เรอัล มาดริด ทำผลงานได้สุดยอดหลังบุกชนะ อาแจ็กซ์ 3-0 และยังเป็นทีมเดียวที่คว้าชัย 6 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่มของ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่มดี

รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย ฤดูกาล 2011-12

วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2554

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 0 - เรอัล มาดริด (สเปน) 3

สนาม: อัมสเตอร์ดัม อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม, ฮอลแลนด์

 
        คู่นี้เจอกันสามครั้งหลังสุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น เรอัล มาดริด เก็บชัยได้ทั้งหมด เกมนี้ อาแจ็กซ์ ที่มีทั้งหมด 8 คะแนน จาก 5 นัด รั้งรองจ่าฝูงของกลุ่มอยู่ หากเก็บผลชนะหรือเสมอได้จะตีตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ตามหลัง เรอัล มาดริด ไปทันที
 
        นัดนี้ อาแจ็กซ์ ไม่มี โคลเบนน์ ซิกธอร์สสัน, เซียม เดอ ยอง,  นิโคไล บอยเลเซ่น และ เดิร์ค บัวร์ริกเตอร์ ที่เจ็บทั้งหมด แต่ได้ เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล แบ็คขวาจอมบุกทีมชาติฮอลแลนด์ หายเจ็บกลับมา
 
        ตำแหน่งหัวหอกตัวเป้าขยับเอา นิโคลัส โลเดยโร่ ดาวเตะชาวอุรุกวัย ที่ทำประตูได้ต่อเนื่องมายืนล่าตาข่ายอีกครั้ง
 
        ทาง เรอัล มาดริด ยอดทีมของสเปน ชนะ 5 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เก็บ 15 คะแนนเต็ม คว้าแชมป์กลุ่ม ดี.ไปครอง พร้อมกับทะลุเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนใครเพื่อน
 
        เกม นี้ไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสของทีมที่ได้พัก เช่นเดียวกับ เซร์คิโอ รามอส, อีเกร์ กาซียาส, เปเป้, มาร์เชโล่ วิเอยร่า และ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า เอาไว้ ขณะที่ เมซุต โอซิล, ชาบี อลอนโซ่ และ อังเคล ดิ มาเรีย มีชื่อเป็นสำรอง
 
        แนวรุกจัดผู้เล่นชั้นนำ อย่าง กาก้า ลงมาปั้นเกมร่วมกับ คาริม เบนเซม่า คอยสนับสนุน กอนซาโล่ อิกวาอีน หัวหอกตัวเป้าชาวอาร์เจนไตน์ ที่วันนี้สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงสนามด้วย ส่วน นูรี่ ซาฮิน ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงนัดที่สองนับตั้งแต่ย้ายมา
 
        เปิด เกมครึ่งแรกมาได้แค่ 14 นาที ทีมเยือนขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ กาก้า ตักบอลเข้าเขตโทษให้ โฆเซ่ กาเยฆอน ยิงด้วยซ้ายบอลลอดหว่างขา เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ นายทวารอาแจ็กซ์ เข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด นำเร็ว 1-0
 
        สี่ นาทีต่อมา อาแจ็กซ์ พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่เพื่อทวงประตูคืน เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล ทำชิ่งกับ คริสเตียน อีริคเซ่น ซึ่งคืนบอลให้กับ ฟาน เดอร์ วีล กดด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษบอลข้ามคานออกไป
 
        ผ่านมา 27 นาที เจ้าบ้านเดินเกมรุกหนักหน่วงขึ้น อีริคเซ่น  กดด้วยขวาตรงหัวกะโหลกยังไม่ผ่านมือ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารเรอัล มาดริด
 
        ครึ่ง ชั่วโมงของเกม อาแจ็กซ์ น่าได้ประตู เมื่อ เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล ยิงติดเซฟ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารชุดขาว มาเข้าทางของ นิโคลัส โลเดยโร่ หวดซ้ำเข้าไป แต่โดนเป่าล้ำหน้า จากนั้นเป็น เฟอร์น่อน อานิต้า หวดแฉลบ มิราเล็ม ซูเลจ์มานี่ เข้าไปตุงตาข่าย ทว่าไลน์แมนยกธงล้ำหน้าอีกครั้ง
 
        เจ้า บ้านมีโอกาสเหมือนกันในนาทีที่ 32 เมื่อ คริสเตียน อีริคเซ่น กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก เปิดบอลให้กับ เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล สอดมาซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่โดน อันโตนิโอ อาดาน นายทวารดาวรุ่งเรอัล มาดริด ป้องกันได้
 
        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 37 เรอัล ลุยขึ้นมาทาง กาก้า ไหลให้กับ คาริม เบนเซม่า ซัดด้วยซ้ายบอลหลุดเสาแรกไป
 
        ก่อน หมดครึ่งแรกแค่ 4 นาที เรอัล มาดริด มาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่โต้กลับเร็วขึ้นมาทาง คาริม เบนเซม่า จ่ายให้กับ กอนซาโล่ อิกวาอีน ดูดบอลลงอย่างนิ่มนวลแล้วตะบันด้วยขวาจากทางกรอบเขตโทษด้านขวาบอลเสียบเสา ไกลเข้าไปให้ ราชันชุดขาว นำห่าง 2-0 เมื่อหมดครึ่งเวลาแรก
 
        มา เล่นกันต่อในครึ่งหลังได้สามนาที อาแจ็กซ์ ได้โอกาสก่อน  ธีโอ ยานส์เซ่น เปิดลูกเตะมุมให้กับ ยาน แฟร์ตองเก้น กัปตันทีมโหม่งหลุดเสาขวาไป
 
        จากนั้นนาทีที่ 55 เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา คาริม เบนเซม่า ออกมาพักแล้วส่ง ฮามิต อัลตินท็อป มิดฟิลด์ชาวเติร์ก ลงสนามมาแทน
 
        สาม นาทีต่อมา กาเยฆอน ของเรอัล เปิดบอลให้กับ กาก้า สับด้วยขวาเน้นๆจากนอกเขต แต่โดน เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ นายด่านอาแจ็กซ์ เซฟได้
 
        กระเถิบมานาทีที่ 59 เรอัล เปลี่ยนเอา ชาบี อลอนโซ่ ลงมาเล่นแทน เอสเตบัน กราเนโร่
 
        ข้ามมานาทีที่ 66 ดาลี่ย์ บลินด์ ของอาแจ็กซ์ ดันขึ้นมาเปิดให้กับ อีริคเซ่น ยิงไกล แต่ไปติดเซฟของ อาดาน
 
        ถัดมานาทีเดียว เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา เปโดร เมนเดส ลงมาเล่นแทน อัลบาโร่ อาร์เบลัว
 นาทีที่สุดท้าย เรอัล มาดริด มาบวกเพิ่มได้อีกประตูจาก โฆเซ่ กาเยฆอน โดยเกมนี้เจ้าตัวซัดสองลูก ชุดขาวนำห่าง 3-0
 
        ช่วง ที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะ อาแจ็กซ์ ถึงรัง 3-0 กลายเป็นทีมเดียวที่เก็บชัยชนะ 6 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่มของ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้ ตบเท้าเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างยิ่งใหญ่
 
        ส่วน อาแจ็กซ์ แพ้ครั้งนี้เสียหายหนักทีเดียว เพราะอีกคู่หนึ่ง ลียง บุกชนะ ดินาโม ซาเกร็บ ท่วมท้น ทำให้ อาแจ็กซ์ ได้ไปเล่นแค่ถ้วยยูโรปา ลีก เท่านั้น ปล่อยให้ ลียง ตามหลัง เรอัล มาดริด เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป
 

 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาแจ๊กซ์ อัมส์เตอร์ดัม: เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ - เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, ยาน แฟร์ตอนเก้น (กัปตันทีม), ดาลี่ย์ บลินด์, เฟอร์นอน อนิต้า - เอยองก์ เอโนห์ - คริสเตียน เอริคเซ่น, ธีโอ ยานส์เซ่น - มิราเล็ม สุไลมานี่, นิโคลัส โลเดยโร่ (ดมิทรี บูลีย์กิ้น น.74), ลอเรนโซ่ เอเบซิลิโอ 
สำรอง: ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (ผู้รักษาประตู) - อราส ออซบิลิซ, ธูลานี่ เซเรโร่, รูเบน ลิเจี้ยน, ริคาร์โด้ ฟาน ไรจ์น, ดาวี่ย์ คลาสเซ่น

เรอัล มาดริด: อันโตนิโอ อาดาน - อัลบาโร่ อาร์เบลัว (เปโดร เมนเดส น.67), ราอูล อัลบิโอล, ราฟาแอล วาราน, ฟาบิโอ โคเอนเตรา - นูรี่ ซาฮิน, เอสเตบัน กราเนโร่ (ชาบี อลอนโซ่ น.59)  - โฆเซ่ กาเยฆอน, กาก้า, คาริม เบนเซม่า (ฮามิต อัลตินท็อป น.55) - กอนซาโล่ อิกวาอีน (กัปตันทีม)  
สำรอง: โตมาส เมฆีอาส (ผู้รักษาประตู) - เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย, เฆเซ่ โรดริเกซ

ผู้ตัดสิน: มานูเอล เดอ ซูซ่า (โปรตุเกส)

สรุปผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ
- แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) ชนะ บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 2-0
- บียาร์เรอัล (สเปน) แพ้ นาโปลี (อิตาลี) 0-2

กลุ่มบี
- ลีลล์ (ฝรั่งเศส) เสมอ แทร็บซอนสปอร์ (ตุรกี) 0-0
- อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) แพ้ ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) 1-2

กลุ่มซี
- บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 2-1
- เบนฟิก้า (โปรตุเกส) ชนะ โอเตลุล กาลาติ (โรมาเนีย) 1-0

กลุ่มดี
- ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย) แพ้ โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 1-7
- อาแจ็กซ์ (ฮอลแลนด์) แพ้ เรอัล มาดริด (สเปน) 0-3