ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » นอกสนาม » โคตรแข้งหมายเลข 7

โคตรแข้งหมายเลข 7

Posted 03/10/2012 by siamsport

 

 

           ในวงการฟุตบอลเสื้อหมายเลข 7 เป็นที่ชื่นชอบของนักเตะอย่างมาก เพราะเป็นเสื้อที่มีความหมายของความอุดมสมบูรณ์ตามความเชื่อในศาสนาคริสต์ มีพ่อค้าแข้งมากมายที่ใส่เสื้อหมายเลขดังกล่าว บางคนก็ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นตำนานลูกหนัง บางคนก็แค่ผู้เล่นทั่วๆ ไปที่ไม่ได้เป็นที่จดจำ


             สำหรับสัปดาห์นี้ลองมาดูกันซิว่า นักเตะที่เคยได้สวมเสื้อหมายเลข 7 คนไหนที่ยิ่งใหญ่ชนิดที่แฟนบอลต้องยกให้เป็นตำนานอย่างแท้จริง และหากไม่มีผู้เล่นเหล่านี้ ไม่แน่ว่าทีมที่ตามเชียร์อาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เป็นอยู่ก็ได้

 




10. อันเดร เชฟเชนโก้ (เชลซี, เอซี มิลาน, ดินาโม เคียฟ, ยูเครน)
             เชฟเชนโก้ ได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าแบบโป้งปิดบัญชี และแน่นอนว่าสมัยที่เจ้าตัวฟอร์มฟีค ยากที่จะมีกองหลังคนไหนจะเอาอยู่ ที่สำคัญ "เชว่า" ถือเป็นหัวหอกที่ครบเครื่องทั้งกระชากพาบอลไปยิงประตูด้วยตัวเอง, หาช่องเข้าไปทำประตู แม้กระทั่งฟรีคิก หรือยิงไกล พี่ท่านทำได้หมด ขอให้สบโอกาสทำประตู ขอบอกว่าโอกาสที่บอลจะวิ่งไปซุกก้นตาข่ายมีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์


             อย่างไรก็ตาม ความเก่งฉกาจของ เชฟเชนโก้ สมัยที่ค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ซึ่งเขาช่วยทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องหมดสภาพเมื่อย้ายมาอยู่กับ เชลซี แน่นอนว่านักเตะอาจจะไม่ได้เป็นทีมจดจำของสาวก "สิงห์บลูส์" แต่ผลงานที่สร้างให้กับ "ปีศาจแดง-ดำ" รวมทั้งทีมชาติยูเครน ยังคงติดตาตรึงใจแฟนบอลอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง


 



 




9. ฟร้องค์ ริเบรี่ (บาเยิร์น มิวนิค)
             ดาวเตะจอมเทคนิค ทำผลงานได้อย่างสุดยอดสมัยที่โลดแล่นอยู่ในสีเสื้อของ โอลิมปิก มาร์กเซย แน่นอนว่าความจี๊ดจ๊าดของพี่ "บาก" เข้าตาบรรดายักษ์ใหญ่ในยุโรปเพียบ แต่กลายเป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่คว้าตัวไปร่วมทีมได้สำเร็จ แน่นอนว่า ริเบรี่ สร้างผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับสาวก "เสือใต้" และทีมสอยแชมป์ลีกเมืองเบียร์ได้อย่างสุดยอดในซีซั่น 2007–08 และ 2009–10 รวมทั้งรองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัยในซีซั่น : 2009–10 และ 2011–12


              สำหรับตอนนี้ ริเบรี่ ได้รับการยกย่องเชิดชูจากแฟนบอลบาเยิร์นว่า "ไกเซอร์ฟร้องค์" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของนักเตะอย่างแท้จริง โดยก่อนหน้านี้มีนักเตะที่ได้รับฉายาว่า "ไกเซอร์" ในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า แค่ ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ ต้นตำรับโคตรนักเตะ และ มิชาเอล บัลลัค (ไกเซอร์น้อย) เท่านั้น แค่นี้คงรู้แล้วว่า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศส เก่งฉกาจขนาดไหน


 


 




8. ไบรอัน ร็อบสัน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
           "กัปตันมาร์เวล" ฉายานี้ไม่ใช่ใครก็จะได้รับการยกย่อง เพราะถ้าไม่ใจเด็ดยอมตายเพื่อทีมยากที่จะได้รับฉายานี้ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ร็อบสัน ถึงได้รับการสรรเสริญจากสาวก "ปีศาจแดง" รวมทั้งทีมชาติอังกฤษอย่างมาก เพราะทุกครั้งที่พี่ท่านลงสนามรับใช้ต้นสังกัดและทีมชาติ ไม่มีครั้งไหนที่จะเล่นแบบเหยาะแหยะให้เสียความรู้สึกกองเชียร์เลย


             ในเรื่องความสามารถเฉพาะตัว ก็ต้องยอมรับว่าศักยภาพของนักเตะอังกฤษ ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ร็อบสัน ก็เช่นเดียวกัน แต่ในเรื่องหัวใจนักสู้ชนิดที่เลือดอาบหน้าก็พร้อมลงสนามโดยไม่หวั่นบาดทะ ยัคจะรับประทาน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ร็อบสัน ถึงคู่ควรกับเสื้อหมายเลข 7 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งนักเตะคนไหนที่ใส่เบอร์นี้มักเป็นตำนานแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทั้งนั้น


 



 




7. ราอูล กอนซาเลซ (เรอัล มาดริด, ทีมชาติสเปน)
             ราอูล คือตำนานดาวยิงของ เรอัล มาดริด อย่างแท้จริง เจ้าตัวซัดประตูในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็นกอบเป็นกำเอาเป็นว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการหยุดอยู่ที่ 228 ประตูจากการลงสนามให้ "ราชันชุดขาว" 550 แมตช์ ฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เสื้อหมายเลข 7 ของเขายังคงอยู่ในหัวใจของแฟนบอล เรอัล ตลอดกาล


             ความสำเร็จในสีเสื้อขาวสะอาดในระดับสโมสรมันมากมายเยอะแยะจนนับไม่ถ้วน แต่น่าเสียดายที่มงกุฎระดับชาตินั้น ราอูล ไม่เคยสัมผัสเลย เพราะในยุคที่เขาโลดแล่นให้กับทัพ "กระทิงดุ" ทีมในตอนนั้นมีฉายาเพียงแค่ "หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม" และไม่เคยไปถึงดวงดาวสักครั้ง แต่กระนั้นความยิ่งใหญ่ของเขาก็ยังคงไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะกับ เรอัล หากจำกันได้ตอนที่เจ้าตัวย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับ ชาลเก้ 04 บรรดาสาวก "ราชันชุดขาว" ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเลยทีเดียว




 




6. หลุยส์ ฟิโก้ (เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน)
              ปีกจอมพลิ้วเลือดฝอยทอง กลายเป็นจูดาสสำหรับสาวก บาร์เซโลน่า หลังจากที่ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด ซึ่งในวงการลูกหนังรู้กันดีว่าทั้งสองสโมสรเป็นคู่อาฆาตอย่างแท้จริง แต่การย้ายมาอยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ ฟิโก้ เพราะเจ้าตัวประสบความสำเร็จมากมายโดยเฉพาะการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก


              หลังจากอำลา เรอัล ไปลองความท้าทายใหม่กับ อินเตอร์ แม้ว่าตอนนั้นอายุอานามจะเยอะแล้ว แต่ความสามารถเฉพาะตัวของ ฟิโก้ ยังมีประโยชน์กับ "งูใหญ่" อย่างมาก และนำต้นสังกัดสอยแชมป์ลีกเมืองมะกะโรนีถึง 4 สมัย ต้องยอมรับว่านี่คือตำนานปีกตัวจริงเสียงจริง

 




 




5. จอร์จ เบสต์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
             นักเตะคนนี้แม้จะไม่มีลมหายใจอยู่บนโลกแล้ว แต่ชื่อของเขายังคงตราตรึงสำหรับสาวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มิเสื่อมคลาย หากใครเป็นแฟนบอลรุ่นใหญ่ของ "ผีแดง" คงได้รู้ซึ้งถึงลีลาการกระชากลากเลื้อยอย่างเมามันชนิดที่กองหลังคู่แข่ง ต้องวิ่งหัวทิ่มหัวตำ เพราะโดนหลอกเป็นว่าเล่น น่าเสียดายที่อาชีพพ่อค้าแข้งของ "ป๋าจอร์จ" สั้นเหลือเกิน เนื่องจากการนิยมเศษเมรัยแทนน้ำ ทำให้สภาพร่างกายย่ำแย่จนต้องแขวนเกือกไปแบบใจจำยอม


