ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เตฟซัดชัย!เรือเบียดหงส์ขาว1-0แซงขึ้นรองฝูง

เตฟซัดชัย!เรือเบียดหงส์ขาว1-0แซงขึ้นรองฝูง

Posted 28/10/2012 by siamsport

คาร์ลอส เตเวซ รับบทฮีโร่ซัดสุดสวยช่วย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเฉือนชัยเหนือ "หงส์ขาว" สวอนซี ซิตี้ ไปแบบสนุก 1-0 เก็บสามแต้มพร้อมแซงขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงของตารางชั่วคราว ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา


ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2555

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1   -   0 สวอนซี




สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม    ผู้ชม : 46,801 คน


         "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม พบกับ "หงส์ขาว" สวอนซี โดยเจ้าบ้านปรับแนวรับ ส่ง มาติย่า นาสตาซิค มายืนเซนเตอร์กับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี โดยกองหน้า คาร์ลอส เตเวซ ประสานงาน เซร์คิโอ อเกวโร่ ส่วนทีมเยือนใช้ โจนาธาน เด กุซมัน,เวย์น เราท์เล็ดจ์ และ ปาโบล เอร์นานเดซ เป็นสามประสานอยู่ด้านหลัง มิชู


<% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%><% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%><% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%> 

     เริ่มเกมมา13นาที สวอนซี ทำแฟนบอลเจ้าถิ่นใจหายวูบ เมื่อได้ลูกฟรีคิกเตะโดย โจนาธาน เด กุซมัน มาที่หน้าประตู โจ ฮาร์ท ออกมาไม่ถึงบอล บอลหล่นใส่ แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ หลุดออกหลังแบบฉิวเฉียด อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าอยู่ดี

      3นาทีต่อมา เป็นฝ่ายทีมเยือนสวอนซี เสียใบเหลืองไปก่อน ตกเป็นของ อังเคล รานเคล หลังผู้ตัดสินมองว่าไปเจตนาพุ่งล้มเอาฟาวล์

     นาทีที่32 ทีมเจ้าบ้าน เรือใบสีฟ้า แทบไม่มีโอกาสจบสกอร์ โดยจังหวะใกล้เคียงสุดคือจังหวะ แกเร็ธ แบร์รี่ ได้บอลตรงกรอบเขตโทษ ก่อนแทงทะลุช่องให้ เตเวซ แต่ก็แรงจนบอลออกหลังไปอีก

     นาทีที่37 ทีมเยือนทำได้ดีกว่า เมื่อ เวย์น เราท์เล็ดจ์ จ่ายบอลทะลุแนวรับ แมนฯซิตี้ ให้ มิชู หลุดไปยิงส่งบอลตุงตาข่ายด้วยเท้าซ้าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าอีกครั้ง

     นาทีต่อมา เจ้าบ้าน แมนฯซิตี้ มีโอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรก จากการยิงของ เตเวซ แต่บอลก็ตรงตัว มิเชล ฟอร์ม

      จังหวะต่อเนื่อง จากการสวนขึ้นมา ของ สวอนซี ก่อนมีโอกาสเปิดเข้ามากดดันโดย ปาโบล เอร์นานเดซ บอลผ่าน โจ ฮาร์ท ไปแล้ว แต่ก่อนที่ มิชู จะเข้าฮอร์ต ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ได้ตามมาสกัดทิ้งได้หวุดหวิด ก่อน ไมกาห์ ริชาร์ดส์ รับใบเหลืองจากการไปฟาวล์ ในจังหวะก่อนหน้า

      ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านพยายามทำเกมบุกทางริมเส้นมากขึ้น แต่ก็ไม่ผ่านแนวรับของ สวอนซี ที่วันนี้มาดีเหลือเกิน ทำให้จบครึ่งแรก สกอร์ยังเสมอกันที่ 0-0

       กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลัง เรือใบสีฟ้าขยับเปลี่ยนตัวโดยเอา มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาเล่นแทน อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ

      นาทีที่ 51 มาริโอ บาโลเตลลี่ ได้บอลหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ มิเชล ฟอร์ม แต่ยาวทวารทีมเยือนวิ่งตามไปปิดมุมไว้หมด ทำให้ไม่มีโอกาสยิง

      นาทีที่ 54 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเตะมุม คาร์ลอส เตเวซ เปิดเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ วิ่งเข้าโขกบอลข้ามคานออกหลังไป

      นาทีที่ 59 สวอนซี เกือบได้ประตูอกนำจากลูกโขกของ มิชู แต่บอลไปตรงตัว โจ ฮาร์ท ที่พุ่งปัดไว้ได้ก่อนตามมาตะครุบอีกครั้ง

      นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ โต้กลับทันควัน  คาร์ลอส เตเวซ ได้บอลหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโษแต่บอลไปตรงตัว มิเชล ฟอร์ม

       นาทีที่ 61หลังพยายามอยู่นานเจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ กาแอล กลิชี่ ไหลบอลต่อให้ คาร์ลอส เตเวซ ได้สับไกหน้าเขตโทษระยะ 20 หลา บอลพุ่งหนีมือ มิเชล ฟอร์ม เสียบเสาเข้าไปซุกก้นตาข่าย

       นาทีที่ 65 สถานการณ์ของทีมเยือนต้องแย่ลงไปอีกเมื่อ มิเชล ฟอร์ม ผู้รักษาประตูมือหนึ่งมีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวจนต้องเปลี่ยนเอา เกร์ฮาร์ด เทรมเมล ลงมาเฝ้าเสาแทน

        นาทีที่ 72 ทีมเยือนขยับเปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยเอา แดนนี่ เกรแฮม ลงสนามมาแทน ลีออน บริตตัน

      นาทีที่ 74 สวอนซี ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ โจนาธาน เด กุซมัน ปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษระยะ 20 หลา บอลพุ่งหนีมือ โจ ฮาร์ท หลุดเสาออกไป

       นาทีที่ 77 ทีมเยือนตัดสินใจเปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้ายโดยถอดเอา ปาโบล เอร์นานเดซ ออกและส่ง นาธาน ดายเออร์ ลงแทน

       นาทีที่ 84 แมนฯ ซิตี้ ต้องเสีย ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ที่ได้รับบาดเจ็บเข่าเล่นต่อไม่ไหวต้องหามออกจากสนามและส่ง โคโล่ ตูเร่ ลงสนามมาแทน

       นาทีที่ 85 นาธาน ดายเออร์ รับใบเหลืองหลังไปเสียบ กาแอล กลิชี่ ทางด้านหลัง

      ครบ 90 นาทีผู้ตัดสินข้างสนามชูป้ายทดเวลาเจ็บ 12 นาที หลังเกมต้องหยุดไปนานจากจังหวะที่ มิเชล ฟอร์ม และ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ได้รับบาดเจ็บต้องหามออกจากสนามทั้งคู่

       นาทีที่ 96 เจ้าบ้านเน้นรับแน่นโดยถอดเอา เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าออกและส่งกองหลังอย่าง โจลีออน เลสค็อตต์ ลงสนามแทน

      นาทีที่ 97 แนวรับเจ้าถิ่นสกัดบอลไม่ดีบอลมาเข้าทาง คี ซอง-ยอง ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้ที่ได้ยิงจากแถวสองแต่บอลออกข้างไปแบบไม่ได้ลุ้น

      ช่วงเวลาที่เหลือ สวอนซี บุกหนักแต่ยังไม่ผ่านแนวรับเจ้าบ้าน จบเกม แมนฯ ซิตี้ เฉือนคว้าชัยได้ 1-0 เก็บเพิ่มอีกสามแต้มขยับขึ้นไปเป็นรองฝูงชั่วคราว



รายชื่อผู้เล่นพร้อมคะแนนจากสกายสปอร์ตส์   


        แมนฯ ซิตี้ :
โจ ฮาร์ท 7, ไมกาห์ ริชาร์ดส์ 6 (โคโล่ ตูเร่ 5 น.84), มาติย่า นาสตาซิช 6, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี 6, กาแอล กลิชี่ 6, ซามีร์ นาสรี่ 6, ยาย่า ตูเร่ 6, แกเร็ธ แบร์รี่ 6, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ 5 (มาริโอ บาโลเตลลี่ 6 น.46), คาร์ลอส เตเวซ 7, เซร์คิโอ อเกวโร่ 6 (โจเลียน เลสค็อตต์ น.90)

        สำรองไม่ได้ใช้
: คอสเทล ปันติลิมอน, จอร์จ อีแวนส์, สกอตต์ ซินแคลร์, เอดิน เชโก้

        ใบเหลือง
: ไมกาห์ ริชาร์ดส์


        สวอนซี : มิเชล ฟอร์ม 6 (แกร์ฮาร์ด เทรมเมล 6 น.63), อังเกล รานเกล 6, ชิโก้ ฟลอเรส 6, แอชลี่ย์ วิลเลียมส์ 7, เบน เดวิส 6, ลีออน บริตตัน 6 (แดนนี่ เกรแฮม 5 น.71), โจนาธาน เด กุซมัน 6, เวย์น เราท์เล็ดจ์ 5, คี ซอง-ยอง 6, ปาโบล
        เอร์นานเดซ 5 (เนธาน ดายเออร์ 5 น.77), มิชู 6

        สำรองไม่ได้ใช้
: แกร์รี่ มองค์, ดไวท์ เทียนดัลลี่, เคมี่ อกุสเตียน, อิตาย เชชเตอร์

        ใบเหลือง
: อังเกล รานเกล, เนธาน ดายเออร์


        ผู้ตัดสิน :
มาร์ติน แอ๊ตกินสัน

    แมนออฟเดอะแมตช์ : คาร์ลอส เตเวซ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ในเกมที่ทั้งสองทีมต่างไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ทำให้มองหานักเตะโดดเด่นได้ยาก กระทั่ง เตเวซ มาส่องประตูขึ้นนำอย่างสุดสวย เป็นประตูชัยให้ทีม หลังจากนั้น กองหน้าอาร์เจนไตน์ก็เก็บบอล ครองบอลได้อย่างเหนียวแน่นตลอด

 


สถิติหลังเกม
    แมนฯ ซิตี้                                             สวอนซี
       54                 ครองบอล (%)             46
       10                 จังหวะยิงรวม                5
        4                   ยิงตรงกรอบ                2
        3                        เตะมุม                      0
        8                      เสียฟาวล์                  10
        1                      ใบเหลือง                    2
        0                        ใบแดง                      0



เผยเรือ-หงส์ขาวทุบสถิติต่อเวลานานสุดในพรีเมียร์ลีก



        ขณะเดียวกัน หลังจากเกมจบลงก็มีการตีแผ่ว่าคู่ระหว่างเรือใบกับหงส์ขาวซึ่งมีการทดเวลา บาดเจ็บนานถึง 12 นาที ถือเป็นการทำสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย

        จากสาเหตุที่มิเชล ฟอร์มนายทวารทีมเยือนเจ็บน่องและไมกาห์ ริชาร์ดส์กองหลังเจ้าบ้านเจ็บเข่าจนต้องใช้เวลาเยียวยาอยู่ในสนามนานก่อนโดน หามลงเปลออกไปทั้งคู่ทำให้ผู้ตัดสินมาร์ติน แอ๊ตกินสันต้องสั่งให้มีการชูป้ายทดเวลาบาดเจ็บ 12 นาที

        อย่างไรก็ดี เนื่องจากเกมสิ้นสุดจริงในเวลา 102 นาที 42 วินาทีจึงหมายความว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกสร้างสถิติเป็นทีมที่กำชัยในเกมที่ ใช้เวลาบู๊กันนานที่สุดของพรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของอาร์เซน่อล 102 นาที 26 วินาทีในนัดเฝ้าบ้านเจ๊ากับลิเวอร์พูล 1-1 เมื่อปี 2011 ลงได้


สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- แอสตัน วิลล่า เสมอ นอริช  1 - 1
- อาร์เซน่อล ชนะ ควีนส์ปาร์ค  1 - 0
- เร้ดดิ้ง เสมอ ฟูแล่ม  3 - 3
- สโต๊ค ซิตี้ เสมอ ซันเดอร์แลนด์  0 - 0
- วีแกน ชนะ เวสต์แฮม  2 - 1
- แมนฯ ซิตี้ ชนะ สวอนซี  1 - 0

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »