แฟร้งค์ แลมพาร์ด สวมบทฮีโร่ซัดจุดโทษนาทีที่ 86 ช่วย "สิงโตคำราม" อังกฤษ เปิดเวมบลี่ย์ไล่ตามตีเสมอ ยูเครน 1-1 โดยเกมนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ถูกสองใบเหลืองกลายเป็นใบแดงไล่ออกท้ายเกม ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอช. เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2014

รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอช.

วันอังคารที่ 11 กันยายน 2555

อังกฤษ 1   -   1 ยูเครน

สนาม : เวมบลี่ย์  ผู้ชม : 68,102

　　เกมคัดฟุตบอลโลก นัดที่สองของอังกฤษ หลังจากเกมแรกชนะมอลโดวา มา 5-0 ก่อนที่จะกลับมาเล่นในบ้านพบกับ ยูเครน ซึ่งจะลงเล่นในรอบคัดเลือกเป็นเกมแรก

　　นัดนี้เจ้าบ้านขาดตัวหลักหลายรายทั้งจอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล ทำให้รอย ฮ็อดจ์สัน ต้องส่งฟีล จากีลก้า คู่กับ โจลีออน เลสค็อตต์ ยืนเป็นเซ็นเตอร์คู่ และให้เลห์ตัน เบนส์ ประจำทางแบ็กซ้าย

　　ฝั่งยูเครน ของอเล็ก บล็อกคิน หวังล้างอายจากฟุตบอลยูโร 2012 โดยมีอนาโตลิน ติมอสชุค นำทัพในแดนกลาง และแดนหน้ามีโอเล็ก กูเซฟ, เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า และ อันเดร ยาร์โมเลนโก้ เป็นตัวหลักในแนวรุก

　　เริ่มเกมได้ 3 นาทียูเครน ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ กูเชฟ ได้บอลทางขวาก่อนจะลองโยนมาหน้าประตูบอลแฉลบขาเบนส์ บอลโค้งเกือบเสียบเสาไกล

　　ผ่านครบ 10 นาทีอังกฤษ ส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้จากเจอร์เมน เดโฟ แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ก่อน โดยแจ้งว่าเดโฟ ไปทำฟาดแขนใส่ยาร์โมเลนโก้ ซะก่อน

　　ยูเครน มีโอกาสได้ประตูบ้างเช่นกันในนาทีที่ 14 เมื่อ โรตัน ได้แปเน้นๆในเขตโทษโจ ฮาร์ท หมดสิทธิ์แล้วแต่เจอร์ราร์ด ยังมาสไลด์ทิ้งได้ทัน

　　แต่แล้วนาทีที่ 39 ยูเครน ก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่เลสค็อตต์ จ่ายบอลผ่าน บอลถูกส่งต่อมาถึงโคโนเปลียนก้า ได้ซัดด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมชนิดโจ ฮาร์ท หมดสิทธิ์เซฟ ทีมเยือนบุกมานำ 1-0

　　ท้ายครึ่งแรกอังกฤษ น่าได้ประตูตีเสมอเมื่อแลมพาร์ด ได้ปาดบอลจากทางขวามาหน้าประตูให้ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ได้แปแต่ไม่ดีบอลหลุดเสาออกไปก่อนที่ช่วงทดเจ็บจะได้ยิงอีกครั้งคราวนี้ชนเสาออกไป ทำให้จบครึ่งแรกยูเครน ยังบุกมานำที่ 1-0

　　เริ่มครึ่งหลังมาได้สองนาที เดโฟก็โดนจดชื่อเป็นคนแรกในจังหวะโดดโขกบอลแย่งกับอนาโตลี ตีมอสชุกกัปตันยูเครนแล้วกางศอก

　　ถัดมาในนาทีที่ 54 เจอร์ราร์ด ดวลลูกกลางอากาศกับโรตันแล้วตีศอกกระแทกฝ่ายตรงข้ามจนได้เลือดที่โหนกแก้ม กองกลางลิเวอร์พูลจึงได้ใบเหลืองอีกราย

　　ให้หลังอีกสองนาที เยฟเกนี่ เซลินไปเกี่ยวขามิลเนอร์ล้มจึงโดนจดชื่อตามมา กระทั่งนาทีที่ 62 ทรี ไลอ้อนส์ก็เปลี่ยนแดนนี่ เวลเบ็คลงไปแทนเคลฟเวอร์ลีย์เป็นตัวสำรองรายแรก

　　ถึงนาทีที่ 69 อังกฤษน่าจะตีเสมอได้เมื่อเกล็น จอห์นสันตะลุยขึ้นมาทางขวาแล้วลากตัดเข้ามาตะบันจากหน้าเขตโทษ แต่ถูกปิยาตอฟปัดหลุดเสาไกลได้

　　นาทีต่อมา เจ้าบ้านส่งดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ลงไปแทนอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลนอีกราย แต่พริบตาต่อมาเลสค็อตต์ไปดึงฝ่ายตรงข้ามหลังเสียบอลเลยรับใบเหลือง

　　นาทีที่ 73 เจ้าบ้านส่งไรอัน เบอร์ทรานด์ลงไปแทนเบนส์เป็นตัวสำรองรายสุดท้ายก่อนที่มิลเนอร์จะใช้ศอกเล่นงานคู่แข่งอีกในจังหวะโขกบอลจึงโดนจดชื่อ 

　　มาถึงนาทีที่ 82 สิงโต พลาดโอกาศได้ได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดายเมื่อ แดนนี่ เวลเบ็ค มีโอกาศดีดบอลในกรอบเขตโทษของ ยูเครน ไปชนเสากระดอนออกไป

　　จนแล้วจนรอด อังกฤษ มาได้ประตูตีเสมอสำเร็จนาทีที่ 86 เมื่อ เวลเบ็ค ครองบอลในเขตโทษของ ยูเครน และจะกระดกบอลแต่ไปถูกแขนของแข้งทีมเยือน กรรมการเป่าให้จุดโทษเจ้าถิ่นทันที และเป็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่รับหน้าที่ซัดเข้าไปไม่เหลือ อังกฤษเสมอ 1-1

　　นาทีที่ 88 สิงโตคำรามต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เข้าสะกัดฟาวน์  เดนิส การ์มาช ล้มคว่ำลงไปกรรมการชักใบเหลืองที่สองให้กัปตันทีมสิงโตทันที และกลายเป็นใบแดง

　　ช่วงเวลาที่เหลือกลายเป็น ยูเครน ที่ครองเกมบุกได้มากกว่าและมาเรียกได้อีกหนึ่งใบเหลืองจาก เกล็น จอห์นสัน แผงหลังสิงโตคำราม แต่ก็เพียงเท่านั้นจบเกม อังกฤษ เสมอ ยูเครน ไปแบบสุดมันส์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

　　อังกฤษ : โจ ฮาร์ท , เกล็น จอห์นสัน , ฟิล จากิลก้า , โจลีออน เลสค็อตต์ , เลห์ตัน เบนส์ (ไรอัน เบอร์ทรานด์ น.73)  , เจมส์ มิลเนอร์ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน (ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.70) , ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ (แดนนี่ เวลเบ็ค น.62) , เจอร์เมน เดโฟ

　　สำรอง : จอห์น รัดดี้ , ไคล์ วอล์คเกอร์ , แกรี่ เคฮิลล์ , ไมเคิ่ล คาร์ริค , เจค ลิเวอร์มอร์ , อดัม ลัลลาน่า   , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง , แจ็ค บัตแลนด์

　　ยูเครน :อังเดร ปิยาตอฟ , โอเล็ก กูเซฟ ,  เยฟเกนี่ คาเชริดี้ , ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้ , เยฟเกนี่ เซลิน (วลาเชสลาฟ เชฟชุค น.75) , อนาโตลี ทีมอสชุค , รุสลัน โรตัน (เซอร์เก นาซาเรนโก้ น.90) , อังเดร ยาร์โมเลนโก้ , เดนิส การ์มาช , เยฟเกนี่ โคโนปลิยันก้า , โรมัน โซซุลย่า (มาร์โค เดวิช น.89)

　　สำรอง : มักซิม โควัล  , โรมัน เบซุส , วิตาลี่ มันด์ซุค , ทาราส สเตปาเนนโก้ , บ็อกดาน บุตโก้  , อังเดร  ไดแกน

　　ผู้ตัดสิน : คูเน็ต ซาคีร์ (ตุรกี)

สรุปผล ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป
กลุ่ม เอ
- เบลเยียม เสมอ โครเอเชีย  1 - 1
- เซอร์เบีย ชนะ เวลส์  6 - 1
- สกอตแลนด์ เสมอ มาซิโดเนีย  1 - 1

กลุ่ม บี
- บัลแกเรีย ชนะ อาร์เมนีย  1 - 0
- อิตาลี ชนะ มอลต้า  2 - 0

กลุ่ม ซี
- สวีเดน ชนะ คาซัคสถาน   2 - 0
- ออสเตรีย แพ้ เยอรมัน  1 - 2

กลุ่ม ดี
- โรมาเนีย ชนะ อันดอร์ร่า  4 - 0
- ตุรกี ชนะ เอสโตเนีย  3 - 0
- ฮังการี แพ้ ฮอลแลนด์  1 - 4

กลุ่ม อี
- ไซปรัส ชนะ ไอซ์แลนด์  1 - 0
- นอร์เวย์ ชนะ สโลวีเนีย  2 - 1
- สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ แอลเบเนีย  2 - 0

กลุ่ม เอฟ
- อิสราเอล แพ้ รัสเซีย  0 - 4
- ไอร์แลนด์เหนือ เสมอ ลักเซมเบิร์ก  1 - 1
- โปรตุเกส ชนะ อาเซอร์ไบจาน  3 - 0

กลุ่ม จี
- บอสเนียฯ ชนะ ลัตเวีย  4 - 1
- สโลวะเกีย ชนะ ลิคเตนสไตน์  2 - 0
- กรีซ ชนะ ลิทัวเนีย  2 - 0

กลุ่ม เอช
- ซาน มาริโน่ แพ้ มอนเตเนโกร   0 - 6
- โปแลนด์ ชนะ มอลโดวา  2 - 0
- อังกฤษ เสมอ ยูเครน  1 - 1

กลุ่ม ไอ
- จอร์เจีย แพ้ สเปน  0 - 1
- ฝรั่งเศส ชนะ เบลารุส  3 - 1