ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล

10 ประตูผีหลอก

Posted 28/09/2012 by siamsport

 

             เรื่องเด่นประเด็นร้อนของวงการฟุตบอลในตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องข้อพิพาท เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตัดสิน บ่อยครั้งที่เหตุการณ์บางเหตุการณ์มักเป็นที่กังขา และอาจมีผลกับเกมการแข่งขัน โดยเฉพาะการทำประตู ซึ่งลูกบางลูกอาจจะเข้าไปแล้ว บางลูกอาจไม่เข้า แต่ทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของกรรมการ และมีผลต่อบทสรุปของการแข่งขันด้วย


            สัปดาห์นี้ ลองมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการยิงประตู ที่แทบไม่อยากเชื่อว่าตุลาการสนามจะตาถั่วมองไม่เห็นว่าลูกบอลข้างเส้นไป แล้ว และสิ่งเหล่านั้นมีผลต่อการแข่งขันจริงๆ ที่สำคัญหากไม่มีแนวคิดที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ความดราม่าของเกมลูกหนังก็จะอยู่ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด


 
10. คลิ้นท์ ฮิลล์ (ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ พบ โบลตัน พรีเมียร์ลีก 2012)
          นี่เป็นหนึ่งในเหตการณ์อันลือลั่นสนั่นเกาะผู้ดีในเกมลูกหนังเมื่อฤดูกาลที่ ผ่านมา โดยเกิดขึ้นในจังหวะที่ ฮิลล์ ปราการหลังของ "ทหารเสือราชินี" ลงทุนวิ่งจากหน้าประตูตัวเองเพื่อหวังทำประตูให้กับต้นสังกัด ต้องบอกว่าเป็นความพยายามอย่างแรงกล้าของเซนเตอร์แบ็กรายนี้จริงๆ


           ที่สำคัญความพยาามของ ฮิลล์ เกือกสำฤทธิ์ผลเมื่อเขาบรรจงสะบัดลูกบอลเต็มกบาลบริเวณใกล้ๆ เสาโกล์ โดยบอลพุ่งผ่านมือนายทวาร โบลตัน ไปแล้ว แถมยังข้ามเส้นชัดๆ แต่ผู้ตัดสินทั้งหมดที่อยู่ในสนามดันทะลึ่งมองไม่เห็น บทสรุปก็คือไม่ได้ประตู


            ด้วยเหตุนี้แหละทำให้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) จัดการเปิดเผยรายงานเพียงหนึ่งชั่วโมงหลังจบแมตช์ดังกล่าว เพื่อแสดงความชัดเจนว่า พวกเขาจะนำเทคโนโลยี โกลไลน์ มาใช้เพื่อให้การแข่งขันมีความขาวสะอาดมากยิ่งขึ้น






9.ซัลลี่ย์ มุนตารี่ (เอซี มิลาน พบ ยูเวนตุส กัลโช่ เซเรีย อา 2012)
           เรื่องสลับซับซ้อนเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกลีก แต่ที่น่าเจ็บปวดคงจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งมีผลต่อการลุ้นแชมป์ลีก เหมือนในกรณีเกมระหว่าง "ม้าลาย" กับ "ปีศาจแดง-ดำ" หากใครที่เป็นสาวกของ มิลาน คงรู้ว่าจังหวะประตูผีในแมตช์นั้นหากเข้าไปแชมป์ สคูเด็ตโต้ คงอยู่ในถิ่นซาน ซีโร่ แน่นอน


           มุนตารี่ แข้งผิวสีมีโอกาสจะๆ ในการที่จะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย และมันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เมื่อเขาส่งบอลพุ่งตรงไปที่ตาข่ายแล้ว และมันก็ข้ามเส้นไปเรียบร้อยซะด้วย ก่อนที่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน จะโชว์ลีลาควักกะปิเอาบอลออกมาข้างนอก ที่สำคัญผู้ตัดสินยังทำเป็นเมินไม่เห็นซะงั้น แน่นอนว่าแมตช์ดังกล่าวนำมาซึ่งจุดเปลี่ยนในการลุ้นแชมป์ลีกเมืองมะกะโรนี เลยทีเดียว และคงรู้นะว่าจบซีซั่นแล้วเสื้อสีไหนที่ครองแชมป์ลีก





 

8.โจนาธาน ฮาวเวิร์ด (เชสเตอร์ฟิลด์ พบ มิดเดิ้ลสโบรช์ รอบรองฯ เอฟเอ คัพ 1997)
          โอกาสทองที่ทีมในระดับล่าง จะมีโอกาสที่จะได้เข้าไปสัมผัสเกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แต่สุดท้ายแล้วความผิดพลาดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นแต่ดันเกิด ทำให้ความฝันของทีมเล็กๆ ในระดับดิวิชั่น 3 (ณ เวลานั้น) ต้องอกหักจนน้ำตาท่วมสนามแข่ง


