2 คู่รักหวาน ปลื้ม-ทับทิม และ แอน-ภูริ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ หลังเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลื้มบอกเป็นวันมหามงคลของชีวิต ด้าน แอน-ภูริ จดทะเบียนสมรสเรียบร้อย ฝ่ายหญิงยอมใช้คำว่านางนำหน้า เผยงานฉลองมงคลสมรสพระราชทานพร้อมแล้ว รับตื่นเต้นใกล้วันจริง

    ถือเป็นวันดีฤกษ์ดี จนมีคู่แต่งงานในวงการได้พระราชทานน้ำสังข์ถึง 2 คู่ ในวันเดียวกัน ทั้งคู่รักทายาทนักการเมือง และคู่รักดาราคนในวงการบันเทิงทั้งฝ่ายชายและหญิง
    

    สำหรับคู่แรกที่กล่าวถึง เป็นคู่ของ นายสุรบถ หลีกภัย หรือปลื้ม บุตรชาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และ นางภักดิพร สุจริตกุล กับ น.ส.มัลลิกา จงวัฒนา หรือทับทิม บุตรสาว นางประภา โรจน์รุ่งฤกษ์ งานนี้จัดงานหมั้นในช่วงเช้า ที่ห้องโลตัสสวีท 5-7 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยมี นายมารุต บุนนาค อดีตประธานรัฐสภา พร้อมด้วยนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในงาน ซึ่งงานนี้มีทั้งนักการเมืองและดารานักแสดงเข้าร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน, หม่อมหลวงสุขุมพันธุ์ บริพัตร ฯลฯ ส่วนทางด้านคนในวงการบันเทิงก็มี ดาวใจ ไพจิตร, ชัญญ่า ทามาดะ, ''ดิว'' อริสรา ทองบริสุทธิ์ ฯลฯ
    

    สำหรับบรรยากาศงานในช่วงเช้า เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 08.15 น. มีการแห่ขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าว หลังจากนั้นจึงเริ่มพิธีตามประเพณี โดยฝ่ายเจ้าบ่าวได้สวมแหวนหมั้น พร้อมสร้อยคอและต่างหูทับทิมให้เจ้าสาว ซึ่งทางเจ้าสาวก็ได้สวมแหวนหมั้นให้แก่เจ้าบ่าว สร้างบรรยากาศอบอวลไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขกับแขกเหรื่อที่มา
    

    จากนั้นคู่บ่าว-สาว ก็ได้ควงกันมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงที่มาที่ไปของการพบรัก โดย ''ปลื้ม''ได้เล่าให้ฟังว่าตนได้รู้จักฝ่ายหญิงจากการทำงานเป็นพิธีกรรายการ VRZO จนต่อมาได้ชวนมาเป็นพิธีกรร่วมกันในรายการ ซึ่งจากความใกล้ชิดจึงทำให้ทั้งคู่ได้ศึกษานิสัยใจคอและเป็นที่มาของการก่อร่างสร้างตัวของความรักที่เกิดขึ้น
    

    ส่วนกระแสข่าวที่หลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าทั้งคู่แต่งงานทั้งที่อายุยังน้อย ในเรื่องนี้ทายาทนักการเมืองชื่อดัง กล่าวว่าตนถูกเลี้ยงมาให้มีความคิดเป็นของตนเอง มีความมั่นใจในการตัดสินใจ ตนทำงานหาเงินด้วยตนเองมาตั้งแต่อายุ 16 วันนึงเมื่อเจอคนที่ใช่ และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงไม่ลังเลที่จะตัดสินใจแต่งงานกับคนที่ตนมั่นใจ
    

    สำหรับเรื่องทายาท หนุ่มปลื้มแจงว่าตนตั้งใจว่าอีก 6-7 ปี ค่อยมี ที่ตนแต่งงานเพราะมั่นใจในคนนี้จึงได้ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ ไม่ได้เป็นเพราะฝ่ายหญิงท้อง ถึงตัดสินใจแต่ง พร้อมกับบอกสื่อว่าอยากให้เปลี่ยนมุมมองในเรื่องการแต่งงานแบบด่วนสายฟ้าแลบว่าไม่ได้เป็นเพราะฝ่ายหญิงต้องตั้งครรภ์เสมอไป สุดท้ายหนุ่ม ''ปลื้ม'' ยืนยันว่าอนาคตตนอยากจะเจริญรอยตามพ่อ คือการเป็นนักการเมือง เพื่อสร้างความสุขให้คนอื่นซึ่งเป็นสิ่งที่ตนปรารถนา
    

    ด้าน ''ทับทิม'' กล่าวสั้นๆ ว่าที่เลือก ปลื้มมาเป็นคู่ชีวิตเพราะว่าฝ่ายชายเป็นคนดี มีความเสมอต้นเสมอปลาย ที่สำคัญมีกตัญญูต่อพ่อแม่  นี่คือสิ่งที่ตนประทับใจ และเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต
    

    ก่อนจบการสัมภาษณ์ ทั้ง 2 คนได้ปล่อยคำหวาน 3 คำให้กันโดย  ปลื้มกล่าวคำว่า ''ชั่วนิรันดร์'' ส่วน ทับทิม พูดคำว่า ''รักที่สุด''
    

    ต่อมาในช่วงบ่ายโมงวันเดียวกันนี้ ทั้งสองคนได้เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่วังสวนจิตรลดา โดยภายหลังจากที่เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์แล้ว ทั้ง 2 ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ถือเป็นความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นอย่างสูง ที่ได้รับพระราชทานน้ำสังข์ในวันนี้ จนทำให้ตนนั้นถึงกับร้องไห้ออกมา ถือเป็นวันมหามงคลของตนเองเป็นอย่างมาก
    

    ปลื้ม: ''ก็รู้สึกปลาบปลื้มมากจนน้ำตาไหลเลยครับก็รู้สึกเป็นพระมหากรุณาธิคุณมากที่ได้รับพระราชทานน้ำสังข์ จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านก็รับสั่งกับคุณแม่เพราะคุณแม่เป็นพระสหายท่านก็รับสั่งว่าเลี้ยงลูกจนโตเป็นฝั่งเป็นฝาแล้วส่วนปลื้มก็โตและแต่งงานแล้ว จริงๆ ชื่อผมสุรบถ ก็เป็นท่านที่ตั้งให้ พอผมแต่งงานท่านก็พระราชทานน้ำสังข์ให้อีก ก็เลยรู้สึกดีใจ เรียกว่าเป็นวันมหามงคลเลยครับสำหรับผม 2 คน''
    

    ทับทิม: ''ปลื้มปีติที่สุดในชีวิต วันนี้ก็ร้องไห้ไม่รู้กี่รอบและค่ะ เพราะทั้งตื้นตันและรู้สึกได้รับพระราชทานน้ำสังข์ก็เรียกว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณจริงๆ ค่ะ  ส่วนมากจะตรัสชมว่าเราทำงานเป็นวัยรุ่นสมัยใหม่ที่ช่วยกันทำงานดี''
    

    นอกจากนี้ ''ทับทิม'' ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องการจดทะเบียนสมรส ว่าตนและปลื้มยังไม่ได้ไปจดทะเบียนสมรส แต่ก็ตั้งใจเร็วๆ นี้จะไปจดทะเบียนแน่นอนเมื่อทั้ง 2 คนพร้อมเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้น ที่เจ้าตัวเปิดเผยก็แจงว่าเป็นชุดทับทิมเก่า ของคุณแม่ฝ่ายชาย
    

    ส่วนอีกหนึ่งคู่ที่เพิ่งจะเข้าพิธีหมั้นหมายไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และมีกำหนดเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่วังสวนจิตรลดา ในวันนี้เช่นกันก็คือ คู่ของ ''แอน'' อลิชา ไล่สัตรูไกล และ''หนุ่ม'' ภูริ หิรัญพฤกษ์  ซึ่งทั้งคู่ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกของการได้เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ในวันนี้ว่า ตนและแอนรู้สึกดีใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ถือเป็นเกียรติสูงสุด และเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของทั้ง 2 คนเลยก็ว่าได้ พร้อมกันนี้หนุ่มภูริยังได้เผยว่าตนกับแอนได้เดินทางจดทะเบียนสมรสในวันนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยฝ่ายภรรยาสาว ''แอน'' ได้ยอมใช้คำนำหน้าขึ้นต้นว่านาง เป็นความภูมิใจของทั้ง 2
          

    ภูริ :''รู้สึกดีใจมาก เป็นเกียรติสูงสุดสำหรับเราสองคนมาก ในพระมหากรุณาธิคุณที่ท่านพระราชทานน้ำสังข์ให้เรา 2 คน ถือว่าเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของเราทั้ง 2 คนก็ว่าได้ พระองค์ท่านทรงรับสั่งว่าให้เรามีความสุขมากๆ รักกันนานๆ''
    

    แอน: ''รู้สึกเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่หาที่สุดไม่ได้จริงๆ ตื่นเต้นมาก ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีวันนี้มีแต่ความดีใจ ตื้นตัน''
    

    ภูริ: ''วันนี้ก็จดทะเบียนสมรสด้วย วันนี้ก็มี นางอลิชา หิรัญพฤกษ์ เกิดขึ้นแล้ว เป็นความภาคภูมิใจของผม เป็นวันที่ดีที่สุดเราก็จะถือว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา หลังจากนี้เดี๋ยวจะไปกราบคุณยายก่อนแล้วก็จะมีเลี้ยงกันภายในครอบครัว''
    

    แอน :''ส่วนงานฉลองมงคลสมรสพระราชทานก็จะมีภายในอาทิตย์หน้า 5 พ.ย. ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมแล้วค่ะ''
    

    ภูริ: ''เมื่อวานเพิ่งไปสั่งข้าวมันไก่ให้พี่ๆ นักข่าวทานกัน''