่แยกกันใช้ชีวิตอยู่กันคนละที่ แต่ยังไม่ได้เลิกกัน ลองเดตกับคนอื่น เค้าทั้งคู่รู้ว่าไปด้วยกันไม่ไหว เค้าไม่ได้โกรธกัน คิดว่าชีวิตของแต่ละคนก็ต้องมีชีวิตของแต่ละคน เค้าก็เลยตัดสินใจที่จะไปใช้ชีวิตแบบแยกกันอยู่ก่อน หลังจากนั้นค่อยกลับมาตัดสินใจกันทีหลัง''
 
ภราดร : ''ธรรมเนียมอย่างตะวันตกเนี่ยก็ถือว่าเราใช้ชีวิตด้วยกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิดอะไรในธรรมเนียม เราก็หมั้น เราก็แต่งงานแล้วก็ใช้ชีวิตปกติ เป็นคู่สามี-ภรรยาปกติ ส่วนจะมีเวลามากน้อยก็ขึ้นอยู่ตามตารางงานที่เราบอก ก็มาจนถึงช่วงกรกฎาคมปีที่แล้ว ซึ่งเราก็ตกลงกัน แต่ไม่ได้ตกลงกันว่าโอเคจะแยกกันอยู่แล้วไปมีใครก็ได้ ซึ่งประเด็นไม่ใช่ตรงนั้น แต่ที่เราแยกกันอยู่ก็เผื่อว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น จะคิดถึงกันมากขึ้นหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างโอเคขึ้น กลับมาดีขึ้น ก็กลับมา แต่พอลองทำดูแล้ว คิดว่าไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ ก็ถือแนวทางนั้นไป''
 
รู้จักกันมาก่อนแต่งงานก็ร่วมปี ก็มีศึกษาดูใจกันมานานพอสมควร ไม่รู้เลยเหรอว่า ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมันไปด้วยกันไม่ได้?
 
นาตาลี : ''คือตอนนั้นทุกอย่างมันดูสดใสไปหมดเพราะเรามีการวางแผนว่าจะเป็นสามี-ภรรยา หรือแม้แต่คิดจะมีบุตรด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายความเป็นจริงก็คือความเป็นจริงเมื่อเราได้ลองใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสามี-ภรรยาประมาณ 2 ปีเศษเกือบ 3 ปีเราถึงได้ทราบว่ามันมีอะไรบางอย่างไม่ตรงกันนอกเหนือจากเวลาที่ไม่ตรงกันแล้วปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือรสนิยมหรือเปล่า''
 
ภราดร : ''ผมเชื่อว่าหลายคู่ที่คบกันเป็นแฟนหรือเป็นสามี-ภรรยาไม่สามารถทราบได้ว่าในอนาคตจะออกมาหัวหรือก้อย แต่สิ่งที่เราได้ใช้เวลาร่วมกันเราก็พยามที่จะทำให้ดีที่สุดแล้วในการที่ใช้ชีวิตร่วมกัน และอย่างที่น้องฟ้าบอกก็คือบางครั้งเราหวังไว้ว่าอย่างนั้นอย่างนี้แต่ในที่สุดมันก็ไม่สามารถทำได้ในสิ่งที่เราหวังไว้การที่เราจะตัดสินใจในก้าวต่อไปก็จะต้องการการตกลงของคนสองคน ต้องมีการคุยกันแล้วและคิดหาวิธีที่ดีที่สุดและเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคน เราสองคนโชคดีที่ไม่ได้ทะเลาะกัน เพราะอย่างที่บอก ยังมีหลายอย่างที่เราจะทำด้วยกันในอนาคตอีก''
 
นาตาลี : ''บอลชอบซิ่งมอเตอร์ไซค์ ซึ่งนาตาลีเองก็เคยนั่ง แต่ในความรู้สึกคือมันไม่ควรเอาเวลาที่ควรจะทำอย่างอื่นไปนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์''
 
ภราดร : ''ถ้าให้ยกตัวอย่างก็เหมือนกับว่าชอบฟังเพลงคนละแนวกัน ถามว่าฟังด้วยกันได้ไหมก็ได้แต่ถ้าฟังในสิ่งที่เราชอบเราก็จะรู้สึกดีกว่า คือมันเป็นปกติของมนุษย์อยู่แล้ว ความชอบความเห็นก็ต้องมีบ้างที่ไม่ตรงกัน''
 
ยังรักกันอยู่หรือเปล่า?
 
ภราดร : ''แน่นอนครับ ความรักยังมีอยู่ คือผมเชื่อว่าด้วยตัวผมเองและตัวน้องเองที่ได้ตัดสินใจจะใช้ชีวิตกับผู้ชายหรือผู้หญิงสักคนหนึ่งที่เรามองเอาไว้ว่าเราจะใช้ชีวิตด้วยกันจนมีลูกหรือจนแก่จนเฒ่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราคิดตรงกัน และแน่นอนความรักยังมีอยู่ แต่อย่างที่บอกว่าในเมื่อการใช้ชีวิตแบบสามี-ภรรยาเมื่อมันถึงทางตันแล้วมันก็ต้องมีทางอื่นที่จะใช้ชีวิตต่อไปให้ได้เหมือนเดิม แต่คงต้องเปลี่ยนไปอีกแนวทางนึง''
 
หลายคนมองว่าที่แต่งงานกันเพราะเป็นการต่อยอดของอาชีพของแต่ละคนหรือเปล่า?
 
ภราดร : ''ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็มักเจอคำถามนี้ตลอด ซึ่งตัวผมและตัวน้องฟ้าเราไม่ได้คิดถึงจุดนั้นเลยเราคิดถึงแต่เรื่องที่ว่าเรารักกันชอบกัน ตั้งแต่แรกที่เราคบกันเราคิดเหมือนกันตลอด แต่เมื่อวันนี้แผนที่วางมันไม่ได้ออกมาแบบเดียวกับที่เราคิดเราก็ยังต้องดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้เลิกกันเพื่อสร้างกระแสหรือเปล่าเพื่อให้ทั้งคู่กลับมาได้อยู่ในสื่ออีกครั้งหรือเปล่า''
 
นาตาลี : ''ไม่ใช่ค่ะ ก็เหมือนอย่างครั้งแรกเราเจอกัน เรารักกันเพราะเราต่างเป็นหนุ่มเป็นสาวด้วยกันทั้งคู่ และมีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกันจะมาแต่งงานกันมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในขณะเดียวกันการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่แบบสามี- ภรรยาด้วยกันสักพักเราก็ได้เรียนรู้อะไรซึ่งกันและกันมากขึ้น ณ ตอนนี้เราเลยตัดสินใจด้วยกันทั้งคู่ว่าเราจะแยกทางกันเพราะว่าเรายังหนุ่มยังสาว และยังมีชีวิตอีกเยอะที่จะได้อยู่และพบเจออะไรอีกหลายๆ อย่างก็เลยตัดสินใจที่จะจากกันตรงนี้ดีกว่า ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการต่อยอดทางธุรกิจหรือสร้างกระแสแต่อย่างใด''
 
สมัยอยู่กินด้วยกันบอลทำหน้าที่สามีอย่างไรบ้าง?
 
นาตาลี : "สมัยที่อยู่เคียงข้างฉันเขาเป็นคนที่อ่อนโยน หลายคนมองว่าเขาเป็นนักกีฬามาดแมนฮึกเหิม เข้มแข็ง แต่ก็อ่อนโยน มีความเป็นสุภาพบุรุษ อยู่เคียงข้างฉันทั้งยามดีและร้าย คนเรามีร้ายอารมณ์ทั้งสุขใจเศร้าใจ บอลอยู่ด้วยตลอด เขาไม่ได้ไนต์กันฉัน กับคนอื่นด้วยๆ "
 
เขาไนซ์กับผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่าถึงต้องแยกทางกัน?
 
นาตาลี : "ไม่ใช่ไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนอื่น แต่เหมายถึงเขาเสมอต้นเสมอปลาย กับแฟนเทนนิส และประชาชนทั่วไป"
 
ช่วงนี้นาตาลียกตัวอย่างว่า "ที่บ้านเลี้ยงแมว 3 ตัว" ฝ่ายบอลก็เสริมขึ้นมาทันทีว่า  "ใช่" จริงๆ ไม่ได้ชอบเลี้ยงสัตว์เท่าไหร่ ก่อนที่จะเจอฟ้าไม่ได้เลี้ยงเลย พอมาใช้ชีวิตด้วยกันก็มีแมวตัวนี้เข้ามาในชีวิต ตอนแรกคิดว่ายังปรับตัวกันไม่ได้ แต่มาคิดว่าคนเราการที่คนเราจะรักกัน จะรักในสิ่งที่เราชอบคนเดียวไม่ได้ ต้องรักในสิ่งที่ไม่ชอบในตัวเขาด้วย" 
 
ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันทะเลาะกันบ่อยไหม?
 
ภราดร :"ไม่บ่อย มันไม่เชิงว่าทะเลาะกัน แต่เป็นความคิดเห็นไม่ตรงกัน ไม่เข้าใจกันเท่านั้นเอง ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือ เพราะมันไม่ใช่วิธีที่ผู้ชายควรทำกับผู้หญิงอยู่แล้ว"
 
ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจกันเรื่องอะไร?
 