          จังหวะซัดประตูของ ฮาวเวิร์ด พุ่งลอยผ่านมือ โกล์ "เดอะ โบโร่" ไปแล้ว ก่อนจะกระแทกคานดังโครมแล้วหล่นข้ามเส้นประตูอย่างชัดเจน แต่ท่านเปาดันตาถั่วทั้งๆ ที่ยืนอยู่ในมุมที่ชัดเจน และใกล้ๆ กับเหตุการณ์ซะด้วย ผลที่ปฏิเสธประตูดังกล่าว ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกัน และต้องไปเล่นรีเพลย์ สุดท้าย มิดเดิ้ลสโบโร่ สอยยับสบายเท้า 3-0 เข้าไปรอบชิงฯ






7. เจฟฟ์ เฮิร์สท์ (อังกฤษ พบ เยอรมันตะวันตก (อดีต) รอบชิงฯ ฟุตบอลโลก 1966)
          การที่เทคโนโลยียังไม่พัฒนาเป็นเหตุผลสำคัญที่ชาวอังกฤษ รู้สึกสบายใจ เพราะหากเมื่อหลายทศวรรษก่อนโลกเราหมุนเร็ว ไม่แน่ว่าทำเนียบแชมป์เวิลด์ คัพ จะมีชื่อของ อังกฤษ ติดอยู่ด้วยหรือเปล่า อ้าวววพูดจริงๆ ไม่อิงนิยายนะจ๊ะ


          เจฟฟ์ เฮิร์สท์ คือบุคคลสำคัญสำหรับทัพ "สิงโตคำราม" ที่นำชาติบ้านเกิดฟาดฟันกับ เยอรมันตะวันตก อย่างเมามันในเกมนัดชิงฯ ที่สนามเวมบลีย์ โดยแมตช์นี้จบลงด้วยสกอร์ 2-2 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ ซึ่งตอนนั้นเกิดเหตุการณ์ที่ยังคงน่าฉงนมาจนทุกวันนี้เมื่อลูกยิงของ เฮิร์สท์ พุ่งชนคานลงมาบนพื้น โดยที่ข้ามเส้นหรือยังก็ไม่รู้แต่ท่านเปาแดนนาฬิกาและผู้ช่วยของเขาเห็นชอบ ว่าเป็นประตูแน่นอน


         อย่างไรก็ตาม เฮิร์สท์ มาจัดการซัลโวประตูติดท้ายอีกหนึ่ง ทำให้สกอร์จบที่ 4-2 และ อังกฤษ คว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในหน้าประวัติศาสตร์วงการลูกหนัง เมืองผู้ดี หลายเสียงบอกว่าถึงจังหวะปริศนาจะเข้าหรือไม่เข้า อังกฤษ ก็ได้แชมป์จากประตูเด็ดขาดของ เฮิร์สท์ แต่อยากจะสวนกลับว่าถ้าหากไม่รู้ "ประตูผี" ลูกนั้น ใครจะไปรู้ว่า "อินทรีเหล็ก" อาจกระซวกเจ้าภาพยับก็ได้





6. ชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า พบ เคตาเฟ่ ลา ลีกา 2012)
           บาร์เซโลน่า ก็เคยต้องพบกับเรื่องเซ็งจิตแบบนี้เหมือนกับ แม้พวกเขาจะได้ชื่อว่าเป็นสโมสรแห่งการถล่มประตู แต่บางครั้งก็ต้องเจอกับเรื่องน่าเจ็บปวดที่ประตูซึ่งควรจะเกิดขึ้นกลับไม่ มีสกอร์ขึ้น แบบนี้มันน่าเจ็บใจไหมล่ะ


            ชาบี เอร์นานเดซ โชว์ทักษะขั้นเทพด้วยการส่งบอลผ่านมือนายทวารเคตาเฟ่ ไปแล้ว และบอลก็ค่อยๆ ไหลเข้าประตู แต่กองหลังของทีมเยือนวิ่งมาเคลียร์ได้ทัน อย่างไรก็ตาม จากกล้องทีวีแสดงให้เห็นว่าลูกบอลผ่านเส้นประตูไปแล้วแบบเต็มใบ แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อผู้ตัดสินมองไม่ทันก็ต้องยกประโยชน์ให้ เคตาเฟ่ แต่เอาเหอะ ถึงยังไงบทสรุปของเกมนั้น "เจ้าบุญทุ่ม" ก็ได้ 3 คะแนนอยู่ดี

 

