เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทางเฟซบุ๊ก เผยว่า ในวันที่ 8 พ.ค. เวลา 13.30 น. ตนพร้อมด้วย ''กีต้าร์'' ชญานันท์ อาจปรุ ดาราและนางแบบนิตยสารเซ็กซี่ชื่อดัง โดยมีผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดคือ แก๊งตบผี และปายอินเลิฟ จะเข้าแจ้งความกับกองปราบปราม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตามจับกุม น.ส.อรวรรณ ศิรสีห์ กับพวกอีก 2 คน หลังไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างให้กับ ''กีต้าร์-ชญานันท์'' ในการถ่ายภาพยนตร์แผ่นเรื่อง ''ออนไลน์'' และยังหลอกขอเงินไปใช้ระหว่างการถ่ายทำอีกรวมกว่า 2 แสนบาท

    โดยการเข้าแจ้งความที่กองปราบครั้งนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.ชญานันท์ ได้เข้าร้องเรียนตนทางเฟซบุ๊กของทางเครือข่าย อ้างว่าถูกนายสดับพงศ์ ณ ลำปาง ผู้กำกับหนังแผ่นชื่อดังหลอกไปเล่นหนังเรื่องออนไลน์ และตกลงค่าตัวไว้ที่ 70,000 บาท ซึ่งในระหว่างการถ่ายทำ ผู้กำกับฯ คนนี้ก็ขอยืมเงิน น.ส.ชญานันท์ ไปใช้หมุนเวียนในการถ่ายทำด้วย
    

    นายสงกานต์เผยต่อว่า เมื่อถ่ายทำไปได้ร้อยละ 50 น.ส.ชญานันท์ จึงยอมให้ยืมเงิน เพราะเห็นว่าถ่ายทำมาเยอะ  อีกทั้งผู้กำกับฯ รายนี้ถือว่ามีชื่อเสียงในวงการหนังแผ่น และวงการหนังโฆษณา จึงเกิดความเชื่อใจและให้ยืมเงินไปรวมทั้งสิ้นกว่า 2 แสนบาท และเมื่อถ่ายทำเสร็จ น.ส.ชญานันท์ ได้พยายามติดตามทวงเงิน แต่ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จึงร้องเรียนมายังตน โดยตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นคดีฉ้อโกง จึงแนะนำให้ยื่นฟ้องศาล โดยที่ตนจะช่วยดูแลเรื่องคดีให้
    

    จากนั้นจึงไปยื่นฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือทั้งทางแพ่งและทางอาญา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2554 โดยมี นายสดับพงศ์ ณ ลำปาง เป็นจำเลยที่ 1 นายโสภณ ขุนภักดี เป็นจำเลยที่ 2 และ น.ส.อรวรรณ ศิรสีห์ เป็นจำเลยที่ 3 ซึ่งในส่วนของคดีอาญาฐานฉ้อโกงนั้นศาลได้นัดไต่สวนแล้ว และจำเลยที่ 1 และ 2 รับสารภาพตามคำฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 3 ไม่ได้มารับฟังคำไต่สวน ศาลจึงออกหมายจับ เพื่อที่จะมีการนัดมาฟังคำพิพากษา ดังนั้นตนจึงเข้าแจ้งความกองปราบ เพื่อขอให้ตามจับกุมตัว น.ส.อรวรรณ อีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ฐานฉ้อโกงมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

    
    นายสงกานต์เผยต่อว่า นอกจาก น.ส.ชญานันท์ ที่จะเดินทางไปกองปราบพร้อมกับตนแล้ว ยังมีนักศึกษาอีก 6 คนที่ถูกผู้กำกับฯ คนเดียวกันหลอกไปถ่ายหนังและไม่ได้จ่ายค่าตัวจะเดินทางเข้าไปร้องกองปราบพร้อมกับตนด้วย