ภราดร : "น่าจะเป็นเรื่องเวลาอย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกว่าเป็นเหตุผลหลัก เพราะเวลามันคือทุกอย่าง เรามาช้ามาเร็ว มาสายเกินไป ทุกอย่างคือเรื่องเวลาหมด"
 
นาตาลี : "ประเด็นที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในขณะที่เราใช้ชีวิตด้วยกัน ทำไมเราไม่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่านี้ ก็คือหลักๆ เลยเราใช้ชีวิตไปคนละทาง มีงานแตกต่างกัน แน่นอนว่าเรายังอยู่ในวัยหนุ่มสาว การที่จะก่อร่างสร้างตัวเก็บเงินเก็บทองเป็นเรื่องสำคัญ แต่การที่ชีวิตไปคนละทางเนี่ยมันเป็นแรงกดดันหลักที่ทำให้ชีวิตแต่งงานไปไม่รอด"
 
ช่วงนี้ฮาร์ทกล่าวว่า เมื่อซักครู่ได้ถามนาตาลีว่า เคยคิดบ้างไหมว่า หากคนใดคนหนึ่งยอมที่จะเลิกงานที่ตัวเองทำ แล้วก็ไปใช้เวลาอยู่ด้วยกัน นาตาลีเค้าได้เพียงแต่ยิ้ม คิดว่ามันอาจจะสายไปแล้วที่ผมจะถามคำถามนี้ จากนั้นได้หันไปถามคำถามกับภราดรต่อ 
 
นาตาลี เป็นภรรยาแบบไหน ในช่วงที่ใช้ชีวิตด้วยกัน? 
 
ภราดร :"ก็ตั้งแต่คบกัน ตั้งแต่เป็นแฟนจนเป็นสามีภรรยากัน เค้าก็เป็นภรรยาที่ดีครับ จริงๆ แล้วคือเราทานอาหารที่บ้านกันน้อยมาก แต่เวลาเค้าทำอาหารให้ทำชอบทำอาหารรัสเซีย ถ้าคะแนนเต็ม 10 ก็ให้เต็มแม็กซ์เลยครับ" ฮาร์ท หันไปเล่าให้นาตาลีฟัง นาตาลีฟังแล้วอมยิ้ม 
 
เห็นว่านาตาลีดูแลถึงขั้นบีบยาสีฟันให้ตอนเช้าจริงไหม?
 
ภราดร :"ก็ทำเป็นประจำครับ แต่ส่วนใหญ่จะทำเวลาที่เราไปต่างประเทศ หรือไปต่างจังหวัดด้วยกัน คือพยายามว่าจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากที่สุด คือมีอยู่ช่วงหนึ่งเรารู้ตัวแล้วว่าเวลาเริ่มไม่ค่อยมี เราก็พยายามปรับตัว ก็คิดกันว่า เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะไปต่างจังหวัดด้วยกัน เช่นพัทยา ภูเก็ต ไม่ต้องทำงานก็จะไป กลับมาทำงานวันธรรมดาไป เราก็ทำทุกอย่าง อย่างเรื่องบีบยาสีฟันผมว่าหลายๆ คู่เขาก็ทำ"
 
คำถามเดียวกันฮาร์ทได้หันไปถามนาตาลี พร้อมกับบอกว่า ภราดรชื่นชมคุณ นาตาลี อมยิ้มเล็กๆ พร้อมกับหันไปสบตาบอลก่อนตอบคำถาม
 
นาตาลี  : "ในขณะที่เรามีความรัก และความหวานให้กัน เราก็มีช่องว่างระหว่างกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ในเรื่องของโลกส่วนตัวของกันและกัน ฉันก็เคารพในโลกส่วนตัวของภราดร ภราดร ก็เคารพในโลกส่วนตัวของดิฉัน"
 
ภราดร : "เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องจริงครับ ถ้ามองมุมหนึ่งคือเราไม่ได้หวานมากจนเลี่ยนขนาดนั้น แต่เราจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่างน้องเขาจะไปทานข้าวไปเที่ยวกับเพื่อนเราไม่จำเป็นต้องไปด้วย เพราะว่าเราก็มีกลุ่มเพื่อนของเราที่จะไปด้วย เราเชื่อใจซึ่งกันและกัน แต่ถ้าไปด้วยกันก็มีอยู่บ่อยๆ "
 
นาตาลี : "ความเชื่อใจไม่เคยเป็นประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ชีวิตคู่พัง เราเชื่อใจกันสนิท ไม่มีความระแวงไม่มีความสงสัย ไม่กลัวว่าจะปันใจไปให้กับคนอื่น"
 
ที่ผ่านมีช่างภาพถ่ายรูปบอลในสถานที่สาธารณะ หรือในงานปาร์ตี้ สังสรรค์กับผู้หญิงคนอื่นอย่างเปิดเผย สาเหตุนี้หรือเปล่าทำให้ทั้งคู่ถึงมานั่งที่นี่แล้วบอกว่าจะแยกทางกัน? 
 
ภราดร : "ไม่ใช่ครับ อย่างที่บอกคือภาพของผมตั้งแต่แรกเนี่ยไปไหนไปกันเป็นกลุ่ม และหลายๆ ครั้งก็มีเพื่อนผู้หญิงไปด้วย ซึ่งผู้หญิงเหล่านั้นเป็นเพื่อน ประเด็นหลักไม่ใช่เรื่องผู้หญิงหรือผู้ชายเข้ามา แต่ด้วยความที่เป็นเป้าสายตาของคนทั่วไป เวลาไปไหนมาไหนก็อาจจะมีคนพูดถึง และถูกถ่ายรูป การคบกันอย่างที่บอกน้องฟ้าเค้าไว้ใจเราอยู่แล้ว เรียกความสัมพันธ์ของเราค่อยข้างจะแข็งแรงในช่วงนั้น"
 
มาถึงตรงนี้พิธีกรดำเนินรายการ บอกว่า จะถามน้องฟ้าเช่นเดียวกัน ถึงแม้น้องฟ้าจะบอกว่าความเชื่อใจไม่ใช่ประเด็นหลัก
 
นาตาลี : "สิ่งต่างๆ ที่คุณฮาร์ทพูดมาเนี่ย เขาได้ยินมาตั้งแต่แรกที่คบกันแล้ว ตั้งแต่ยังเด็กไม่แต่งงาน ก็มีข่าวออกมาว่าภราดรเป็นอย่างโน้นอย่างนี้เจ้าชู้มีแฟนหลายคน ทั้งหมดทั้งปวงนี้ดิฉันไม่เชื่อเลย เพราะว่าคุณบอลอยู่ข้างกายฉันตลอด ทั้งในตอนที่ข่าวลือเหล่านั้นออกมาบอลก็อยู่ข้างฉัน ตลอดเวลาที่อยู่กับฉัน ฉันเชื่อใจเขาตลอดว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวลือออกมาเลย ฉะนั้นถ้าคุณฮาทสงสัยว่าเป็นเพราะประเด็นนี้หรือเปล่าที่ทำให้เราต้องแยกทางกัน คำตอบก็คือไม่ใช่ค่ะ"
 
มาถึงตรงนี้พิธรกรดำเนินรายการกล่าวว่า ค่อนข้างชัดเจนว่าคู่นี้แยกทางกันด้วยดี อดีตก็เป็นอดีต แต่ทั้งคู่คงความเป็นเพื่อน และมิตรแท้อย่างถาวร แม้กระทั่ง ตอนที่เจอกันในห้องแต่งตัว เวลาทั้งทายกันทั้งสองก็กอดกัน มองเห็นแล้วว่า ไม่ได้เป็นการเสแสร้ง เพราะในนั้นไม่กล้อง เชื่อว่า ทั้งคู่มีคสามรักกันฉันเพื่อนแท้จริง
 
จากนั้นได้ถามคำถามเปิดใจภราดร และนาตาลี โดยเริ่มที่คำถามหนักขึ้น 
 
กระบวนการหย่าทั้งคู่มีข้อตกลงอะไรบ้าง ? 
 
ภราดร : "ก่อนที่จะถึงกระบวนการอย่าเราก็มีข้อตกลงกัน ทั้งตัวผมและน้องฟ้า ในการแยกกันอยู่ ซึ่งเหตุผลหลักๆ คือเราจะหย่าขาดจากกัน แยกสถานะในการเป็นสามีภรรยากันเลย แต่นั่นจะเป็นในส่วนของข้อกฎหมายของทางอำเภอ  ซึ่งตอนนี้เราก็อยู่ในขั้นตอนของการดูวันที่เราสะดวก ที่จะไปที่อำเภอครับ"
 
ตกลงกันเรียบร้อนแล้วใช่ไหมว่ายังไงก็จะไปที่อำเภอ  ?
 
ภราดร :"ใช่ครับ แต่ก็ต้องอยู่ที่ตารางเวลา ในหนึ่งถึงสองอาทิตย์ข้างหน้าว่าเราจะมีเวลาตรงกันไหนบ้าง"
 
จดทะเบียนไว้เขตไหน ?
 
ภราดร : "เขตยอดฮิตครับ" 
 
คิดว่าวันเวลาไหนที่จะไปที่อำเภอในการยื่นเรื่องหย่า  ?
 