5.มาร์โค เดวิช (ยูเครน พบ อังกฤษ ศึกยูโร 2012)
           นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่ประตูผีนำความหายนะมาสู่เกม เพราะถ้าใครได้ชมแมตช์ ยูโร 2012 ระหว่าง อังกฤษ กับเจ้าภาพร่วม คงรู้ว่า ยูเครน มีความหวังที่จะได้เข้ารอบน็อกเอาต์ แต่ทุกอย่างมลายสิ้น จากจังหวะที่ท่านเปาดันตาถั่วซะงั้น


            จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟสุดฉาว กลายเป็นฮีโร่ของชาวอังกฤษ เมื่อพี่ท่านโชว์ลีลากังฟูสลับขาหวดลูกยิงของ มาร์โค เดวิช ที่พุ่งผ่านมือ โจ ฮาร์ท ไปแล้ว และกำลังจะเข้าไปซุกก้นตาข่าย แต่เดชะบุญที่ "เจที" เตะออกไปได้ทัน กระนั้น เมื่อดูจากภาพรีเพลย์ ชัดเจนบอลข้ามเส้นไปแล้ว


             ที่สำคัญผู้ช่วยผู้ตัดสินยืนอยู่หลังประตูชัดๆ แต่ดันไม่เห็น แต่จะทำยังไงได้ ทุกอย่างผ่านไปแล้ว และ ยูเครน ก็ต้องตกรอบด้วยสกอร์ 1-0 ที่สำคัญแชมป์ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวก็ไม่ใช่ อังกฤษ อยู่ดี ฉะนั้น มันก็เลยไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำเหมือนกับตอนเวิลด์ คัพ 1966






4. แฟร้งค์ แลมพาร์ด (อังกฤษ พบ เยอรมนี ศึกฟุตบอลโลก 2010)
           หลังจากเหตุการณ์กังขาเมื่อปี 1966 มีหลายต่อหลายแมตช์ที่ทั้งสองชาติต้องโคจรมาพบกัน และบทสุรปเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง เพราะพวกด๊อยท์ชเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้ตลอด โดยเฉพาะการดวลจุดโทษ ทั้งคู่เจอกันทีไรใส่ชื่อเยอรมนีเป็นฝ่ายชนะได้เลย


            อย่างไรก็ตาม ไม่มีแมตช์ไหนที่สะใจบรรดาคอลูกหนังเมืองเบียร์เท่ากับเกมเวิลด์ คัพ 2010 ที่ดินแดนซาฟารี โดยพวกเขาต้องดวลกันในรอบน็อกเอาต์ และในตอนนั้น เยอรมนี ครองความได้เปรียบอยู่ 2-1 ขณะที่ลูกยิงสุดสวยของ แลมพาร์ด ที่ชนคานข้ามเส้นไปแล้ว แต่ท่านเปาเหมือนโดนม่านบังตามองไม่เห็น ซึ่งบรรดาแฟนบอล "ทรี ไลอ้อนส์" ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าลูกของ "แลมาพ์ส" เข้าประตู สกอร์ อังกฤษ คงไม่เน่าแพ้เละ 4-1 แน่นอน


            ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องกรรมตามสนองหรือเปล่า แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ถึงขนาดให้นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในเกมลูกหนัง เพราะขืนยังปล่อยให้ทุกอย่างอยู่ในมือของผู้ตัดสิน ความบรรลัยก็จะบังเกิดอีกแน่นอน





3. แอนดี้ แคร์โรลล์ (ลิเวอร์พูล พบ เชลซี นัดชิงฯ ศึกเอฟเอ คัพ 2012) 
            ใครจะไปคิดว่า ลิเวอร์พูล ก็ต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้เหมือนกัน โดยตอนนั้นในแมตช์เอฟเอ คัพ นัดชิงแชมป์ ที่สนามเวมบลีย์ "หงส์แดง" ตกเป็นรอง เชลซี 1-2 และเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะจบการแข่งขัน โดยตอนนั้นบรรดาสาวก "สิงห์บลูส์" ต่างเก็บกล่องเสียงรอเฮลั่นสนั่นสนามอยู่แล้ว


             อย่างไรก็ตาม พวกเขาแทบจะเงียบกริบ เมื่อจังหวะที่ แอนดี้ แคร์โรลล์ โขลกบอลเต็มกบาล บอลโดน ปีเตอร์ เช็ก ปัดออกมา แต่เมื่อดูจากภาพช้าเห็นได้ชัดว่า นายทวารเลือดเช็ก ปัดบอลที่ข้ามเส้นไปแล้ว และเมื่อลูกดังกล่าวไร้ซึ่งความยุติธรรม ลิเวอร์พูล ก็ต้องชอกช้ำระกำใจอย่างช่วยไม่ได้





2. วิคเตอร์ อนิเชเบ้ (เอฟเวอร์ตัน พบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เกมพรีเมียร์ลีก 2012)
          เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ และทำให้ประเด็นการใช้โกลไลน์ มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยจังหวะดังกล่าวเป็นตอนที่ อนิเชเบ้ โหม่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่กรรมการดันไม่เห็น ที่สำคัญผู้ช่วยผู้ตัดสินยังเมินเฉยอีกต่างหาก แบบนี้มันชีช้ำกระหล่ำปลีชัดๆ


           แน่นอนว่านี่อาจเป็นช่วงต้นซีซั่นทำให้ความเสียหายยังไม่มากนัก แต่หากแมตช์นี้เป็นการตัดสินแชมป์หรือการหนีตกชั้น คิดดูซิว่าความบรรลัยจะเกิดขึ้นกับทีมที่เสียประโยชน์มากแค่นั้น แทบไม่อยากคิดเลยว่าน้ำตาของแฟนบอลจะท่วมสนามแค่ไหน หากต้องชิบหอยเพราะกรรมการ





1. เปโดร เมนเดส (สเปอร์ส พบ แมนฯ ยูไนเต็ด เกมลีก 2005)
          หากจะหาคำบรรยายสิ่งที่เรียกว่าลูกบอลผ่านเส้นประตู ต้องนำภาพเหตุการณ์ ในเกม "น้องไก่" ไล่จิก "ผีแดง" เพราะถ้ากรรมการไม่ตาบอด หรือยืนอยู่ไกลถึงกลางสนาม คงเห็นได้เต็มสองตาว่าลูกกลมๆ สีเหลืองมันเด้งแทบจะไปแตะตาข่ายหลังประตูอยู่แล้ว


           จังหวะดังกล่าว เมนเดส โชว์สายตาเฉี่ยวมหาประลัยเมื่อเหลือบไปเห็น รอย แคร์โรลล์ โคตรคนโคตรโกล์ขวัญใจเด็กผี ออกนอกเส้นมากไป ก็เลยจัดการบรรจงตักลูกบอลเกือบครึ่งสนาม บอลหลุดมือ นายทวารคนเก่ง "เร้ด เดวิลส์" แต่ด้วยปฏิกิริยาโคตรโกง พี่ท่านเรียบควักบอลออกมาทันที แต่ภาพช้าเห็นได้ชัดว่าลูกเข้าเส้นไปเป็นกิโลฯ (เว่อร์) แต่กรรมการดันไม่เห็น งานนี้ท่านเปาโดนด่ายับ


          ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าว จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ใครๆ ต่างยกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ได้รับการโอบอุ้มจากผู้ตัดสิน แม้ว่ามันดูจะเป็นการกล่าวหากันลอยๆ แต่ถ้าพิจารณาดีๆ ก็มีส่วนจริงอยู่เหมือนกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • เฮสกีย์ถึงออสเตรเลีย พร้อมลุยเอลีก
    อดีตศูนย์หน้าของลิเวอร์พูล เดินทางถึงออสเตรเลียแล้ว และพร้อมจะลงเล่นในเกมเปิดฤดูกาลเอลีก วันที่ 7 ตุลาคมนี้ทันที
  • อัลเวสแฉเคยถูกเปแอสเชตามจีบ
    ดาเนี่ยล อัลเวส ยอดแบ็กขวา บาร์เซโลน่า เปิดใจ เคยถูก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตามจีบในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พร้อมแย้มยินดีย้ายซบ "เปแอสเช" เช่นกัน หากอนาคตตนกลายเป็นแข้งส่วนเกินในทัพ "อาซูลกราน่า"
  • ร็อดเจอร์สเชื่อแอ็กเกอร์,บอรินี่หายทันฉะนอริช
    เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหนุ่มไฟแรงของ ลิเวอร์พูล มั่นใจ แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ และ ฟาบิโอ บอรินี่ 2 นักเตะคนสำคัญจะสลัดอาการเดี้ยง และฟิตทันสำหรับลงช่วยทีมในเกมที่พวกเขาจะเจอกับ นอริช วันเสาร์นี้ พร้อมลั่น ไม่หวั่นเรื่องส่งดาวรุ่งลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ แถมยกนิ้วชม "เดอะ ค็อป" ที่เข้าใจถึงความยากลำบากในการทำทีมเป็นอย่างดี
  • อองโชซ์หยันหงส์ไม่ติดท็อปโฟร์ชัวร์
    สเตฟาน อองโชซ์ อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ฟันธง "หงส์แดง" ไม่มีทางติดท็อปโฟร์ในซีซั่นนี้แน่นอน ที่สำคัญการลุ้นท็อปซิกซ์ ยังแทบต้องเหนื่อยจนเลือดตาแทบกระเด็น แต่ยังเชื่อ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คือกุนซือที่เหมาะกับทีม แต่คงต้องใช้เวลาพอสมควรถึงจะประสบความสำเร็จ

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »