''เจมี่ บูเฮอร์'' ระทม ออฟฟิศธุรกิจเครื่องสำอางที่พระนครศรีอยุธยาจมน้ำ ประเมินค่าความเสียหลายล้านบาท เผยตอนเกิดเหตุใหม่ๆ เครียดจัดจนร้องไห้แทบทุกวัน ตอนนี้เริ่มทำใจได้แล้ว หลังเป็นจิตอาสาร่วมรับของรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มตัว ภาวนาให้สถานการณ์คลี่คลาย หวังกลับมาเดินเครื่องทำธุรกิจได้อีกครั้งช่วงปีใหม่นี้
สถานการณ์วิกฤติน้ำท่วม ทั้งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, ลพบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, นนทบุรี รวมถึงกรุงเทพมหานคร ที่กำลังโดนมวลน้ำขนาดมหึมาไหลบ่าเข้าท่วมหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่ และภาคธุรกิจของประเทศอย่างมหาศาล 
 
ในบรรดาธุรกิจที่เหล่าดารานักแสดง-นักร้อง นิยมทำกันก็ได้รับผลกระทบหลายรายเช่นกัน ในจำนวนนั้นมีธุรกิจเครื่องสำอาง ''ลาวีเวีย'' (Lavivia) ของดาราสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ''เจมี่ บูเฮอร์'' รวมอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่ธุรกิจกำลังไปได้สวยทำรายได้หลายแสนบาทต่อเดือน
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 54 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากดาราสาวว่า ธุรกิจเครื่องสำอางต้องหยุดดำเนินการมาหลายเดือนแล้ว หลังจากออฟฟิศซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมมิดหลังคา สิ่งของเครื่องใช้อุปกรณ์การผลิตจำนวนหนึ่ง รวมถึงอุปกรณ์สำนักงานออฟฟิศได้รับความเสียหายหมด เนื่องจากน้ำไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกมาได้ทัน ซึ่งจากการประเมินมูลค่าความเสียหายแล้วอยู่ที่หลายล้านบาทเลยทีเดียว
 
''ออฟฟิศที่อยุธยาของเจมี่จมมิดหัวไปนานแล้วค่ะ เพราะตอนที่น้ำเข้าท่วมมันมาเร็วมากๆ เคลื่อนย้ายอะไรออกมาไม่ทันเลยเสียหายหมด ไหนจะของที่เราส่งออกไปวางขายตามศูนย์ต่างๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่เดียวกัน ก็จมน้ำหมด ซึ่งของเป็นของเรา ต้องรับผิดชอบค่าความเสียหายทั้งหมด จากการประเมินในเบื้องต้น ค่าความเสียหายทั้งหมดหลายล้านบาทค่ะ''
 
ดาราสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน กล่าวต่อว่า ตอนที่เกิดเหตุใหม่ๆ ตนไม่สามารถทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้  รู้สึกเครียดจัด และร้องไห้ทุกวัน เพราะไม่คิดว่าต้องมาประสบกับเหตุการณ์ร้ายๆ ขนาดนี้ ล่าสุด ณ เวลานี้เริ่มทำใจได้แล้ว หลังจากมาเป็นจิตอาสาร่วมรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มตัวที่อาคารมาลีนนท์ และภาวนาให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายกลับคืนสู่ปกติในเร็ววันนี้ และภายในปีใหม่เริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจของตนได้อีก
 
''ตอนนี้ที่อยุธยาน้ำก็ไม่ได้ลดลงเท่าไหร่ เพราะเค้าปล่อยน้ำทีละนิด เจมี่เองอยากฝากถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า อันที่จริงควรบอกชาวบ้านไปเลยว่า น้ำจะท่วมตรงไหน เมื่อไหร่ ระดับไหน ชาวบ้านได้เตรียมตัวรับมือได้ถูก อย่างที่ออฟฟิศเจมี่ก็ยกของขึ้นไว้ที่สูงแล้วนะคะ เพราะเค้าบอกว่าน้ำท่วมหนนี้มาไม่หนักเท่าปี พ.ศ.2538 หรอก แต่พอน้ำมาจริงๆ มิดหลังคาเลย หนักกว่าปี 38 อีก ก็หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นภายในปีใหม่นะคะ เจมี่เองก็หวังว่าจะได้กลับมาลุยงานต่อช่วงปีใหม่  แต่เบื้องต้นก็คงต้องเสียตังค์ซ่อมแซม หรือซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่เสียหายใหม่อีกหลายบาทเป็นแสนๆ แน่นอนล่ะค่ะ''  เจมี่ กล่าวในที่สุด