ภราดร : "คิดว่าคงต้องดูเวลาก่อน แต่คาดว่า คงเดือนนี้แหละครับ ถ้าอย่างเป็นทางการนะครับ  ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาเราไม่ได้เป็รสามีภรรยากัน ซึ่งนะตอนนี้ ในเร็ววันนี้ หรือ อีกไม่กี่วันนี้ มีคนเห็นว่ามีภาพต่างๆ ออกไป ไม่ว่าจะผมเองหรือตัวน้องเองที่มีภาพออกไปกับเพื่อน ไม่ว่าเพื่อนชายเพื่อนหญิง ก็เป็นเรื่องที่เราตกลงกันแล้ว "
 
นาตาลี : "เราตกลงกันแล้ว  หลังจากที่ใช้ชีวิตสามีภรรยากันมาสามปี  ในเดือนกรกฎาคม ปี 53 เราตกลงกันว่าจะแยกกันอยู่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันต่อไป  แต่ในทางกฎหมายยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ ต่างคนต่างไปใช้ชีวิตส่วนตัว  ก็อาจจะมีโอกาสกลับมาคืนดีกันก็ได้ แต่นาตาลีตัดสินใจจะเดินหน้าต่อไป สุดท้ายก็คงจะไปจบกันที่อำเภอคือการจดทะเบียนหย่า"
 
ใจหายหรือไม่ในการแยกทางกัน ?
 
ภราดร : "ก็คุยกันตลอด เป็นไงบ้างสบายดีมั้ย รู้สึกยังไง โอเครึเปล่า ถามไถ่กันตลอด  คือความเป็นเพื่อนกันก็ยังอยู่  มันหลายความรู้สึก ดีใจที่เราได้มาเจอกัน คือมันเป็นไปได้ยากที่ตัวผมเองจะมาเจอกับน้องเค้า  เราเกิดคนละประเทศ  ถ้าพูดเป็นภาษาบ้านเราคือเราทำบุญกันมาเท่านี้ ถ้าเราเป็นคู่กันคงได้อยู่กันนานกว่านี้"
 
จังหวะนี้ นาตาลีเริ่มมีอาการสะอื้นไห้น้ำตาคลอ  และกล่าวว่า "นาตาลี รู้สึกตื้นตันใจและรู้สึกเช่นเดียวกับภราดร ถึงแม้วันนี้จะไม่ได้ใช้ชีวิตคู่เยี่ยงสามีภรรยา แต่ก็จะยังคงเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันต่อไปความเป็นมิตรความเป็นเพื่อนก็ยังคงมีต่อไป"
 
สินสมรสจะตกลงกันอย่างไร  ?
 
ภราดร : "อืม...ก็อย่างที่เห็นว่าเราแยกกันด้วยดี สิ่งที่เราตกลงกันว่าเราตกลงในสิ่งที่เราพอใจทั้งสองฝ่าย จริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากเลย  ผมคบกับน้องฟ้ามาสี่ปี เรารู้จักนิสัยกันเป็นอย่างดี สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง  น้องฟ้าเป็นคนที่น่ารักเค้าไม่ได้เอาเรื่องนี้มาเป็นปัญหาหรือประเด็นใหญ่"
 
นาตาลี : "ตรงนี้ไม่มีปัญหาเพราะเราต่างคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน ทรัพย์สินต่างๆ ที่เราหามาได้เราก็จะแบ่งกันอย่างยุติธรรม"
 
ความรักที่บอลให้นาตาลีจนถึงทุกวันนี้ยังมีเท่าเดิมหรือไม่ ?
 
ภราดร : "ยังมีเท่าเดิมครับ  มันเร่มจะเปลี่ยนเป็นความห่วงใยในอนาคตที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า เพราะว่าตอนที่เราสองคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันนั่นคือการตัดสินใจที่ไม่ใช่เรื่องเล็กเพราะเราต้องดูแลเค้าทั้งชีวิต  ในรหว่างที่เราใช้ชีวิตร่วมกันผมเชื่อว่าผมได้ทำหน้าที่สามีที่ดีคนหนึ่งในการที่จะดูแลภรรยาคนนี้  ส่วนเรื่องที่ผมห่วงเค้าหลังจากนี้ก็เป็นเรื่องที่เค้าทำธุรกิจ  ห่วงเรื่องเดินทาง"
 
"นาตาลีอธิบายว่าความรู้สึกต่างๆ ตั้งแต่รู้จักคุณบอล มันมีระยะของมัน แรกๆ ตอนเจอกันอาจจะเป็นความหลงใหลได้ปลื้ม เมื่อกี้เขาใช้คำว่าสปาร์กนะครับ เหมือนกับประกายไฟมันวูบวาบ มันจะหลงใหลมันจะดื่มด่ำ ความเสน่หา จากนั้นก็ค่อนข้างเปลี่ยน มาเป็นเป็นสามีภรรยารักกัน แล้วก็ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งทุกวันนี้ความรู้สึกที่คุณนาตาลีมาต่อภราดร ในแง่ของความรักก็เหมือนเดิม แต่ลึกซึ้งมากกว่าเดิม เพราะมีความหวังดีให้ซึ่งกันและกัน และเป็นเพื่อนกันตลอดไป แต่ในวันนี้ เงื่อนไขหลายๆ อยากมันไม่เวิร์ก มันไปด้วยกันไม่ได้ ฉนั้นมันก็เลยจบ อย่างที่เราเห็นว่าทั้งคู่ต้องแยกจากกัน ซึ่งเขาก็บอกว่าจากกันด้วยดี "
 
ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ไหม?
 
นาตาลี : "แน่นอนปรึกษา เพราะว่าพ่อแม่ของนาตาลีกับนาตาลีใกล้ชิดกันมาก มีอะไรเล่าสู่กันฟัง แต่แรกๆ พ่อแม่ค่อนข้างรู้สึกผิดหวัง ซึ่งก็แน่นอนว่า ลูกสาวแต่งงานไม่เท่าไหร่ก็หย่า ใครจะชอบ แล้วอีกอย่างหนึ่งพ่อแม่ก็รักภราดรเหมือนลูก สุดท้ายก็เข้าใจในความจำเป็นของทั้งคู่" 
 
ภราดรได้ปรึกษาพ่อแม่เหมือนกัน ว่าอย่างไรบ้าง?
 
ภราดร : "ครับก็ปรึกษาตลอด ก็คือพ่อแม่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เขาทั้งสองไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นเลย เขาก็พูดให้เราปรับตัวกันดู ทำยังไงให้มันปรับตัวกันได้ แต่อย่างไรก็ให้ผู้ใหญ่ และคุณพ่อคุณแม่ของเราให้คำปรึกษาตลอดเวลาอยู่แล้วครับ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่อย่างที่บอกครับว่า สุดท้ายแล้ว เราสองคน จะเป็นคนที่ตัดสินใจว่า เราจะทำอย่างไร"
 
แต่งงานกับภราดรเป็นสะใภ้เมืองไทย หย่าแล้วอยู่เมืองไทยไหม?
 
นาตาลี : "แน่นอนคนไทยรักนาตาลี นาตาลีก็รักคนไทย แล้วก็รู้สึกผูกพันกับประเทศไทยมาตลอด รู้สึกมากว่า 4 ปี และแน่นอนว่ายังคงผูกพัน และทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้แยกทางกับคุณภราดรเท่านั้นเอง"
 
มีอะไรฝากบอกแฟนๆ ไหม?
 
ภราดร : "ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า อย่างคำถามเมื่อกี๊ที่ถามน้องฟ้าว่ายังอยู่เมืองไทยไหม ซึ่งเป็นคำถามที่เราเคยคุยกัน ว่าถ้าเราแยกกันแล้วเนี่ย ยูยังจะอยู่เมืองไทยอยู่ไหม เขาก็บอกว่าอยู่ ซึ่งผมเองก็ดีใจ ที่ดีใจเพราะไม่ใช่ว่า น้องเขาจะจากเมืองไทยไปไหน รู้สึกดีที่เขารักเมืองไทย และมีความรู้สึกที่ดีกับคนไทย ที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น ทุกคนที่ให้ความรักกับเขา เขาสามารถรู้สึกได้ ไม่ว่าเขาจะไปไหนมาไหน ที่อยู่ในเมืองไทย ผมก็ดีใจตรงนั้น ส่วนเรื่องที่จะฝากถึงแฟนๆ ที่คอยตามข่าว และคอยให้กำลังใจ รวมถึงเพื่อนๆ คุณพ่อคุณแม่ แล้วก็พ่อแม่ของฟ้าเองด้วย อย่างบอลบอกว่าเรารักกันเหมือนเดิม แต่ช่วงเวลาที่มันเปลี่ยนไป ความรู้สึกก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป แต่สุดท้ายเรามีการให้กำลังใจเป็นประจำ เรื่องความรักที่เราเริ่มกันมาเมื่อ 4-5 ปี ที่แล้วก็ยังอยู่ตลอดไป และจะเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเราสองคน ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังทำข่าวภราดร-นาตาลี คงเข้าใจในสิ่งที่เราได้ตัดสินใจลงไป "
 
นาตาลี : "ขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ สื่อมวลชน และแฟนๆ  ทุกท่าน สำหรับความเข้าใจ และความเห็นอกเห็นใจ และในเรื่องของความเห็นส่วนตัว ตรงนี้ต้องขอขอบคุณมากๆ ที่ได้มาเจอภราดร และได้มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ได้มารู้จักครอบครัวส่วนหนึ่งของภราดร และยังคงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของภราดรตลอดไป และความรักที่เคยมีให้กับคุณภารดรอย่างไรก็คงเป็นอย่างนั้น จากกันไปไกลแต่ใจยังรักกันอยู่"
 
มีไรอยากบอกซึ่งกันและกันไหม?
 
ก่อนตอบคำถามนี้ ทั้งภราดร และนาตาลี เงียบไปพักหนึ่ง พร้อมหันมามองหน้ากัน ก่อนที่ ภราดรเป็นฝ่ายตอบก่อนตอบด้วยน้ำเสียงสั้นเครือ และมีน้ำตาคลอเบ้าว่า
 
ภราดร : "จริงๆ เราก็บอกกันไปแล้วนะครับ ก็คงบอกให้พี่ๆ สื่อมวลชนกับผู้ชม ที่ชมรายการนี้อยู่ สิ่งที่ผมได้บอกน้องฟ้าคือ ผมดีใจและโชคดีในทุกๆ อย่าง ที่ได้มีโอกาสได้เจอได้พบกัน แล้วก็ได้มาคู่กัน อย่างที่ผมบอกว่าผมเชื่อในเรื่องของพรหมลิขิตในชาตินี้ ถ้าเราเป็นคู่กันจริงก็ได้เป็นคู่กันอีก" พูดจบภราดรหันไปมองหน้านาตาลี ด้วบสีหน้าที่ค่อนข้างซึมเศร้า
 
นาตาลี : "ถึงแม้ว่าจะจากกัน แต่ตัวของเราทั้งคู่ก็ยังอยู่ ใจอาจจะจากกัน แต่ความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่มีให้กันยังอยู่ เขายังสามารถทำธุรกิจร่วมกัน คบหากันเป็นเพื่อน ความรักความรู้สึกดียังอยู่"
 
หลังจากตอบคำถามสุดท้าย เสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่มองหน้ากันเป็นเวลานาน ต่างฝ่ายต่างน้ำตาคลอ ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วโผเข้ากอดกัน เป็นการแสดงให้เห็นว่า แม้วันนี้ทั้งคู่จะไม่ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากันแล้ว แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์อันดีให้กันในฐานะเพื่อน จนทีมงานรายการตีสิบต้องรีบเอากระดาษทิชชู่มาให้ทั้งคู่ซับน้ำตา
 
ภายหลังจากเปิดใจในรายการตีสิบเรียบร้อยแล้ว บอล-ภราดร และ น้องฟ้า-นาตาลี ได้ให้สัมภาษณ์กับกองทัพนักข่าวต่อ ซึ่งคำถามในช่วงนี้ค่อนข้างถึงพริกถึงขิงมากกว่าช่วงที่เปิดใจในรายการเป็นอย่างมาก 
 
งานกับภรรยาอะไรสคัญกว่ากัน?
 
ภราดร : "ผมเห็นความสัมพันธ์ของภรรยามาก่อนอยู่แล้ว"
 
แล้วทำไมถึงทุ่มให้เรื่องงาน?
 
ภราดร : "มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของมนุษย์ทุกคน เรื่องงาน เรื่องเวลา เรื่องครอบครัว รวมถึงเรื่องเพื่อนฝูงด้วยมันก็อยู่ที่ว่าเราจะแบ่งยังไงท้ายสุดแล้วเราก็คุยกันแล้วว่าเราจะเลือกใช้วิธีนี้ดีกว่าที่จะเดินต่อไปโดยมีขวากหนามมากมายมันอาจจะออกมาอีกมุมนึงซึ่งเป็นมุมที่เราไม่ต้องการ"
 
นาตาลี : ''แรกๆ ก็เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจลำบากเพราะสามี ภรรยาตามหลักแล้วคือต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันแต่สุดท้ายแล้วตัวฉันเองก็ให้ความสัมพันธ์กับเรื่องงานไม่แตกต่างจากบอล''
 
คิดไหมว่าชีวิตของผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกจะปิดฉากแบบนี้?
 
นาตาลี : "ไม่มีใครหรอกที่อยากมีชีวิตแบบนี้อย่าง พ่อ แม่ ของฉันเองก็ยังสามารถใช้ชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้เลย เขาทั้งคู่ก็หย่ากัน แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาแบบเพื่อน  ต่อจากนี้ระหว่างฟ้าและ บอลก็จะใช้ชีวิตต่อไปแบบพ่อแม่ของฉัน''
 
ตั้งแต่แยกกันอยู่มีผู้ชายเข้ามาจีบไหม?
 
นาตาลี : ''ก็มีบ้างแต่ตัวฉันเองก็เป็นคนที่ระมัดระวังในเรื่องนี้มากไม่อยากให้คนมองเหมือนว่าโดดมาจากเรือลำนึงแล้วไปอยู่บนเรืออีกลำเลย กับเรื่องนี้คงต้องศึกษาไปอย่างช้าๆ แต่ ณ เวลานี้มันไม่เหมาะที่จะพิจารณาใครเป็นพิเศษเพราะว่ายังรับไม่ได้ที่จะมองหาใครเข้ามาแทนที่บอล''
 
ผู้ชายคนต่อไปจะยังเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ? 
 
