ภายหลังจากที่มีกรณีที่นางแบบสาวก้านยาว “เอ” อัญชลี หัสดีวิจิตร พี่สาวสุดที่รักของสาวโย-ยศวดี ได้ตั้งครรภ์ลูกสาวชื่อน้องเอวี่ แต่ทางด้านของพ่อเด็กก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะออกมารับผิดชอบแต่อย่างใด เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่สาวเอจะต้องรับหน้าที่ซิงเกิ้ลมัมมาโดยตลอด งานนี้ทำเอาน้องสาวอย่าง โย-ยศวดี อดรนทนไม่ได้ เลยขึ้นข้อความบนทวิตเตอร์ ต่อว่าฝ่ายชาย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีข้อความว่า

        “สิ่งง่ายๆ ที่เราเข้าใจคุณจะไปแต่งงานกับใครต่อให้ผู้หญิงจะเป็นเพื่อนเราก็ตามก็ไม่มีความหมายหรือเหตุผลที่เราต้องโกรธแต่ 2 ปีแล้ว ที่คุณทำตัวเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น! ผู้หญิงคนนี้อยู่กับคุณมา 2 ปี นั่งเลี้ยงลูกที่ครึ่งหนึ่งก็เป็นของคุณมาโดยลำพัง!! หัวใจคุณมีบ้างมั้ย?? ครอบครัวคุณจะจัดงานรื่นเริงขึ้นมาโดยปราศจากความรู้สึกไร้ยางอายแบบนี้เลยหรือ? นี่แหละชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายคุณกากบาทชีวิตของครอบครัวฉันให้จมอยู่กับความทุกข์และอับอาย นี่เป็นบทเรียนแรกที่ฉันขอสั่งสอนให้คุณและครอบครัวมีความสำนึกบ้าง! นี่ก็คือครอบครัวของฉันที่ต้องดูแลเหมือนกันจะไปมีความสุขไม่ว่า แต่มันไม่ง่าย!”

         นอกจากนี้ ยังได้มีกระแสข่าวออกมาว่า สาวเอ-อัญชลี จะมีการฟ้องร้องเพื่อให้ฝ่ายชายมาเซ็นรับรองบุตรนั้น สยามบันเทิง มีโอกาสได้เจอสาวโย เธอก็ได้ชี้แจงถึงกรณีนี้ว่า

         “จริงๆ อย่าเรียกว่าเป็นการฟ้องร้องเลยดีกว่า แค่ยื่นศาลให้เค้ามารับรองเป็นบุตร เพื่อให้มีชื่อพ่อในทะเบียนเกิดแค่นั้นเอง แล้วปรากฏว่าเค้าไม่ยอม แล้วให้ทนายมาว่าอาจจะโต้ตอบเราในรูปแบบต่างๆ เราก็รอ แต่ไม่เคยเกิดขึ้น จนท้ายที่สุด ก็เหมือนเป็นคำสั่งของศาลที่ต้องบังคับให้ผู้ชายมาไกล่เกลี่ยกับเรา เพราะเนื่องจากว่าเค้าก็ไม่เคยโผล่หน้ามาจริงๆ แล้วคือที่ทราบล่าสุดก็คือเค้าจะแต่งงานเดือนพฤษภาคม ก็เลยอยากจัดการให้มันถูกต้องก่อนที่มันยุ่งยากกว่านี้ (แล้วดำเนินการไปถึงไหนแล้ว?) เออ เอาเป็นว่า วันที่ 29 มี.ค.นี้ จะนัดกันมาไกล่เกลี่ยกันก่อน ทางเราอ่ะ อะไรก็ได้ ขออย่าให้เด็กมีปัญหาในตอนโตอ่ะ อย่าให้เค้ามาถามว่าใครเป็นพ่อเค้า ต้องการแค่รับรองบุตรแล้วก็จบ ไม่ต้องมาอยู่กันเป็นพ่อลูก (เรื่องรับรองบุตรอย่างเดียวเหรอ แล้วเรื่องค่าเลี้ยงดูด้วยหรือเปล่า?) คือเค้าให้ทนายยื่นมาว่า เค้าจะช่วยเหลือค่าเลี้ยงบุตรอ่ะนะคะ โดยให้เดือนละหนึ่งหมื่นบาท เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ก็ได้นะ เราหาได้มากกว่านั้น เสียใจตรงที่ว่าผ่านมาหลายปีอ่ะนะ เค้าไม่เคยโผล่หน้ามาเลย ไม่เคยแม้จะติดต่อกลับมา หายไปอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วก็ตอนนี้ เอวี่ ขนาดพูดรู้เรื่องแล้ว (ทุกวันนี้เค้าก็ยังไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อเหรอ) ก็คือในคำให้การของเค้าอ่ะนะ คือ เค้าปฏิเสธทุกอย่าง แต่สุดท้ายถ้าเค้าเป็นพ่อจริงๆ เค้าก็จะให้การดูแลโดยการจ่ายค่าเลี้ยงดูเดือนละหนึ่งหมื่นบาท (แล้วมีการตรวจดีเอ็นเอเลยมั้ย) เออ ศาลก็บังคับว่าถ้าเป็นอย่างนั้นให้ตรวจดีเอ็นเอไปเลย ก็ตอนนี้ต้องรอวันที่ 29 มี.ค. เราก็จะรู้ทุกอย่าง ในใจเราพูดตรงๆ นะว่าเราก็แค้นนะ แต่เราไม่อยากทำอะไร คืออยากให้มันจบตรงที่ว่ารับรองว่าเป็นพ่อ (แล้วตรวจดีเอ็นเอหรือยัง?) ยังค่ะ วันที่ 29 คือศาลจะบอกว่าเราต้องทำยังไงบ้าง (คิดว่าเราจะชนะมั้ย?) เราชนะอยู่แล้ว แต่การชนะของเรา เราไม่ต้องการอะไร เราต้องการความถูกต้องเท่านั้นเอง”

        ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วจิตใจของพี่เอเป็นยังไงบ้าง โยเผยว่า “ตอนนี้เค้าก็เจ็บปวด เพราะว่าหลังจากทราบข่าวว่าผู้ชายจะแต่งงาน พี่เอเพิ่งทราบเรื่องไม่กี่วันที่แล้วเองค่ะ ก็เสียใจ เพราะว่านี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายหายหน้าไปค่ะ (ทราบมั้ยคะว่าเจ้าสาวเป็นใคร?) คือเจ้าสาวเป็นเพื่อนค่ะ แต่อาจจะเป็นเพื่อนไม่สนิทมาก แต่เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน (แล้วพี่เอว่ายังไงบ้าง?) เค้าไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ (พี่เอไม่โกรธเลยเหรอเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันด้วย) แต่แปลกเนอะเค้าไม่โกรธเลย พี่เอเป็นคนที่ใจเย็นมาก เค้ามองว่าตอนนี้สำคัญที่สุดคือ เอวี่ (มีกระแสข่าวว่าที่ฟ้องร้องเนี่ย เพราะว่าอยากได้สมบัติเค้า) ขอแค่ความถูกต้องดีกว่าค่ะ สมบัติไม่อยากได้หรอกค่ะ แต่ขอแค่รับรองเป็นบุตรพอแล้ว ให้รู้พ่อเอวี่ชื่ออะไร เป็นใคร จบ (แล้วไม่เรียกร้องค่าเลี้ยงดูเหรอ?) ถ้าจะให้เดือนละหมื่นก็ไม่เป็นไรค่ะ เราทำได้ดีกว่านี้”