วงการลูกหนังต้องหมดนักเตะฝีเท้าดีไปอีกราย เมื่อล่าสุด มิชาเอล บัลลัค อดีตยอดมิดฟิลด์กัปตันทีมชาติเยอรมนี ประกาศแขวนสตั๊ดแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยที่ผ่านมาเจ้าตัวต้องกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด นับตั้งแต่หมดสัญญากับ เลเวอร์คูเซ่น

มิชาเอล บัลลัค อดีตกองกลางกัปตันทีมชาติเยอรมนี ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามการยืนยันของ มิชาเอล เบ็คเกอร์ ผู้จัดการส่วนตัวของเขา เมื่อวันอังคารที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้เส้นทางชีวิตการค้าแข้งของเขาสิ้นสุดลงที่วัย 36 ปี

บัลลัค ซึ่งเพิ่งมีอายุครบ 36 ปี เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา กลายเป็นนักเตะว่างงานนับตั้งแต่ที่สัญญาระยะเวลา 2 ปีของเขากับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมดังในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน หมดลงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยหลังเก็บของออกจาก "ห้างขายยา" แล้วนั้น ก็มีรายงานระบุว่า เขากำลังเจรจากับหลายทีมในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (เอ็มแอลเอส) สหรัฐอเมริกา และ เอ-ลีก ออสเตรเลีย ด้วย แต่ล่าสุดอดีตมิดฟิลด์คนเก่งของ เอฟเซ ไกเซอร์สเลาเทิร์น, เลเวอร์คูเซ่น, บาเยิร์น มิวนิค และ เชลซี ตัดสินใจแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับ บัลลัค นั้น ลงเล่นให้บ้านเกิดไปทั้งหมด 98 นัด โดยครั้งสุดท้ายที่เขาลงสนามในสีเสื้อของทัพ "อินทรีเหล็ก" ก็คือการเป็นกัปตันทีมในเกมกระชับมิตร นัดที่ เยอรมนี พ่าย อาร์เจนตินา 0-1 เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2010 ส่วนเกมแรกที่เขาลงเล่นให้กับ เยอรมนี ชุดใหญ่ คือการลงเป็นตัวสำรองแทน ดีทมาร์ ฮามันน์ ในเกมอุ่นเครื่องกับ สกอตแลนด์ เมื่อปี 1999

ทั้งนี้ อดีตพ่อค้าแข้งวัย 36 ปี ประสบความสำเร็จมากพอตัวในชีวิตการค้าแข้ง โดยตอนที่อยู่กับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น เขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์ได้ 1 สมัย แต่เขายิ่งประสบความสำเร็จมากกว่าเดิมในตอนที่อยู่กับ บาเยิร์น ด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 3 สมัย และ ลีกาโพคาล 1 สมัย ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายไปเล่นให้ เชลซี ในปี 2006 และได้แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 1 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัย, แชมป์ ลีก คัพ 1 สมัย รวมถึงแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อีก 1 สมัยด้วยกัน