ห่างหายจากจอแก้วไปพักใหญ่ สำหรับพระเอกสุดหล่อมาดนิ่ง ''หนุ่ม'' ศรราม เทพพิทักษ์ ตอนนี้ได้กลับมาลงละครอีกครั้ง หลังจากหายไปทำธุรกิจส่วนตัวมา ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ของพระเอกหนุ่มมีการเปลี่ยนที่ดีขึ้นในรูปร่างหน้าตา เจ้าตัวถึงกับยิ้มแก้มปริ รับเปลี่ยนลุกส์เพื่อลุยละคร เผยมีทำทรีตเมนต์หน้าตามวาระโอกาส แจงเป็นการดูแลตัวเอง ยันข่าวอัพดั้งไม่เป็นเรื่องจริง ธรรมชาติล้วนๆ พร้อมโต้จีบ ''น้องไบรท์'' พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ แค่พี่น้อง ยันสถานะโสดสนิท

    ผู้สื่อข่าวสยามดาราเจอศรรามในงานบวงสรวงละครเรื่อง มายาตะวัน เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 55 ณ หนองแขม เจ้าตัวก็ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าว

    หลังจากหายไปนาน ไปทำอะไรกลับมาหล่อขึ้นมาก ?
     
    ''ส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณทีมงานทีวีซีน ผมไปทำสีผมมาแล้วตัดผมสั้น เปลี่ยนลุกส์จากมือปราบพ่อลูกอ่อน และเสื้อผ้าด้วยช่วยส่วนหนึ่ง เราไม่ค่อยเครียดเล่นกีฬาเป็นประจำด้วย''

    ไม่ได้ไปทำอะไรมาแน่นะ ?
     
    ''ต้องบอกว่ามีการไปทรีตเมนต์บ้างเดือนละหน เพราะจริงๆ แล้วผมตั้งใจไปนวดขามากกว่า เพราะเราเตะฟุตบอล แต่เอ๊ะเราไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง จะให้มานั่งทาครีมทุกวันมันก็ไม่ใช่วิสัยผู้ชาย แต่ถ้าไปนั่งสบายๆ ให้เค้านวด มันก็เป็นการดูแลตัวเองด้วย''

    ได้ไปทำอะไรกับจมูกมาหรือเปล่า ?
     
    ''ลองเคาะจมูกดู ไม่มีแน่นอน รุ่นผมแบบธรรมชาติอยู่แล้ว ตามวัย''

    ดูแลตัวเองมากขึ้น ?
     
    ''ก็ต้องดูแลตัวเอง เราเป็นผู้บริหารด้วย ผลิตรายการถ้าเราไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เราก็ไม่สามารถดูแลคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวได้ ยังมีน้องๆ หลานๆ ครอบครัวเรา ฉะนั้นพอมาทำบริษัทเราก็ต้องมาดูแลพนักงาน เจ้าหน้าที่อีก ถ้าเราสุขภาพไม่ดีก็ไม่สามารถทำงานได้ดี''

    เห็นว่ามีรายการเป็นของตัวเอง ?
     
    ''มีมา 4 ปีแล้ว''

    จะมีขึ้นแท่นเป็นผู้จัดละครไหม ?
     
    ''ไม่ได้อยู่ในความคิดเลยครับ เพราะว่าด้วยความเคารพ อย่างอาปิ่นก็ยังเรียกใช้เราเล่นละครอยู่ และผู้จัดหลายๆ ท่านเป็นรุ่นน้องคุณพ่อ เคยเรียกเราเล่นละครอยู่ ผมทำในสิ่งผมถนัดดีกว่า ซึ่งรายการของบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นสารคดีเฉลิมพระเกียรติ ก็จะไม่ค่อยซ้ำกับใคร และก็ไปทำรายการกีฬาที่ตัวเองชอบเกี่ยวกับฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก''

    เรื่องละครไม่ถนัดหรืออย่างไร ?
     
    ''ละครเล่นดีกว่า หาบทใหม่ๆ เล่นให้แฟนๆ เห็นความเปลี่ยนไป''

    จะมีรายการอย่างอื่นเพิ่มอีกไหม ?
     
    ''มีครับ ตอนนี้กำลังเขียนคอนเทนต์อยู่''

    ปีนี้มีแพลนจะขยายบริษัทไหม ?
     
    ''ก็จะพยายามเคลียร์ห้องน้ำ เพราะตอนนี้กลายเป็นห้องเก็บของไปแล้ว ก็จะพยายามขยับขยายจากบ้านเก่าเข้าไปอยู่บ้านใหม่''

    รายการใหม่จะได้เห็นเร็วๆ นี้ไหม ?
     
    ''เร็วๆ นี้ครับ''

    ถามถึง ''น้องไบรท์'' ไปสนิทกันได้อย่างไร ?
     
    ''น้องไบรท์ ผมไปเชิญเค้าออกรายการของผม ชื่อว่ารายการ เพลินจิต ออนแอร์ทางช่องทรูอินไซด์ 61 เพลินจิตเป็นรายการที่เราไปหาบุคคลที่รู้จักกันในสังคม แล้วให้เค้าทำกิจกรรมอะไรที่อยากทำ และสร้างความเพลิดเพลินให้กับท่านผู้ชม นั่นเป็นคอนเซปต์รายการ วันนั้นที่ไปทำกิจกรรม คือไบร์ทไปลงเสียงอ่านนิทานให้คนตาบอดฟัง เป็นการช่วยเหลือสังคม เป็นกิจกรรมอย่างที่เค้าวางไว้ อย่างพี่มอสก็อาจจะพาผมไปฝึกเป็นคุณพ่อมือใหม่ ''พี่น็อต-วรฤทธิ์'' ก็กลับไปขี่เจ็ตสกีครั้งแรก รูปแบบรายการมันเป็นแบบนี้ พอเชิญน้องเค้าไปออกด้วย ความที่เราเป็นแฟนรายการพี่สรยุทธอยู่แล้ว เราก็เลยโทร.ไปขออนุญาตพี่สรยุทธ ทีมงานทั้งหมด นั่นเป็นที่มาของการมาเจอกัน ก็เป็นพี่เป็นน้องกัน เราก็ชื่นชมในการทำงานซึ่งกันและกัน''

    มีข่าวว่ายังคุยๆ กันอยู่ ?
     
    ''คนธรรมดาเค้าก็คุยกันทั้งนั้น คุยกันแบบพี่น้อง มีแต่ความปรารถนาดี ไม่ใช่เรื่องแปลก เล่าให้น้องเค้าฟังไปแล้ว น้องก็ตอบไปแล้ว''

    ไบรท์ซีเรียสกับข่าวไหม ?
     
    ''ไม่ซีเรียสครับ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรให้น้องเสียหาย''

    มีข่าวเราชื่นชมในตัวสาวไบรท์ ?
     
    ''ไม่ใช่แค่ผมที่ชื่นชมน้องเค้า คนที่เป็นแฟนรายการพี่ยุทธ น้องไบร์ทเค้าก็ดูกันทุกเช้า ผมก็ดูข่าว''

    แล้วหัวใจตอนนี้ล่ะ ?
     
    ''ยังโสดครับ ทำแต่งานครับ ไม่ได้มุ่งมั่นเรื่องผู้หญิง มุ่งมั่นแต่งานครับ''

    เพื่อนแต่งงานกันหมดแล้ว เราไม่อยากแต่งงานบ้างเหรอ ?
     
    ''ใช่ เพื่อนก็แต่งงานมีลูกกันหมดละ แต่เรายังไม่ถึงเวลา ถ้าถึงเวลาผมจะบอก เพราะว่าผมเป็นคนไม่ปิด''

    แพลนไว้ไหมว่าจะแต่งเมื่อไหร่ ?
     
    ''ยังไม่ได้วาง เดี๋ยวมันมาผมว่ามันก็มาเอง''

    กลัวมีลูกไม่ทันใช้ไหม ?
     
    ''ไม่กลัวครับ เพราะว่ายังมีอีกหลายๆ คนยังโสดและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว และก็มีความสุขกับชีวิต''

    คุณพ่อเคยถามไหมเมื่อไหร่จะแต่ง ?
     
    ''คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยถามเลย นอกจากถามว่าเมื่อคืนกลับกี่โมง เพราะว่าต่างคนก็ต่างทำงานเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยบังคับอะไรเลย''

    มีสาวๆ เข้ามาคุยบ้างไหม ?
     
    ''ผมว่าประโยคนี้ไม่ดีนะ ผมว่าผู้หญิงไทยต้องให้เกียรติ ผู้ชายน่าจะเดินเข้าไปหาผู้หญิงเองมากกว่า''

    ยังไม่เดินเข้าไปหาใครเหรอ ?
     
    ''ผมยังไม่เจอครับ ถ้าผมเจอผมเดินทันที''

    เหงาไหม ?
     
    ''มีบ้าง แต่ชิน''