ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มั่นใจการได้รับสัญญาใหม่ 4 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา น่าจะทำให้ตัวเองมีส่วนร่วมกับทีมในยุคใหม่มากยิ่งขึ้น พร้อมเชื่อแข้งดาวรุ่งของทีมจะก้าวขึ้นมาสร้างความสำเร็จได้ไม่น้อยไปกว่า นักเตะรุ่นเก๋าอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ และ พอล สโคลส์ เลยด้วย

    ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อว่าการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ยาวออกไปอีก 4 ปีจนถึงปี 2015 เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา จะส่งผลให้ตัวเองมีส่วนร่วมกับทีมในยุคใหม่มากยิ่งขึ้น

     เฟล็ทเชอร์ กล่าวว่า "ผมมั่นใจในศักยภาพที่เรามี รวมไปถึงประสบการณ์ที่มีมากมาย นักเตะอย่าง ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์ และ แกรี่ เนวิลล์ ไม่เคยต้องมีใครมาทดแทน เนื่องจากพวกเขาเป็นสุดยอด แต่คุณก็ต้องหวังว่าคลื่นลูกใหม่จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้ด้วย ตัวเอง และความสำเร็จส่วนตัวของพวกเขา ผมเชื่อมั่นในความสามารถของนักเตะเหล่านี้ ที่มีความมุ่งมั่นและความตั้งใจอยู่อย่างล้นเหลือ" 

     ขณะเดียวกัน เฟล็ทเชอร์ ยังชื่นชม กิ๊กส์ และ สโคลส์ ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ตนได้ทำตามนับตั้งแต่เข้ามาเป็นนักเตะ "ผีแดง" เมื่อยังเป็นนักเตะดาวรุ่งด้วยว่า "มีหลายคนที่เป็นเหมือนแรงบันดาลใจ ไม่ใช่เฉพาะผลงานในสนามเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงการปฎิบัติตัวของพวกเขาด้วย พวกเรามองไปยังพวกเขาและต้องการที่จะเจริญรอยตาม หากใครก็ตามที่สามารถดำเนินชีวิตการค้าแข้งให้เข้าไปใกล้กับพวกเขา และโชคดีได้เล่นกับยอดทีมเป็นระยะเวลาครึ่งหนึ่งของพวกเขา คุณก็น่าจะต้องทำได้ดีและอาจมองได้ว่าคุณเป็นคนโชคดีมาก" 

      พร้อมกันนั้น มิดฟิลด์วัย 27 ปี ยังพูดถึงชีวิตของตนที่ย้ายจากดินแดนบ้านเกิดมาค้าแข้งในแดนผู้ดีกับ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ยังเป็นนักเตะเยาวชนว่า "มันเป็นเรื่องยากที่ย้ายจาก สกอตแลนด์ ตอนนั้นผมเพิ่งอายุได้ 15 ปี และทิ้งครอบครัวเอาไว้ ผมคิดว่าผมโตแล้ว แต่ผมยังคงเป็นเด็กหนุ่ม และสโมสรก็จำเป็นต้องให้การสนับสนุนผม"

    "โชคดีที่ทุกอย่างมันลงตัวไปหมดสำหรับผมเพื่อที่จะได้รับการศึกษา เกี่ยวกับฟุตบอลอย่างแท้จริง และมันก็เป็นประสบการณ์ที่สุดยอด จากนั้นเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันมีทั้งช่วงเวลาที่ดีมากๆ และเลวร้ายมากๆ พวกเขาเป็นหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้คุณแข็งแกร่งมีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้า พร้อมทั้งกระหายในความสำเร็จที่มากยิ่งขึ้นไปอีก ผมมีความสุขมากกับทุกนาที ซึ่งมันก็ไม่น่าจะมีที่ไหนดีกว่าที่นี่อีกแล้ว" เฟล็ทเชอร์ กล่าวในที่สุด