นาตาลี : "ใครก็แล้วแต่มันอยู่ที่ว่าเขาจะมาจับหัวใจฉันได้หรือเปล่าเท่านั้น"
 
อนาคตจะมีการปรึกษาเรื่องความรักกันอยู่หรือเปล่า?

 
นาตาลี : "ถ้าถามตอนนี้คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่ในอนาคตไม่แน่เมื่อทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีอาจจะปรึกษา
บ้าน"
 
ภราดร : "ก็ยังเป็นบ้านที่เราอยู่ด้วยกันแม้ว่าเราจะเลิกกันแล้ว ปกติแล้วเราสองคนก็มีคอนโดฯ ของแต่ละคนอยู่แล้ว ทรัพย์สินหารกันลงตัว คงไม่ใช่เรื่องของการหารหรือไม่หารเพราะว่าวันที่เราเดินมาชีวิตด้วยกันเราก็ไม่ได้เอาเปรียบกันอยู่'' 

มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตบ้างไหมเวลานี้?
 
ภราดร : "ตัวผมเองก็มีมาเรื่อยๆ อยู่แล้วมันเป็นธรรมชาติของผมไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็จะมีคนเห็นตลอดเวลา มันขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่ผมทำในขณะนั้นมันคือเพื่อนหรือเปล่าหรือคนอื่นที่ผมเอาแอบเก็บไว้ซึ่งผมเองก็ไม่เคยเก็บไว้ก็อย่างที่บอกคือว่าเราเชื่อใจกันจึงไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ตั้งแต่แรก"
 
เพราะเรื่องผู้หญิงอื่นหรือไม่ทำให้ต้องแยกกัน?
 
ภราดร : "บอลไม่ใช่เห็นเพราะการที่เรามีเพื่อนผู้หญิงเข้ามาเพราะตั้งแต่แรกเราก็มีระยะห่างของกันและกันในอนาคตก็อาจจะพัฒนาเป็นแฟนกันก็ได้ ซึ่งตอนนี้เราทั้งสองคนก็เปิดใจว่าจะให้พื้นที่กันตรงนี้ก็เลยชัดเจนกันในเรื่องที่แยกกัน"
 
เทคโนโลยีทำให้ติดต่อกันง่ายได้ถ้าใจรักจริงไม่น่าเลิกกัน?
 
ภราดร : "เขาก็เห็นด้วยแต่สุดท้ายก็เป็นแบบที่ทุกคนเห็นนี่แหละแต่คือเราทั้งสองคนได้พยายามแล้ว
 
มีธุรกิจร่วมกันรึเปล่า?
 
ภราดร : "ธุรกิจตอนนี้ที่ผมทำก็คือธุรกิจอาหารเสริม ''เมจิกไทยเฮิร์บ'' เป็นผลิตภัณฑ์ของผู้ชาย ก็เป็นธุรกิจหลักตอนนี้ที่ผมทำนอกเหนือจากการเป็นโค้ชทีมชาติ ในอนาคตก็มีแพลนเตรียมธุรกิจที่เกี่ยวกับน้องฟ้าชื่อ พิ้งค์เมจิก บาย นาตาลี ซึ่งตัวนี้น้องฟ้า เป็นเจ้าของผลิตภัณ์เรียกได้ว่าเป็นพรีเซนเตอร์และเจ้าของเองเลย นี่คือสิ่งที่จะมองไปข้างหน้าและทำร่วมกันสิ่งที่จึงทำให้เราสองคนอยู่ด้วยกันในมุมของธุรกิจ น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกหวงใยกันอยู่"
 
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่านาตาลีจะฟ้องหย่าจริงไหม?
 
ภราดร : "ไม่จริงเลยครับ" 
 
วันนี้ที่มาแถลงข่าวมีใครบังคับมาหรือเปล่า?
 
ภราดร : "ไม่ได้มีการเตี๊ยมกันที่ผมคุยกับ  น้องฟ้าไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม วันนี้ก็ครบ 8 เดือนเราเคยคิดว่าถ้ามันดีเราก็กลับมีคบกันแต่ถ้ามันไม่ดีเราก็คงต้องแยกกัน"
 
ท้ายการให้สัมภาษณ์ "นาตาลี" กล่าวกับสื่อโดยสรุปว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจทั้งตน และภราดร หวังว่าหลังจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้แล้ว ทุกคนจะเข้าใจตนทั้งคู่มากขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากวงล้อมสื่อเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »