"สิงโตคำราม" อังกฤษ ที่จัดชุดบีลงอุ่นเครื่องนำทัพโดยแกเร็ธ แบร์รี่ ที่จะรับบทกัปทีมเกมนี้, เจอร์เมน เดโฟ และ แอนดี้ แคร์โรลล์ คู๋หัวหอกต่างไซด์ รับมือ "ดาวดำ" กานา ที่มีดาวดังอย่างอังเดร อายิว, กียาน อซาโมอาห์ และ ซัลลีย์ มุนตารี่ ขณะที่ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน จัดชุดสองลงเล่นเหมือนกันหวังทดสอบดาวรุ่งอย่างอันเดร ชูร์เล่ และ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ รับมือออสเตรเลียที่ขาด ทิม เคฮิลล์

     แกเร็ธ แบร์รี่ มิดฟิลด์แมนฯ ซิตี้ ยอมรับ ปีติยินดีกับการได้โอกาสเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ สำหรับเกมลับแข้ง กับ กานา วันอังคารนี้ แม้ก่อนหน้านี้จะเคยเป็นมาบ้างในระหว่างเกมก็ตาม
 
        แบร์รี่ กล่าวว่า "แน่นอนว่านี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับอาชีพของผม เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง"
 
        "แต่ผมจะยังเป็นนักเตะคนเดิม คุณไม่มีทางเปลี่ยนไปได้เมื่อมีเครื่องหมายกัปตันทีมอยู่บนต้นแขน"
        

     กียาน อซาโมอาห์ ดาวยิงทีมชาติกานา จากซันเดอร์แลนด์ ประกาศความตั้งใจ จะพาทีม "ดาวดำ" บุกกำราบ ทีมชาติอังกฤษ ให้ได้เป็นทีมแรกจากทวีปแอฟริกา สำหรับเกมลับแข้งวันอังคารนี้
 
        กี ยาน ที่พา กานา เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 กล่าวว่า "สถิติฟ้องว่า ไม่มีชาติแอฟริกันเคยบุกมาชนะ อังกฤษ ได้มาก่อน ดังนั้น เราจึงต้องลองทดสอบโชคชะตาของเราดู"
 
        "ผมไม่เคยเล่นในเวมบลีย์มาก่อน ฉะนั้นนี่คือฝันที่เป็นจริง นี่คือเกมอันยิ่งใหญ่ของพวกเราชาวกานายาน"
 
        "เรา จะได้รับการหนุนหลังอย่างมาก และผมถูกร้องขอตั๋วจากหลายคน แต่ผมไม่รู้จะตอบพวกเขาอย่างไร อังกฤษ คือหนึ่งในชาติมหาอำนาจ ดังนั้นทุกคนในกานาจึงรู้จักพวกเขา ถ้าไม่ใช่เราที่ลงเล่น ทุกคนจะหันไปเชียร์ทีมชาติอังกฤษ"     
     

     กียาน ตั้งความหวังว่า อังกฤษ จะคว้าแชมป์โลกสมัย 2 ได้ในไม่ช้า แต่ก็ต้องการให้เกิดขึ้นก่อนที่กานา จะไปถึงจุดนั้น
 
        "ผมหวังว่าสักวันหนึ่ง อังกฤษ จะคว้าแชมป์โลกได้อีกครั้ง เพราะพวกเขามีทรัพยากรนักเตะชั้นดี แต่บางทีเราอาจจะได้ก่อนพวกเขา"
 
        "เรา พิสูจน์ตัวไปแล้วในแอฟริกาใต้ เราแสดงให้เห็นว่าเรามีดีพอ เรามีนักเตะรุ่นใหม่ที่สามารถทำมันให้สำเร็จได้" อดีตกองหน้าอูดิเนเซ่ ทิ้งท้าย   
     

     สนาม : สตาดิโอน อิม โบรุสเซีย พาร์ค, มึนเช่นกลัดบัค เยอรมัน
 
        เกม อุ่นเครื่องคู่น่าสนใจอีกคู่หนึ่งของคืนวันอังคาร ระหว่างทัพ "อินทรีเหล็ก" ทีมชาติเยอรมัน เปิดบ้านปะทะ "จิงโจ้" ออสเตรเลีย และเกมนี้ยังเป็นการย้อนรอยของศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบแรก กลุ่มดี ซึ่งเกมนั้นเป็น อินทรีเหล็ก จิกถล่ม 4-0 จาก 4 ประตูของ ลูคัส โพดอลสกี้, มิโรสลาฟ โคลเซ่, โธมัส มุลเลอร์ และ คาเคา โดยปัจจุบันมีแค่รายหลังสุดเท่านั้นที่ไม่ติดทัพชุดนี้
 
        อย่าง ไรก็ตามในเกมนี้ อินทรีเหล็ก จะไม่มี ฟิลิปป์ ลาห์ม, เมซุต โอซิล และ ซามี เคดิร่า แน่นอน หลังจาก โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ ได้อนุญาตทั้งสามรายกลับไปรายงานตัวกับต้นสังกัดแล้ว โดยเฉพาะรายของ โอซิล กับ เคดิร่า ที่สังกัดทีม เรอัล มาดริด ยังคงมีโปรแกรมสุดโหดรออยู่ในการพา "ราชันชุดขาว" ลุ้นคว้าทริปเปิลแชมป์
 
        แถมล่าสุดรายของ เยโรม บัวเต็ง แบ็กดาวรุ่งเชื้อสายกานา ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็จะหมดสิทธิ์ลงสนามเกมนี้ด้วยเช่นกัน หลังบาดเจ็บเข่าจากการฝึกซ้อม จนต้องถอนตัวออกจากแคมป์ไปเรียบร้อยแล้ว
 
        สำหรับการจัดทัพ เกมนี้คาดว่า เลิฟ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านไล่ถล่ม คาซัคสถาน 4-0 เกือบยกชุด โดยคาดว่าจะเหลือเพียงแค่ มุลเลอร์ เป็นนักเตะคนเดียวจากคืนวันเสาร์ ที่ได้ลงสนามเป็น 11 คนแรกในคืนนี้
 
        ทว่า รายของ มิโรสลาฟ โคลเซ่ น่าจะมีโอกาสถูกส่งลงสนามอย่างแน่นอน เนื่องจากตอนนี้เจ้าตัวกำลังลุ้นทำลายสถิติการยิงประตูในนามทีมชาติของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่จำนวน 68 ประตู ลงให้ได้ โดยตอนนี้ โคลเซ่ ซัดไปแล้ว 61 ประตู
 
        สำหรับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ อาร์เน่ ฟรีดริช ตัวหลักจากชุดบอลโลก 2010 ที่หายหน้าไปจากทีมชาติหลังจบฟุตบอลโลก เนื่องจากบาดเจ็บยาว จะได้กลับมาลงยืนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ดาวรุ่งจอมแกร่งจาก ดอร์ทมุนด์
 
        ข้ามดูทาง ออสเตรเลีย ภายใต้การนำทัพของ โฮลเกอร์ โอเซียค กุนซือเลือดด๊อยท์ช ที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้งเป็นเกมแรก หลังจากอกหักเป็นแค่รองแชมป์ เอเชียน คัพ 2011 ด้วยการพ่ายต่อ ญี่ปุ่น 0-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
 
        ขุม กำลังชุดนี้ที่ โอเซียค เรียกมาทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นแกนหลักจาก เอเชียน คัพ 2011 แทบทั้งสิ้น นำทัพมาโดย มาร์ค ชวาร์เซอร์, แฮร์รี่ คีเวลล์, เบรตต์ โฮลแมน, ลูคัส นีล และ มิเล่ เยดินัค แต่น่าเสียดายคือรายของ ทิม เคฮิลล์ ดาวเตะจาก เอฟเวอร์ตัน ที่โอเซียคไม่ขอเรียกเจ้าตัวมารับใช้ชาติ หลังจากเคฮิลล์ยังมีอาการบาดเจ็บเท้ารบกวนอยู่
 
        นอกจากนี้ โอเซียค ยังได้ตัดสินใจเรียกตัว เจมส์ ฮอลแลนด์ กองกลางจาก สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม ในลีกดัตช์ กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง หลังเคยติดทีมชาติครั้งล่าสุด เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ อดัม ซาโรต้า กองกลางของ เอฟซี อูเทร็คท์ และ เบรนท์ แม็คกรัธ กองหน้าที่ค้าแข้งอยู่กับ บรอนด์บี้ เข้าติดทีมชาติเป็นครั้งแรก
 
        การ จัดทัพในเกมนี้ยังยึดระบบ 4-4-2 ตามเดิม ผู้รักษาประตูเป็น ชวาร์เซอร์ ลงยืนเฝ้าเสาก่อน ส่วน มิทเชลล์ ลันเกรัค นายด่านจาก ดอร์ทมุนด์ ก็น่าจะได้รับโอกาสถูกส่งลงมาเฝ้าเสาในเกมนี้เช่นกัน
 
        คู่กองหน้ามี คีเวลล์ เป็นตัวยืน ส่วนคู่ขาคาดว่าน่าจะเป็น ร็อบบี้ ครูส ได้รับโอกาสก่อน นิกิต้า รูคาวีตส์ย่า

        รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
 
        เยอรมัน (4-2-3-1) : ทิม วีเซ่ - คริสเตียน เทรช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, อาร์เน่ ฟรีดริช, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - สเวน เบนเดอร์, โทนี่ โครส - มาริโอ เกิทเซ่, โธมัส มุลเลอร์, อันเดร ชูรร์เล่ - มาริโอ โกเมซ
 
        ออสเตรเลีย (4-4-2) : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - ลุค วิลเชียร์, ลูคัส นีล, ซาซ่า อ็อกเนนอฟสกี้, เดวิด คาร์นี่ย์ - เบรตต์ โฮลแมน (เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน) มิเล่ เยดินัค, คาร์ล วาเลอรี่, แม็ตต์ แม็คเคย์ - ร็อบบี้ ครูส (นิกิต้า รูคาวีตส์ย่า ), แฮร์รี่ คีเวลล์    
     

     โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน ออกมาเปิดเผยว่าตนเตรียมทดสอบบรรดานักเตะดาวรุ่งในเกมอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติออสเตรเลีย ที่สนาม โบรุสเซีย-พาร์ค เมืองมึนเช่นกลัดบัค วันอังคารที่ 29 มี.ค. นี้ หลังจากทีมเพิ่งโชว์ฟอร์มเยี่ยม ถล่ม ทีมชาติคาซัคสถาน ไป 4-0 ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบคัดเลือก กลุ่มเอ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา และจะให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งอย่าง อันเดร ชูร์เล่ และ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ได้ลงมาทดสอบฝีเท้าเป็นตัวจริง

        "เมซุต กับ ซามี่ จะไม่อยู่ในเกมกับออสเตรเลีย นั่นถูกวางไว้แล้ว เพราะทั้งคู่มีเกมหนักรออยู่กับ เรอัล มาดริด เช่นเดียวกับ ฟิลิปป์ ลาห์ม ที่เราได้อนุญาตให้เขาได้พักหลังกรำศึกหนักกับบาเยิร์นมาตลอดทั้งฤดูกาล ส่วน ฮุมเมิ่ลส์ กับ ชูรร์เล่ จะได้เป็นตัวจริง พวกเขาทำให้ผมประทับใจในบุนเดสลีกา"       
     

    ขณะที่ โฮลเกอร์ โอเซียค กุนซือชาวเลือดด๊อยท์ช ของทีมชาติออสเตรเลีย รู้ดีว่าทีมเจ้าบ้านจะเล่นเต็มที่แน่นอน แต่ก็หวังจะพาลูกทีมล้างตาจากเกมที่พ่ายไป 0-4 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้
 
        "ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะเล่นอย่างจริงจัง เพราะผู้คนในเยอรมัน มีการเรียกร้องสูง เมื่อไหร่ที่ทีมเล่นเกมทีมชาติ แฟนๆ ไม่ได้ต้องการแค่ผลการแข่งขัน แต่ต้องการผลงานที่ดีด้วย จึงไม่มีมุมมองของความเป็นมิตรในเกมนี้"
 
        "ไม่ว่าจะเป็นเกม ไหนที่ผมเล่นกับทีมของผม ผมต้องการผลการแข่งขันที่ดีเสมอ เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อแค่เล่นหรือมีช่วงเวลาที่นี่เท่านั้น เราต้องการทำผลงานให้ดี เราต้องการชนะ" โอเซียค ระบุ