             แน่นอนว่าความยิ่งใหญ่ของ เบสต์ ยังไม่เคยเลือนหายไปจากใจของแฟนบอล โดยเฉพาะบรรดาคอลูกหนังในโรงละครแห่งความฝัน ที่สำคัญการใช้ชีวิตของ ตำนานลูกหนังสุดหล่อ ซึ่งมักเสพสมบ่มิสมกับสาวๆ พอๆ กับการร่ำสุรา เป็นอุทาหรณ์เตือนใจพ่อค้าแข้งรุ่นใหม่ๆ ว่า อย่าใช้ชีวิตเสเพล เพราะชีวิตนักเตะมันสั้นนัก



 





4. โรนัลดินโญ่ (บราซิล)
              สำหรับนักเตะชาวบราซิลแล้วส่วนใหญ่หมายเลข 7 ไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไร เพราะพวกเขายกย่องเสื้อหมายเลข 10 ซึ่งเป็นตัวแทนของความยิ่งใหญ่ และการเป็นเพลย์เมกเกอร์ประจำทีม แต่กระนั้น "ดินโญ่" ก็คือเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในหมายเลขแห่งความสมบูรณ์ (ตามความเชื่อทางศาสนาคริสต์) และก็ไม่เคยทำให้สาวก "แซมบ้า" ต้องผิดหวัง


              อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันด้วยอายุที่โรยรา กอปรกับฟอร์มที่หลุดหายไป เป็นสาเหตุให้เจ้าตัวไม่ค่อยได้โชว์ลีลาเทพมากนัก แต่ถ้าในยุคที่ "ดินโญ่" ฟอร์มฮอตสมัยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า บอกตามตรงว่านักเตะคนไหนที่คิดจะเข้ามาแย่งบอล ก็ต้องเตรียมเอาปิ๊บติดมือไปด้วย เพราะมีสิทธิ์โดนหลอกจนต้องอับอายขายขี้หนากันเลยทีเดียว



 



3. เดวิด เบ็คแฮม (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ทีมชาติอังกฤษ)
            ถ้าหากมองในเรื่องของรายได้ เดวิด เบ็คแฮม คือผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จด้านการตลาดมากที่สุดในยุคมิลเลนเนียม อาจเป็นเพราะเจ้าตัวแต่งงานกับ วิคตอเรีย ซึ่งโด่งดังในฐานะป็อบสตาร์แห่งวง "สไปซ์ เกิร์ลส์" แต่กระนั้นเรื่องฝีเท้าของ "เบ็คส์" ก็คือว่าเอกอุโดยเฉพาะลูกโยน และลูกฟรีคิก ที่หลายๆ คนยกย่องว่าแม่นยิ่งกว่าจับวาง !!


            สมัยที่อยู่กับ "ผีแดง" เบ็คแฮม คือขวัญใจของแฟนบอลอย่างแท้จริงๆ เพราะประตูสำคัญหลายต่อหลายครั้งมาจากการเปิดบอลที่แม่นยำของเขา หากจำกันได้ในนัดชิงฯ ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก 1999 การเตะมุมที่แม่นยำ 2 ครั้งในช่วงทดเจ็บนำมาซึ่ง 2 ประตูที่ทำให้พวกเขาพลิกนรกชนะ บาเยิร์น มิวนิค อย่างน่าเหลือเชื่อ ทุกวันนี้แม้เจ้าตัวจะอายุอานามปาเข้าไป 37 ปีแล้ว ก็ยังโลดแล่นในโลกลูกหนังกับ ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ แถมยังปั่นฟรีคิกแม่นยำเหมือนเดิมซะด้วย



 




2. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, ทีมชาติโปรตุเกส)
           "ซีอาร์7" (CR7) เป็นเครื่องการันตีให้เห็นว่าหมายเลข 7 บนหลังเสื้อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ตอนที่ย้ายมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายๆ คนอาจจะขัดหูขัดตากับความดื้อดึงที่เจ้าตัวมักโชว์ลีลาแบบวันแมนโชว์ จนหลายครั้งทำให้เกมเสีย แต่กระนั้นเมื่อมีการพัฒนาฟอร์มการเล่น และรู้จักเล่นเพื่อทีมมากขึ้น ทำให้ "โด้น้อย" กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวก "เร้ด อาร์มี่" และนำ "ผีแดง" คว้าแชมป์ลีกเป็นกอบเป็นกำ รวมทั้งโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" ด้วย


           ในวันที่เจ้าตัวตัดสินใจอำลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อเดินตามฝันไปค้าแข้งกับสโมสรที่ตามเชียร์มาตั้งแต่เด็กนั่นก็คือ เรอัล มาดริด แน่นอนว่าสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอล แมนฯ ยูฯ อย่างมาก แต่ค่าตัวของนักเตะทำให้ผู้บริหารยิ้มร่า เพราะมันมากมายมหาศาลชนิดที่ช่วยให้สถานะการเงินของ "เร้ด เดวิลส์" มั่นคงเลยทีเดียว (เว่อร์เกินไป)


            สำหรับตอนนี้เจ้าตัวก็กลายเป็นที่รักของแฟนบอล เรอัล เพราะซัดประตูให้ทีมคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงดุเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และที่สำคัญ โรนัลโด้ ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ได้จนทุกวันนี้



 




1. เอริก คันโตน่า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
            พฤติกรรมและลีลาการเล่นของ เอริก คันโตน่า เหมาะสมกับฉายา "ศิลปินลูกหนัง" อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะทำอะไร จะพูดอะไร มักจะโดดเด่นไม่แพ้ใคร รวมทั้งลีลากังฟูคิกใส่แฟนบอล คริสตัล พาเลซ ก็สวยงามยิ่งกว่าบรรดาผู้คนที่ฝึกกังฟูอีกต่างหาก เห็นไหมล่ะว่า "เดอะ คิง" สุดยอดเกินคำบรรยายขนาดไหน


             ความจริงแล้ว นักเตะฝีเท้าจัดจ้านที่ใส่เสื้อเบอร์ 7 ในถิ่นโรงละครแห่งความฝันมีมากมาย แต่ชายคนนี้คือผู้ที่มาสวมเสื้อหมายเลขดังกล่าว ที่มาปลดแอกสิ่งที่สาวก "ผีแดง" รอคอยมานานนั่นก็คือการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ว่ากันว่าหากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่มี "ก็องโต้" อยู่ในทีม ความสำเร็จมากมายมหาศาลในทุกวันนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้


            อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นศิลปินลูกหนังที่อยู่ในทุกอณูเนื้อของ คันโตน่า ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจแขวนสตั๊ดชนิดที่ทำเอาหลายๆ คนอึ้งกันไปเลย เพราะอายุของเขาในตอนนั้นแค่ 30 ต้นๆ ยังสามารถโลดแล่นในวงการลูกหนังได้อีกหลายปี แต่ด้วยความรู้สึกที่คิดว่าตนเองไม่สามารถเป็นตัวสำรองของนักเตะคนไหนทั้ง นั้น หรือย้ายไปเล่นกับทีมอื่น ทำให้ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ โบกมืออำลาฟุตบอลดีกว่า นี่แหละสุดยอดศิลปินหมายเลข 7 ตัวจริงเสียงจริง

 



 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • รูนี่ย์เตือนผีเลิกเสียประตูแบบโง่ๆได้แล้ว
    เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงตัวเก่งของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงเตือนเพื่อนร่วมทีมให้ช่วยกันเล่นเกมรับให้ดีขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่ ต้องเสียประตูแบบโง่ๆอีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาทำพลาดอีกแล้วแต่ยังดีที่พลิกสกอร์กลับมาซิว ซีเอฟอาร์ คลูช 2-1 ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
  • อาร์วีพีคุยโว!ลั่นยังระเบิดฟอร์มเด็ดกว่านี้ได้อีก
    โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกตัวทีเด็ดของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มั่นใจว่าตนยังสามารถทำผลงานได้ดีกว่านี้อีกในเร็ววันนี้ ถึงแม้ว่าจะระเบิดฟอร์มล่าตาข่ายอย่างเนื่องโดยยิงไปแล้ว 7 ประตูจาก 6 เกมที่ผ่านมาในซีซั่นนี้
  • บาเต้ บอริซอฟ 3:1 บาเยิร์น มิวนิค
    บาเต้ บอริซอฟ โชว์ฟอร์มเยี่ยมด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ "เสือใต้"บาเยิร์น มิวนิค 3:1 เก็บสามแต้มในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนสลีก กลุ่มเอฟ
  • ไฮย์เกสรับบาเต้สมควรได้เฮ
    จุ๊ปป์ ไฮย์เกส นายใหญ่ บาเยิร์น มิวนิค ยก บาเต้ โบริซอฟ สมควรได้เฮแล้ว หลังอัด "เสือใต้" กระจุย 3-1 เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ มิดฟิลด์ตัวเก่ง บาเต้ โวเป็นชัยชนะสุดสำคัญ แต่ชี้ บาเยิร์น ยังคงเป็นเต็งแชมป์กลุ่ม

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »