''ป๊อก-ตั๊ก'' ควงฉลองสมรสพระราชทาน ธีมงานแบบไทยสุดอลังการ แพลนฮันนีมูนภูฏานคริสต์มาสนี้ ยังไม่ปั๊มลูก ด้าน ''โบ๊ต-วิบูลย์นันท์'' วิวาห์ กับแฟนสาวนอกวงการ ''น้องทราย'' สินสอดทุ่มไม่อั้น 3 ล้านกว่า เรื่องทายาทปล่อยตาม ธรรมชาติ

    หลังจากที่นักแสดงสาว ''ป๊อก'' ปิยธิดา วรมุสิก และนักแสดงหนุ่ม ''ตั๊ก'' นภัสรัญธน์ มิตรธีรโรจน์ (นภัสกร มิตรเอม) ได้ประกอบพิธีหมั้นเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 55 และเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 55 ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. 55 ทั้งคู่ได้ฉลองมงคลสมรสพระราชทาน โดยได้รับเกียรติจาก เจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล และ หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี จัดขึ้น ณ สังคีตศาลาภายในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ธีมงานเป็นชุดไทยร่วมสมัย ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นไทย มีผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ในวงการมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ประวิทย์ มาลีนนท์, เศรษฐา ศิระฉายา, กอบสุข จารุจินดา, ''กล้วย-ปรารถนา'', '' ก้อย-ปาริฉัตร'', สมมารถ ไพรหิรัญ ฯลฯ ก่อนที่เริ่มฉลองวิวาห์นั้น ทั้งป๊อกและตั๊กได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ที่ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ
    

    โดยป๊อกเผยความรู้สึกในวันนี้ว่า
    ป๊อก : อยากจะบอกว่าส่วนของป๊อกนอกจากการเตรียมตัวแล้วไม่ได้ทำอะไรเลยคะ เพราะว่าพี่ตั๊กเป็นที่จัดการให้หมดเลย สบายๆ ให้เราไม่ต้องกังวล
    
    ตั๊ก : คือหลังจากที่เราได้รับพระราชทานน้ำสังข์จากพระเทพแล้ว ก็มาทำเรื่องขอสถานที่จากผู้ใหญ่ ที่ทำการขอไว้นานมากแล้วนานมากเลย กว่าผู้ใหญ่จะอนุญาตให้ใช้สถานที่ และเรามีเหตุและผลที่ดีท่านเจ้ากรมศิลปกรเลยอนุญาตให้เราใช้ สถานที่ครับ อนุญาตในก่อนหน้านี้แค่ 2 เดือน จริงๆ ต้องขอบคุณหลายๆ ส่วน ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผู้ใหญ่ที่เราเคารพรักหลายท่าน ท่านช่วยเราในหลายเรื่องเลย ต้องไล่ยาวจากเล็กไปจนถึงท่านอธิบดีกรมศิลปกรเลยครับ หลายท่านเยอะมากครับ    ถ้าให้ผมพูดถึงตรงนี้คงเป็นชั่วโมงครับ แต่ถ้าให้พูดถึงความรู้สึกในวันนี้ผมดีใจมากมีความยินดีมาก แล้วจริงๆ น้องบอกผมทำคนเดียวจริงๆ ผมไม่ได้ทำคนเดียวมีคนอื่นมาช่วยผมเยอะมาก มีคนเมตตาเยอะมาก ต้องบอกว่าเป็นความดีใจมาก
    

    งานออกมาแบบนี้สมใจไหม?
    ป๊อก : สวยงามมากค่ะ ก็รู้สึกดีใจค่ะ ทุกอย่างออกมาสวยงามกว่าที่เราตั้งใจไว้ ซึ่งเราเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าที่กว่าพี่ตั๊กจะทำอะไรให้เรามากเท่านี้ เราผ่านอะไรกันมาเยอะมากจนได้มาเป็นแบบนี้ แล้วเขาก็ทำให้เราเยอะมากให้เกียรติเราอย่าง เต็มที่ (น้ำตาคลอ) ถามว่าตื่นเต้นไหม จริงๆ มีคนถามว่ามันจะเหมือนฉากในละครไหม เหมือนฉากแต่งงานหรือเปล่า ป๊อกก็เลยบอกว่าความรู้สึกมันต้องพิเศษกว่า เพราะว่าวันนี้อาหารในงานทานได้จริง (หัวเราะ) ไม่เหมือนตอนถ่ายละครซึ่งอาหาร ในงานทานไม่ได้ ได้แต่มองอย่างเดียว ทุกอย่างมันเป็นของจริง แล้วความรู้สึกมันมากกว่านั้นเยอะ เลยรู้สึกว่าคนที่เขาผ่านงานแต่งงานที่ดีที่ครบที่สมบูรณ์แบบนี้ เขามีความอิ่มเอิมใจแบบนี้นี่เอง
    

    วันนี้ตั๊กเตรียมเซอร์ไพรส์หรือเปล่า?
    ตั๊ก : ถ้าถามว่ามีไหม ก็มีครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วผมไม่ค่อยมีอะไรให้เขามากในฐานะที่ผมเป็นคนที่เรารักกัน คือผมก็เป็นคนที่ไม่ค่อยจะโรแมนติก ออกไปทางบทโหดสะมากกว่า วันนี้เพิ่งจะมาโกนออก คิดว่าวันนี้น่าจะมีของขวัญให้เขาสักชิ้นนึง ซึ่งเป็นการแสดงเล็กๆ น้อยๆ จากผมเอง ในงานเป็นธีมการแต่งชุดไทยร่วมสมัย มีหลายคนถามว่าไอ้ชุดไทยร่วมสมัยมันเป็นยังไง ผมเลยบอกว่าผมยังไม่ตอบแล้วกัน เดี๋ยวผมจะไปถามเอาในงานถามไปเรื่อยๆ เพราะตั้งแต่แจกการ์ดไป มีแต่คนถามว่าชุดไทยร่วมสมัยมันเป็นยังไง
    
    ป๊อก : คือที่ถามเพราะว่าเราอยากจะแชร์ความเป็นไทยว่าชุดแบบนี้มันเป็นแบบไหน คือการมาแชร์ความคิดกันมากกว่า เป็นการถามความคิดเห็นไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นชุดแบบนี้แบบนี้ ความเป็นไทยมันอยู่ตรงไหน มีความเป็นอิสระมาแลกเปลี่ยนความคิดกันมากกว่า
    

    เห็นบอกว่าในงานมีการรอดสุ้มกระบี่แบบไม่เคยมีมาก่อน?
    ตั๊ก : ใครบอกเนี่ย

    ป๊อก : คืออยากจะบอกว่าเป็นเจ้าสาวที่ไม่รู้อะไรเลย ได้แต่แต่งตัวอย่างเดียว พี่ตั๊กบอกว่าเดี๋ยวจัดการให้หมดเลย ป๊อกแค่จัดการในเรื่องส่วนตัว คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าสาวที่มีความรับผิดชอบน้อยที่สุด
    

    เห็นว่าจะมีการแสดงโขนด้วย
    ตั๊ก : ครับเป็นการแสดงในชุดหนึ่งครับ มีให้เห็นแน่นอนครับ (แสดงเองหรือเปล่า?)มีบางส่วนครับ เราก็เป็นนักแสดงถือว่าเราก็ได้ศึกษามา มีความรู้ผมคิดว่าถ้ามีความสามารถเราก็น่าจะแสดงให้เขาด้วย ผมบอกว่าคนอื่นช่วยผมเยอะมาก แล้วผมทำนิดเดียว ถ้าผมไม่ทำอะไรเลยแล้วผมจะบอกเขาได้ยังไงว่าผมรักเขา
    

    วันนี้มีการไปรำลึกความหลังหรือยังเดินเที่ยว?
    ตั๊ก : ยังครับ เรากะว่าเราจะไปเดินเล่นนะ เราเจอกันแถวๆ นี้
    
    ป๊อก : คือตอนที่เราคบกันเราจะทำตัวเป็นชาวญี่ปุ่น มาดูละครมาเที่ยววัดพระแก้ว มาทำอะไรให้มันเหมือนนักท่องเที่ยวจริงๆ จีบกันโดยอิงศิลปวัฒนธรรม
    
    ตั๊ก : เราเจอกันอีกสองล็อกถัดไปจากสถานที่จัดงานวันนี้ เราเลยเลือกสถานที่นี้ในการจัดงาน จริงๆ เราเรียกสถานที่นี้รวมๆ เรียกกันเองนะครับว่าวังหน้า
    

    ของชำร่วยในงานเป็นตราประทับขอรับรองว่าเป็นความจริง?
    ตั๊ก : ครับมันคือธีมของงานแสดงในวันนี้ที่ผมจะแสดงวันนี้ อย่างน้อยคุณก็มางานผมนะครับ ก็ขอรับรองว่าเป็นความจริง

    ป๊อก : คืออยากให้ใช้งานได้ด้วยแล้วบอกว่าวันนี้มันคือความจริง
    

    หลังจากพระราชทานน้ำสังข์การใช้ชีวิตคู่เป็นยังไงบ้าง?
    ตั๊ก : คือมันต้องแบ่งกันครับต้องแบ่งรับแบ่งสู้กัน เป็นการใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันไม่ใช่ว่าเราจะเอาเลย คุณเลยคุณคนเดียวผมไม่ยุ่ง ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเป็นใหญ่ซะคนเดียว ซึ่งจริงๆ มันก็ใช่ (หัวเราะ) อย่างงานวันนี้มันก็เป็นเครื่องเตือนใจสอนผมอีกทางหนึ่งเหมือนกัน ว่าการที่เราจะมีครอบครัวเราต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อครอบครัวดูบ้าง เพื่อที่เราจะได้อะไรที่เหมาะสมและดีที่สุดกับคนที่จะเป็นคู่ครองและเป็นครอบครัวของผมครับ
    
    ป๊อก : อย่างน้อยมันก็เป็นความอบอุ่นอีกอย่างหนึ่ง เป็นความอุ่นใจที่มีเพื่อนคอยยืนอยู่ข้างๆ คอยเป็นเกาะกำบังให้เราเวลาที่เรายังไม่อยากจะเจอกับอะไร เขาก็จะคอยให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเรื่องส่วนตัว เรื่องจิปาถะตั้งแต่ปลายเท้าจรดปลายหัว ช่วยดูแลหมดทุกอย่าง คือเขาเป็นเหมือนแฝดของป๊อกอีกคน เป็นแฝดที่เราไม่ต้องรู้สึกลำบากใจที่เรามีเขาอยู่ข้างๆ เราจะไม่รู้สึกว่าเราเหนื่อยหรือว่าเรามีภาระ แต่เรากลับรู้สึกว่ามีเขาแล้วทุกอย่างมันเต็มทุกอย่างมันใช่ เลยรู้สึกว่ามันเป็นส่วนที่ดีที่สุดที่เราหาเจอ
    

    มีคำสัญญาหรือเปล่า?
    ตั๊ก: ยัง แต่วันนี้จะบอกให้ฟังบอกคืนนี้ ขอยังไม่บอกตอนนี้ บอกบนเวทีครับ
    
    ''ป๊อก'' ถือว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดไหม?
    
    ป๊อก : ผู้หญิงทุกคนจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดได้ทุกคน ในเมื่อมีสติในการเลือก และต้องใช้เวลา ถ้าทุกอย่างมันเหมาะเจาะในเวลามันจะเป็นอะไรที่ดีที่สุด และป๊อกเชื่อว่าทุกคนจะเป็นได้
    

    เรื่องทายาทจะมีเลยไหม
    ป๊อก: ยังคะ ยังทำงานยังทำอะไรมากมาย ยังมีหลานมาทดลองอยู่ เราเลยคิดว่าพอเถอะไว้ก่อน เอาไว้เป็นเรื่องของในอนาคต ใช้คำว่าอาจจะมีแต่ตอนนี้ยังคะ
    

    ฮันนีมูน?
    ป๊อก: วันอังคารนี้ (25 ธ.ค.)ไปคะ ไปภูฏาน ป๊อกยังไม่เคยไป เพราะพี่ตั๊กไปมาแล้ว แล้วบอกว่าน่าไปจังเลย แต่ว่ามันติดลบอยู่ตอนนี้ แล้วมันต้องเดินเที่ยวเราจะไปเที่ยวที่ไหนได้ เราก็เลยคิดว่าเราไปญี่ปุ่นคะ ไปกันเอง
    
    ตั๊ก : ผมเลยขอว่าถ้าไปญี่ปุ่นก็จะไปเที่ยวกันแบบวัฒนธรรม ผมยังไม่เคยไป
    
    ป๊อก : เราอยากไปดูกลองอยากไปดูอะไรทำนองนั้น ก็เลยกะว่าเดี๋ยวจะแบกเป้ไปกัน ไปเคาต์ดาวน์ที่โน่น เพราะว่าถ้าเผื่อไม่ได้ไปตอนนี้ หลังจากนี้เราจะไม่มีโอกาสได้พักเลยเพราะเราทำงานกันตลอดเวลา ก็เลยถือโอกาสช่วงนี้เลยว่าขอฮันนีมูนก่อน ซึ่งมันเป็นข้ออ้างในการหยุดพักที่ดีมาก (หัวเราะ) ไปประมาณ 10 วันค่ะ''
    

    หลังจากกลับมาจะรับงานในวงการปกติเลยไหม?
    ตั๊ก : ก็ผมกลับมาก็มีงานละครเวทีเรื่อง นางเสือง เลยครับ เล่นเดือนมกราคม ตอนนี้อยู่ในช่วงซ้อมละครพอกลับมาก็ต้องซ้อมเลยเพราะมีหลายคนรอซ้อมอยู่ครับ
    
    ป๊อก : ตอนนี้ถ้าถ่ายอยู่ 2 เรื่อง กลับมาก็ต้องถ่ายกันต่อ แล้วก็เปิดละครของ พี่ต้อ-มารุต อีกเรื่องหนึ่งเป็น 3 เรื่อง แล้วตอนนื้หนังเรื่อง Together เพิ่งเข้าโรงฯ ค่ะ
    

    การแสดงที่จะได้ชมเลือกตอนอะไรมาแสดงและมีเหตุผลอะไรถึงเลือกตอนนั้น?
    ตั๊ก : เราจะเน้นในเรื่องของความเป็นยักษ์ เลือกบทบาทความเป็นยักษ์มานำเสนอในตอนนี้ การแสดงชุดนี้เรียกว่า อสุรพงศ์ ซึ่งจริงๆ แล้วที่ทำระบำชุดนี้ขึ้นมาเพราะของกรมศิลป์มีอยู่แล้ว และอีกอย่างหนึ่งผมเคยเล่นเป็นยักษ์ตอนสมัย

    เรียนนาฏศิลป์โขน ก็เลยใช้ยักษ์เป็นสื่อครับ
    

    มีการแสดงที่เกี่ยวข้องกับความรักของเราทั้งคู่ด้วยหรือเปล่า?
    ตั๊ก : มีครับ เพราะผมถือว่าผมจัดที่นี่ ผมมีทั้งความรักและศิลปะ และผมก็เชื่อว่ารักก็คือศิลปะ และที่นี่ก็อยู่ท่ามกลางความรักทั้งเพื่อน ทั้งคนที่ผมรัก ศิลปะที่ผมรัก และวัฒนธรรมที่ผมรักครับ
    
    ป๊อก-ตั๊กกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
    

    วันเดียวกัน เวลา 17.00 น. ที่ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ปฏิญญา วิบูลย์นันท์ หรือ ''โบ๊ต-วิบูลย์นันท์'' ดาราและพิธีกรชื่อดัง จากรายการ 168 ชั่วโมง ทางช่อง 3 ได้จัดงานฉลองพิธีมงคลสมรสกับแฟนสาว ''ทราย'' วรรณิษา มณฑา พยาบาลสาว จากโรงพยาบาลนครปฐม หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 ได้จัดงานมงคลสมรสไปแล้วที่บ้าน ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    

    ผู้สื่อข่าวถามทั้งคู่ทันทีถึงเรื่องสินสอดทองหมั้น โดยฝ่ายชายกล่าวว่า สินสอดรวมๆ ประมาณ 3 ล้านกว่า โดยหนุ่มโบ๊ตได้กล่าวถึงความรู้สึกว่า
    

    ''รู้จักและคบหากับฝ่ายหญิงมาเป็นเวลา 2 ปี เป็นพยาบาลที่นครปฐม เรารู้จักกันได้เพราะเพื่อนผมเป็นเพื่อนกับทรายครับ นิสัยน่ารักดี เราปรับเปลี่ยนทัศนคติและนิสัยค่อนข้างน้อยมาก ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากต่างคนต่างเป็นตัวของตัว เองครับ คบกันต้องให้เกียรติกัน เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายครับ ทรายได้เข้ามาช่วยดูแลในทุกเรื่องของผม โดยเฉพาะเรื่องการกิน เขาไม่ให้กินดึก จนตอนนี้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ จนลดไปกว่า 12 กิโลกรัมแล้วครับ ผมให้คำสัญญาว่าจะ ดูแลกันไปกว่าไม่มีชีวิต ส่วนเรื่องจดทะเบียนเราจดกันไปเรียบร้อยแล้วที่ประจวบคีรีขันธ์บ้านเจ้าสาวครับ''
    

    ฝ่ายเจ้าสาวกล่าวถึงความประทับในตัวเจ้าบ่าวว่า ''พี่โบ๊ตมีความเป็นผู้ใหญ่ ผู้นำ และคอยดูแลเอาใจในทุกเรื่องคะ ไม่ว่าจะเรื่องเรื่องกิน เรื่องทั่วไปคะ ส่วนเรื่องทายาทขอปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้วกันคะ''

    พร้อมกันนั้นฝ่ายชายกล่าวอีกว่ามีแพลนฮันนีมูนเกาหลีปีหน้า แต่ไม่ได้ไปกันสองคน ไปกับก๊วนเพื่อนๆ ถือว่าได้ไปเที่ยวกับเพื่อนและฮันนีมูนไปในตัว
    

    สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น มีเพื่อนพ้องในวงการและเพื่อนสนิทของหนุ่มโบ๊ตมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ''หนุ่ม'' ศรราม เทพพิทักษ์, วิลลี่ แมคอินทอช, ''กัปตัน'' ภูธเนศ หงษ์มานพ, จอนนี่ แอนโฟเน่ และ    เพื่อนๆ จากซิทคอมบ้านนี้มีรักฯ