จากกรณีของดาราสาวชื่อดัง ''ธัญญ่า'' ธัญญาเรศ เองตระกูล (รามณรงค์) กับสามีหนุ่ม ''เป๊ก'' สัณชัย เองตระกูล ที่เป็นข่าวเตรียมฟ้องการหย่าร้างหลังจากใช้ชีวิตคู่มาเกือบ 6 ปีเต็ม โดยฝ่ายหญิงเตรียมส่งทนายยื่นฟ้องหย่าสามี พร้อมกับเรียกเงินถึง 124 ล้านบาท รวมถึงสินสมรสที่ยังไม่ได้ประเมินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งธัญญ่าได้เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกามาถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวระบุว่าเพื่อจัดการเรื่องการฟ้องร้องดังกล่าว และจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวในวันที่ 18 พ.ค.54 นี้

ในขณะเดียวกันก็มีแหล่งข่าวอีกด้านเผยว่าก่อนหน้าที่การฟ้องหย่าของธัญญ่าจะเริ่มขึ้น ทางฝั่งของ ''เป๊ก'' รวมทั้งผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็ได้พยายามเกลี่ยกล่อมธัญญ่าให้ถึงที่สุดเพื่อยกเลิกการยื่นฟ้องหย่าในครั้งนี้ ซึ่งมีข่าวแว่วมาว่าอาจจะมีการเริ่มต้นดำเนินเรื่องที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 54 ซึ่งเป็นกำหนดวันแถลงข่าวของธัญญ่า ผู้สื่อข่าวได้ไปเฝ้ารอ ''ธัญญ่า'' และ ''เป๊ก'' ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลาเกือบบ่ายโมง แต่กลับไร้วี่แววของทั้งคู่ซึ่งไม่ได้เดินทางไปที่ศาลแต่อย่างใด รวมไปถึง ''ปรีชา ณ เชียงใหม่'' ซึ่งถูกระบุว่าเป็นทนายความของธัญญ่าในคดีฟ้องหย่าครั้งนี้ที่ไม่ได้เดินทางมายื่นเอกสารในวันดังกล่าวเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่นั้น ก็ได้รับการแจ้งจากบุคคลที่คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลเยาวชนฯ ว่า ''ธัญญ่า'' และ ''เป๊ก'' ไม่ได้มีกำหนดการมาขึ้นศาลในวันนี้ แต่เป็นวันที่ 30 พ.ค. 54 ซึ่งในวันดังกล่าวจะเป็นการนัดมาไกล่เกลี่ยครั้งแรกของทั้งสองฝ่ายในวันเดียวกันนี้ เวลา 15.30 น. ''ธัญญ่า'' และ ''เป๊ก'' ก็ได้เดินทางมา ณ บีบี คลินิก ซึ่งเป็นสถานที่จัดแถลงข่าวถึงข้อสรุปเรื่องการฟ้องหย่าในครั้งนี้ โดยนางเอกสาว ''ธัญญ่า-ธัญญาเรศ'' และ ''เป๊ก-สัณชัย'' ได้เดินเข้ามาพร้อมกันในห้องแถลงข่าว ด้วยสีหน้าดูแล้วพอมีรอยยิ้มบ้าง ซึ่งนางเอกสาวอยู่ในชุดกระโปรงลายขาว-ดำ ส่วน ''หนุ่มเป๊ก'' อยู่ในชุดสูทสีดำเช่นกัน ทันทีที่มาถึงทั้งคู่ได้กล่าวทักทายกับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอหลายร้อยชีวิต โดยทันทีที่เปิดถึงคำถามว่า ''ธัญญ่า-เป๊ก'' อยากจะพูดอะไรก่อนนั้น ทั้งคู่ก็ได้นิ่งเงียบและหันไปมองหน้ากันสักพักหนึ่ง ก่อนที่ ''ธัญญ่า'' จะเป็นคนเริ่มพูดด้วยสีหน้าอมยิ้มแต่แฝงไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอว่า

ธัญญ่า : ''(ยิ้ม) ที่ผ่านมามันก็เป็นข่าวค่อนข้างจะเยอะนะคะ คือธัญญ่าอยู่ที่โน่นก็จะได้รับข่าวตลอด ซึ่งมันก็จะมีทั้งจริงบ้างและไม่จริงบ้าง แล้วอีกอย่างเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจด้วยค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าโอเค...วันนี้เรา 2 คนก็พร้อมที่จะออกมาพูดว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง''

เป๊ก : ''ผมว่าที่ผ่านมาทั้งหมดเนี่ย เราได้ทำดีที่สุดแล้ว (ขำเจื่อนๆ) วันนี้มันยังไงดีล่ะ...พูดไม่ถูกเลยนะ...''

ธัญญ่า : ''(สวนขึ้นมาขำๆ) เอ้า...ท่องมาไว้ยังไงล่ะ (หัวเราะ)''

เป๊ก : ''ไม่ได้ท่อง...คือผมคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วครับที่ผ่านมาเนี่ย ก็สิ่งที่ตีแผ่ออกไปในสังคมเนี่ยมันก็มีทั้งจริงและไม่จริง ซึ่งตัวผมเองก็ไม่สามารถจะไปบอกทุกคนเป็นขั้นตอนได้ว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไงนะครับ แต่ว่ามาถึงวันนี้เนี่ย สิ่งที่ตีแผ่ออกไปให้สังคมรู้เนี่ย มันสะท้อนกลับมาถึงตัวผมเองและตัวคุณพ่อคุณแม่และทุกฝ่าย แล้วก็จนถึงวันนี้เองสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือยอมทุกอย่างครับ เพื่อลียา คือเราอยากจะให้ลียากลับมา''

การยอมทุกอย่างของ ''พี่เป๊ก'' คืออะไร?
(ทั้งคู่ ''ธัญญ่า-เป๊ก'' มองหน้ากันก่อนจะนิ่งไปสักพักและ ''เป๊ก'' ก็ตอบขึ้นมา)

เป๊ก : (หยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดเหงื่อก่อนตอบ) ''ทุกอย่างที่ทำได้ครับ คือ...เอ่อ...สงสัยต้องให้ธัญญ่าช่วยบอกแหละ จะตอบยังไง''

ธัญญ่า : ''ก็คือตอนนี้เนี่ยโอเคขั้นตอนทุกอย่าง บางคนอาจจะสงสัยว่าเรื่องฟ้องร้องเนี่ยมันเรื่องจริงหรือเปล่านะคะ ก็เป็นเรื่องจริงค่ะ เราต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่แรกที่เกิดปัญหาขึ้นมาเนี่ย เราก็พยายามทำให้ทุกอย่างมันโอเคที่สุด แต่ในเมื่อมันมาถึงจุดๆ นึงที่เรารู้สึกว่าเราพอดีกว่า ก็คุยกับพี่เป๊ก แต่ว่าพี่เป๊กไม่ยอมหย่า ก็เลย....''

เป๊ก : ''ไม่ใช่ไม่ยอมหย่าครับ...คือสิ่งที่ผมคิดคือผมคิดเรื่องลูกเป็นหลัก คือสงสารเค้านะครับว่าเค้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย คือเราทำได้ดีที่สุดแล้วนะ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้ว''

ธัญญ่า : ''คือที่เราคุยกันมาตลอดมันก็มีทั้งพูดดีกัน ทะเลาะกันน่ะค่ะ มันก็เป็นธรรมดาของสามี-ภรรยาที่จะแบบว่าเถียงกันบ้างอะไรบ้างแหละค่ะ เอ่อ...จนถึงขั้นที่เรารู้สึกว่าเราอยากจะยุติ เราอยากจะที่จะพอเนี่ย แต่เราได้รับการปฏิเสธ เราก็เลยโอเค ถ้าอย่างนั้นมันก็ต้องใช้กฎหมายมาช่วยน่ะค่ะ เพราะว่ามันเหมือนกับว่าเวลาเด็กทะเลาะกัน พ่อแม่มาเคลียร์หรืออะไรอย่างเนี่ย แต่อย่างเรามันโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ความคิดเห็นเราไม่ตรงกัน ความต้องการไม่ตรงกัน ตัวธัญญ่าเองก็คิดว่าถ้างั้นเราต้องพึ่งทางกฎหมายแล้วค่ะ ก็พอมันมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นมันก็เลยกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ซึ่งจริงๆ แล้วเราคุยกันเองได้ ซึ่ง ณ วันนี้ที่เราออกมาเนี่ยคือเราได้เคลียร์กันแล้วว่าเราจะทำยังไงต่อไป''

เคลียร์ยังไงบ้าง?
ธัญญ่า : ''ก็ตอนนี้ก็ได้ไปทำสัญญายอมความกันที่ศาลเรียบร้อยแล้วค่ะ ตามข้อตกลงต่างๆ ที่เราคุยกัน แล้วทนายเราคุยกันค่ะ''

เรียกว่าถอนฟ้องแล้ว?
ธัญญ่า : ''ใช่ค่ะ ยกเลิกการฟ้องแล้ว แล้วเราก็ยุติความเป็นสามี-ภรรยากัน แต่ว่าเรื่องหย่าเนี่ย เดี๋ยวค่อยนัดกันอีกทีหนึ่ง''

''พี่เป๊ก'' ล่ะว่ายังไงบ้าง?
เป๊ก : ''ก็ต้องตามเค้านะครับ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไปนะครับ ก็คือ ณ วันนี้มันเป็นอย่างนี้ หลังจากนี้ไปธัญญ่าก็จะไปรับลูกกลับมาครับ ธัญญ่ากลับพรุ่งนี้แล้วก็จะกลับมาอีกทีสิ้นเดือน หลังจากนั้นก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นยังไง''

ธัญญ่า : ''ก็คือธัญญ่ากะว่าจะไปรับลียามาเยี่ยมคุณปู่คุณย่าค่ะ ก็คงจะอยู่สัก 3 อาทิตย์ก่อน แล้วก็คงสักพักหนึ่งแหละค่ะ ก็คงจะกลับมาอยู่ถาวร เพราะว่าเราก็คุยกันแล้วว่าจะให้ลียาเรียนที่เมืองไทย''

ย้ำความสัมพันธ์ของทั้งคู่นิดนึงเพราะว่าในเรื่องฟ้องร้องยอมความแล้ว แต่ในเรื่องหย่าล่ะจะเป็นยังไงต่อไป?
เป๊ก : ''ตราบใดที่มันยังไม่ได้เซ็นใบหย่าผมก็ถือว่ายังไมได้หย่านะครับ เราก็ยังมีเวลาที่ดึงลูกกลับมาแล้วทำให้ดีที่สุดก่อนนะครับ แล้วจะเอายังไงก็ไม่เป็นไร เราค่อยว่ากัน''

 

หย่าแบบมีเงื่อนไขไหม?
ธัญญ่า : ''คือจากคำฟ้องที่ข่าวมันออกมาว่าเป็นเงิน 100 ล้าน เป็นอะไรอย่างนั้นนะครับ คือจริงๆ แล้วมันเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ของการฟ้อง แต่จริงๆ แล้งวที่ธัญญ่ากับพี่เป๊กคุยกันตามข้อตกลงเราก็จะมีเรื่องของการดูแลลูกว่าลูกอยู่กับใครวันไหน แล้วก็มีเรื่องค่าดูแลเท่านั้นเองค่ะ ส่วนเรื่องป็นร้อยล้านไม่มีค่ะ นะ...ก็อยากได้อยู่นะ (หันไปมองหน้าพี่เป๊ก) ถ้าให้ก็เอา (หัวเราะ)''

ถ้า ''พี่เป๊ก'' ยอมทำทุกอย่าง ''ธัญญ่า'' จะเปลี่ยนใจไหม?
ธัญญ่า : ''ปีนึงแล้วนะคะที่เราตัดสินใจ..มันก็มาถึงจุดนี้แล้ว ก็...''

เป๊ก : ''คือจริงๆ ผมคิดว่าเรื่องของผมกับธัญญ่าเนี่ย สื่อหรือคนรอบข้างมีผลมากกับการที่ทำให้ต้องเป็นแบบนี้นะครับ จากนี้ไปอยากให้ต้องวิเคราะห์หน่อยว่าอะไรเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง เพราะมันมีผลกระทบกับคนที่โดนมาก ถ้าคนไม่โดนคงไม่รู้ เพราะฉะนั้นผมก็พูดได้ว่ามันเป็นความจริง แต่บางเรื่องมันก็ไม่ใช่ความจริงเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำ ซึ่งเราก็ต้องเดี๋ยวทะเลาะเดี๋ยวดี จนเป็นเวลาเกือบจะ 2 ปีล่ะ...''

ธัญญ่า : ''(สวนขึ้นมา) 2 ปีเลยเหรอ''

เป๊ก : ''ปีกว่าแล้ว...ถ้าเกิดไม่มีกระแสแรงขนาดนี้เรื่องนี้ก็คงจะจบไปนานแล้ว''

''พี่เป๊ก'' ต้องการหย่าไหม?
เป๊ก : ''คือถ้าถามผมนะ ถ้าเราต้องคิดถึงเรื่องลูกก่อน โดยที่เราไม่คิดถึงเรื่องส่วนตัวของเรา ผมก็ไม่อยากหย่าให้ลูกต้องมีปัญหาในอนาคตนะครับเพราะว่าก็ได้เห็นตัวอย่างที่ลูกที่มีพ่อแม่หย่ากัน มันก็ไม่ดีสำหรับเด็ก คือบางคนอาจจะคิดว่ามันไม่มีอะไร แต่ในระยะยาวคงให้ผลกระทบกับเด็กเยอะนะครับ''

ความรักล่ะ ยังมีให้กันอยู่ไหม?
เป๊ก : ''ความรักคือมันไม่ต้องพูดหรอกครับ คืออยู่กันมาตั้ง 6-7 ปี ความรักมันก็ต้องยังอยู่อยู่แล้วครับ''

ธัญญ่า : ''ความรักก็คือธัญญ่ากับพี่เป๊กก็จะรู้กันอยู่แล้วค่ะว่าเรา 2 คนรักกัน ไม่อย่างนั้นเราคงไม่แต่งงานและมีลูกกันมาขนาดนี้หรอกนะคะ แต่มันเหมือนกับว่าปัญหาที่เราเจอมามันทำให้มันไม่อยากจะอะไรแล้ว คืออยากจะให้มันเคลียร์และอยากจะให้มันจบน่ะค่ะ คือแบบ...ปัญหาที่ผ่านมามันหนักหนาสำหรับเราพอสมควรนะคะ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า เรามาเป็นพ่อและแม่ที่ดีของลียาดีกว่าค่ะ ก็ไม่ต้องเป็นสามี-ภรรยาเราก็สามารถมาช่วยกันดูแลลูกให้โตมาเป็นคนดีและอบอุ่นได้''

สิ่งที่ค้างคาใจ ''ธัญญ่า'' อยู่คืออะไร?
ธัญญ่า : ''จริงๆ ก็คุยกันมาตลอดนะคะ ก็คุยกันว่าทำไมเราถึงอยากที่จะยุติ ซึ่งอันนี้พี่เป๊กก็รู้ดีกว่าเพราะอะไร'' (หันไปมองหน้า ''เป๊ก'' และยิ้ม)

ใช่เรื่องมือที่ 3 ไหม?
เป๊ก :''อันนี้ผมขอคุยเรื่องครอบครัวก่อน ยังไม่อยากตอบเรื่องอื่น อย่าเฉไฉ''

ก่อนหน้านี้ ''พี่เป๊ก'' ได้พยายามเคลียร์กับ ''ธัญญ่า'' ไหม?
เป๊ก : ''ก็อย่างที่บอกไงครับว่าผมก็พยายามเคลียร์และพยายามทำทุกอย่างแล้วนะ ก็ต้องขอบคุณธัญญ่าที่เข้าใจ และจะพาลียากลับมาในเร็ววันนี้นะครับเพราะว่าทุกคนในครอบครัวรอหมดเลย ทุกคนรักลียาหมด เป็นหลานสาวคนเดียวในตระกูลผมที่เป็นผู้หญิง เพราะฉะนั้นทุกคนรักลียามาก และไม่ได้เจอลียามาตั้งเท่าไรแล้วนะ'' (หันไปถามธัญญ่า)

ธัญญ่า : ''9 เดือน''

เป๊ก : ''ครับ 9 เดือน ก็รอคอยวันที่ลียาจะกลับมานะครับอย่างเดียว''

ครอบครัวของ ''พี่เป๊ก'' ก็พยายามให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน?
เป๊ก : ''คือทุกคนทุกฝ่ายแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวผม ครอบครัวธัญญ่า คนรอบข้าง แม้กระทั่งเพื่อนทุกคนก็ช่วยกันทำให้ดีหมด อย่างที่ผมพูดไปว่าสิ่งที่ออกไปสู่ประชาชนเนี่ย มันทำให้ผลย้อนกระทบกลับมาที่ตัวผมแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากจะโทษอะไรนะครับแต่ก็ต้องยอมรับโดยดีว่าความจริงเป็นยังไง ณ วันนี้เป็นยังไง''

''ธัญญ่า'' มองต่างหรือมองเหมือน ''พี่เป๊ก'' ว่าสิ่งรอบข้างมีผล?
ธัญญ่า : ''คือ...มีผลไหม คือเอาเป็นว่าเรื่องที่มีผลต่อตัวธัญญ่ามากที่สุดคือความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตครอบครัวของเราน่ะค่ะ แต่ว่าโอเคมันอาจจะมีผลบ้างที่มีข่าวอะไรออกมาแล้วมันเกิดข่าวนั้นไม่จริง แต่เราเชื่อว่ามันจริง มันก็จะทำให้มีผลต่อความรู้สึกเหมือนกันค่ะ แต่ว่าหลักๆ เลยเนี่ย สิ่งที่มันทำให้เรารู้สึกมากๆ มันเป็นสิ่งที่เรารับรู้โดยตรง สื่อก็โอเคก็มีส่วนแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีเยอะมาก''

เป๊ก : ''คือลองนึกถึงตัวเองดูแล้วกันว่าเรื่องครอบครัวของใครก็ตามที่โดยคนให้ความสนใจมากขนาดนี้ มันจะมีผลต่อการตัดสินใจ, การพูดแต่ละอย่างหรืออะไรก็ตามมากแค่ไหน เนี่ยบทสุดท้ายก็เป็นแบบนี้ครับ (เงียบไปสักพักหนึ่ง) ถ้าเกิดเราเป็นคนธรรมดา เคลียร์กันได้ปกติ เหมือนคนทั่วไป ผมว่าเรื่องราวมันก็คงจบไปนานแล้วครับ ผมไม่ได้โทษใครแต่อยากให้มองอีกมุมหนึ่งว่าถ้าเป็นเราบ้างจะมีความรู้สึกเป็นยังไง เพราะมันก็ค่อนข้างลำบากมากนะครับ จริงๆ เราก็ทำทุกอย่าง พยายามที่สุดถึงที่สุดแล้วจริงๆ''

ต่อจากนี้ไปจะจัดการยังไงต่อไป?
เป๊ก : ''คือ ณ วันนี้ผมก็ไม่ได้ทำยังไงต่อไปนะครับ ก็นั่งรอวันที่ลูกกลับมา แล้วก็รอให้ถึงวันนั้นก่อนว่าเราจะทำยังไง ให้ลูกเรียนที่ไหน ไปคิดเรื่องพวกนั้นดีกว่าครับ คือเรื่องรายละเอียดอื่นๆ ไม่ได้คิดแล้วครับ เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ''

แพลนตอนที่ ''น้องลียา'' มาเมืองไทยไว้ยังไงบ้าง?
เป๊ก : ''ตัวผมแพลนแล้วว่าจะพาไปไหนมาไหนบ้างครับ (ยิ้ม) แต่ว่าธัญญ่าเค้าบอกว่าเค้ามีงานกับลูกตรงนั้นตรงนี้ ก็ยังตกลงกันอยู่เลยว่าวันไหน ใคร อะไร ยังไง''

นอกจากมีข่าวฟ้อง ''พี่เป๊ก'' แล้วก็มีข่าวว่าฟ้อง ''บุคคลที่ 3'' ด้วย ณ วันนี้ยังเหมือนเดิมหรือเปล่า?
ธัญญ่า : ''ก็ฟ้องจริงๆ นะคะ คือตัวธัญญ่าก็ปรึกษากับทนายว่าถ้าฟ้องทั้งทีมันก็ต้องสมบูรณ์ในการที่เราจะ...ไม่รู้จะใช้ศัพท์อะไรดีนะ เหมือนเป็นการเรียกร้องศักดิ์ศรีอย่างนั้นเหรอ แต่ ณ วันนี้เนี่ยเรา 2 คนเคลียร์กันได้ ตกลงกันได้ว่ามันจะเป็นไปในทิศทางไหน เราก็เลยโอเค...งั้นยกฟ้องทั้งหมด เอ๊ะ...หรือไม่ถอนดีพี่ (หันไปหา ''เป๊ก'' ) จะให้ถอนไหม''

กรณี ''พี่เป๊ก'' คือถอนไปแล้ว อีกกรณีหนึ่งล่ะ?
ธัญญ่า : ''(หันไปหาพี่เป๊ก) จะให้ถอนไหม (ยิ้มๆ แบบมีเลศนัย) ถ้าพี่ให้ถอนธัญญ่าก็ถอน จะให้ถอนไหม''

สรุปตอนนี้คือยังไม่ได้ถอนเหรอ?
เป๊ก : ''เท่าที่ผมทราบมาคือถอนหมดแล้วครับ''

ธัญญ่า : ''ใครบอกว่าถอน'' (หันไปถามเป๊ก)

เป๊ก : ''ทนายบอกมาเมื่อกี๊''

ธัญญ่า : ''ทนายใคร...(หัวเราะ) ก็ถอนค่ะถอน นี่แกล้งเค้าเฉยๆ นะ (หัวเราะ) ก็คือรู้สึกว่ามันแบบให้มันจบๆ กันไปดีกว่าค่ะ ไม่าอยากจะมานั่งแค้นใจกัน มีเรื่องเคืองโกรธกันอะไรอย่างเนี้ย ก็ให้มันจบ ต่างฝ่ายต่างสบายใจกันไป''

เป๊ก : ''คือเจอกันคราวหน้าเราเก็บภาพลียาดีกว่าครับ ลียาน่ารักมาก''

ธัญญ่า : ''เปลี่ยนเรื่องเลย (หัวเราะ)''

ที่ว่ายกฟ้องมีใครมาช่วยไกล่เกลี่ยหรือเปล่า?
ธัญญ่า : ''คุยกันเองค่ะ...ก็คือคุยกันแล้วตัวธัญญ่าก็ปรึกษากับทนายด้วยว่าแบบให้มันจบดีกว่า''

เป๊ก : ''คืออย่างที่ผมบอกแหละครับว่าเรื่องธัญญ่าฟ้องมันก็เป็นอารมณ์ขึ้นลงๆ ตามเค้า คือธัญญ่าเค้าอยู่ไกลขนาดนั้น ก็ได้อ่านข่าวได้ฟังจากสื่อ...''

ธัญญ่า : ''(สวนขึ้นมา) แหม...เรื่องจริงก็เจอ''

เป๊ก : ''สิ่งที่เค้ารู้เนี่ยมันก็ทำให้เค้าขึ้นลงๆ คราวนี้ก็คงขึ้นแรงเลยฟ้องเลย''

ธัญญ่า : ''แล้วแรงเพราะอะไร (หัวเราะ..มองหน้า ''พี่เป๊ก'') ต้องถามพี่เป๊ก''

เป๊ก : ''ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไร (ยิ้ม)''
 

''ธัญญ่า'' ได้คุยเคลียร์กับทางนั้นไหม?
ธัญญ่า : ''ไม่คุยแล้วค่ะ เพราะเราคิดว่าเป็นเรื่องของแค่ธัญญ่ากับพี่เป๊กว่าจะตกลงกันยังไงค่ะ''

เพราะอะไร ''ธัญญ่า''ถึงตัดสินใจถอนฟ้อง ''บุคคลที่ 3''?
ธัญญ่า : ''ก็เพราะว่าเราตัดสินใจที่เราจะหย่ากันแล้ว ก็ยุติความเป็นสามี-ภรรยา เพราะฉะนั้นเนี่ย ทางนั้นธัญญ่าก็ต้องควรที่จะปล่อยไปด้วยค่ะ เพราะไม่อยากจะต้องมานั่งมีเรื่องที่มาแค้นเคืองกัน เดี๋ยวสู้กันไปสู้กันมากว่าจะจบอีกปีก็ไม่รู้ค่ะ''

วันหย่านัดกันหรือยัง?
ธัญญ่า : ''เดี๋ยวต้องตกลงกันอีกทีค่ะ ยังไม่ทราบเลย''

เป๊ก : ''ตอนนี้แค่อยากจะเอาลูกกลับมาแล้วมานั่งคิดกันว่าจะให้เรียนโรงเรียนไหนดี จัดแจงเรื่องนั้นให้เสร็จก่อนแล้วเรื่องนั้นค่อยว่ากันครับ''

การเลี้ยงดูลูกล่ะ?
เป๊ก : ''อันนี้อยู่ในข้อตกลงที่เราทำกับไว้กับศาลอยู่แล้วครับว่าจะต้องเป็นอะไรยังไง เราคุยเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหาครับ''

เรียกว่าแบ่งวันกันแล้ว?
ธัญญ่า : ''ค่ะ...แบ่งวันกันแล้ว''

เป๊ก : ''แบ่งแล้วเหรอ (ขำ)''

ธัญญ่า : ''คือแบ่งวันกัน ณ วันที่เอาลูกกลับมาอยู่เมืองไทยเลยค่ะ แต่ว่า 3 อาทิตย์ที่กลับมาเนี่ย เราก็ต้องให้อยู่กับพี่เป๊กซะส่วนใหญ่แหละ เพราะว่าก็รู้นะว่าคิดถึง''

''ธัญญ่า'' ยังอยู่บ้านเดิมไหม?
ธัญญ่า : ''ตัวธัญญ่าเหรอคะ...ไม่ค่ะ ธัญญ่าแยกออกมาได้ประมาณปีกว่าแล้วค่ะ''

แล้วตัว ''น้องลียา'' ล่ะ?
ธัญญ่า : ''ก็ไปๆ มาๆ ค่ะ''

เป๊ก : ''แต่รั้วติดกันนะครับ''
ธัญญ่า : ''ธัญญ่าว่าจะวันไหนอยู่กับพี่เป๊ก หรือวันไหนอยู่กับธัญญ่าก็เหมือนกันค่ะ แต่ว่าแรกๆ เนี่ยธัญญ่าว่าธัญญ่าคงต้องอยู่ด้วยค่ะ เพราะว่ากลัวเค้าจะไม่ชิน ร้องไห้อะไรอย่างนั้น''

จะมีการพูดคุยให้เปลี่ยนใจไหม?
ธัญญ่า : ''จริงๆ ในเรื่องของการพูดคุยให้เปลี่ยนใจ มันมีมาเรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะตลอดระยะเวลานะคะ แล้วมาถึงวันนึงวันที่เราตัดสินแล้วนะ  แล้วธัญญ่าจะเป็นคนที่ถ้าตัดสินใจแล้วว่าไม่ก็คือไม่ จะเป็นคนที่จริงๆ อ่อนนะ หมายถึงยังไงดีล่ะ...

เป็นคนใจอ่อนนะ แต่พอมาถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่ามันพอแล้วมันก็พอค่ะ ใครมาพูดอะไรมันก็อยู่ที่ตัวเองนะ หรือจะเรียกว่าเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองก็ได้นะ แต่ถ้าใครมาพูดก็ฟังบางคนเหมือนกันค่ะ''

จากเดิม ''ธัญญ่า'' เคยบอกว่าจะไม่กลับเมืองไทยแล้ว...ตอนนี้เปลี่ยนใจหรือยัง?
ธัญญ่า : ''เปลี่ยนแล้วค่ะ คือ ณ ตอนนั้นปัญหามันคุกรุ่นมาก มันหาทางออกไม่ได้ มันเหมือนหาทางออกไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่กลับมาแล้วน่ะค่ะ แต่พอ ณ วันที่เราคุยกันรู้เรื่อง ตกลงกันได้เราก็อยากที่จะกลับมาอยู่เมืองไทยนะ ก็คิดถึงนะ อยู่นู้นก็เหงา อยู่กับลูก 24 ชม.จริงๆ ค่ะ วันๆ ก็มีแต่กิจกรรมกับลูกอย่างเดียวเลยค่ะ''

ณ ต่อจากนี้จะเริ่มต้นใหม่ยังไง?
เป๊ก : ''ผมคงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นนะครับ เพราะสิ่งที่บอกคืออยากให้ลูกกลับมาก่อนแล้วจะเป็นยังไง แล้วเราจะทำยังไงกับลูกได้บ้าง แค่คิดเรื่องเรียนก็ปวดหัวแล้วว่าจะให้เรียนที่ไหนดี มันคงมีอีกเยอะนะครับ ก็ยังไมได้คิดอะไร''

ธัญญ่า : ''ก็ปล่อยมันเป็นไปตามธรรมชาติแหละค่ะ คือไม่ได้อยากจะไปกำหนดกฎเกณฑ์หรือจะไปเครียดอะไรก่อน เดี๋ยวกลับมาอยู่เมืองไทยจะเป็นยังไง จะเจอปัญหาอะไรอีกหรือเปล่า มันเครียดเปล่าๆ น่ะค่ะ บางทีมันอาจจะดีก็ได้ หรือไม่

มันอาจจะชีวิตมีความสุข แฮปปี้กับการที่เรา 2 คนได้ใช้ชีวิตกับลูกเต็มที่ ถึงแม้ว่าจะต้องแบ่งวันกัน ซึ่งตอนนี้เนี่ยลียาก็จะอยู่กับธัญญ่าเสียส่วนใหญ่ ไม่ได้เจอคุณปู่คุณย่า ไม่ได้เจอพี่เป๊กตลอดเวลา มันอาจจะดีก็ได้''

งานในวงการล่ะ?
ธัญญ่า : ''ค่ะ...ธัญญ่าก็จะกลับมาทำงานตามปกติแหละค่ะ คิดไว้แล้วว่าถ้าวันไหนเราทำงานก็เอาลูกไปอยู่กับบ้านพี่เป๊กนั่นแหละ จะได้ใกล้ชิดกันเยอะๆ''

ณ ตอนนี้ถ้าจะมีอะไรเซอร์สไพรส์เข้ามาก็ไม่มีอะไรกันแล้ว?
เป๊ก : ''อันนี้แหละคือสิ่งที่ผมกลัวครับ (หัวเราะ) คือผมไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย แต่อยู่ๆ ก็มาจากไหนไม่รู้''

''พี่เป๊ก'' กลัวอะไร?
เป๊ก : ''ก็เนี่ยแหละครับเซอร์ไพรส์...ผมว่าคงเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาใหม่ตอนที่เรามีปัญหากันเนี่ย คือคอยจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ มีการตัดต่อ มีการทำอะไรเสร็จเลยนะ ผมก็ยังตกใจมาก นี่คือพยายามทำให้เราแตกแยกกันมากๆ เราก็ไม่รู้ว่าเพื่ออะไร''

สิ่งที่ ''พี่เป๊ก'' เคยแจ้งความไว้ล่ะยังจะตามล่าตัวคนปล่อยคลิปอยู่ไหม?
เป๊ก : ''คือผมเหนื่อยแล้วครับ คือตอนนี้คิดแต่เรื่องลูกดีกว่า แต่ถ้าวันไหนเจอก็ดี แต่ถ้าให้ไปนั่งหาผมคงไม่ทำนะครับ แต่ก็วิงวอนคนทำว่าอย่าให้มันเยอะแยะอะไรมาก''

''พี่เป๊ก-ธัญญ่า'' จะกลับไปอเมริกาด้วยกันไหม?
เป๊ก : ''เอ่อ...ผมคงตามไปครับ ตามไปรับวันที่ลูกจะกลับมานะ เพราะว่าธัญญ่าคงจะดูแลลูกคนเดียวไม่ไหวบนเครื่องแน่ๆ ตั้ง 18-19 ชม.''

มีข่าวว่า ''ธัญญ่า'' ไม่มีเงินตอนอยู่อเมริกา?
ธัญญ่า : ''ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าพี่เป๊กเค้ารับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้ตลอดค่ะที่อเมริกา เรื่องลูกเรื่องอะไรทุกอย่างเลยค่ะ ข่าวมันออกมาดูแล้วน่าสมเพชมาก (หัวเราะ)''

เป๊ก : ''คือนี่ไงที่ผมบอกว่าข่าวมันทำให้บางทีทุกอย่างดูเละเทะแย่ไปหมดเลย บางเรื่องมันไม่มีมูลเลย อย่างบอกว่าธัญญ่าเหลือเงินไม่กี่ร้อยบาท ไม่มีเงินใช้ ไม่รู้ใครสร้างกระแส''

สุดท้ายอยากบอกอะไร?
ธัญญ่า : ''ค่ะ...ก็อยากจะขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้มาเพราะไม่ว่าจะเป็นเว็บต่างๆ หรือว่าคนที่เข้ามาคอมเมนต์ ธัญญ่าก็ได้ติดตามนะคะ ก็อยากจะขอบคุณจริงๆ แล้วตอนนี้มีแฟนคลับลียาด้วยนะคะ ก็ขอบคุณมากๆ เลยถ้าลียาโตคงดีใจค่ะ''

เป๊ก : ''ขอบคุณครับ''

หลังจากเสร็จสิ้นจากการสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ทั้ง ''เป๊ก-ธัญญ่า'' ก็ได้ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพคู่กันสักพักหนึ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องแถลงข่าวไปพร้อมๆ กัน แต่ทั้งคู่ไม่ได้กลับรถคันเดียวกันอีกด้วย!