"สิงโตคำราม" อังกฤษ ได้คำรามลั่นอีกครั้งหลังระเบิดฟอร์มสุดโหดไล่ถล่ม ซษน มารีโน่ แบบไม่เกรงเกือก 8-0 เก็บสามแต้มสำคัญไว้ได้ตามความคาดหมาย ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก (โซนยุโรป กลุ่ม เอช.) เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา
 

ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก

(โซนยุโรป กลุ่ม เอช.)

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2556

ซาน มารีโน่  0   -   8 อังกฤษ

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก้, แซร์ราวัลเล่

     สิงโตคำราม ปรับทีมหลายจุด แนวรับให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ เลห์ตัน เบนส์ เป็นฟูลแบ็กสองฝั่ง แดนกลาง แลมพาร์ด สวมปลอกแขนแทน เจอร์ราร์ด ที่นั่งสำรอง ขณะที่แดนหน้า รูนี่ย์ ล่าตาข่ายกับ เดโฟ

     ฝั่งเจ้าถิ่นซึ่งเป็นทีมบ๊วยของกลุ่มเอช ได้สองกองหลังตัวหลักกลับมาทั้ง ฟาบิโอ วิไตโอลี่ กับ ดาวิเด้ ซิมอนชินี่ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ถือว่าสมบูรณ์

     ช่วงต้นเกม อังกฤษ ยังไม่เดินเครื่องเต็มสูบนัก แต่ก็ทักทายเจ็บๆ ในนาทีที่ 10 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน พักบอลเข้าเขตโทษแล้วดีดไปชนคาน

     นาทีที่ 12 ทีมเยือนก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้ เลห์ตัน เบนส์ เติมขึ้นมาผ่านจากซ้าย อเลสซานโดร เดลลา วัลเล่ กองหลังเจ้าถิ่นวิ่งตัดหน้า รูนี่ย์ แต่สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง

     สิงโตคำราม พับสนามบุกฝ่ายเดียว นาทีที่ 29 ก็ยิงนำห่าง 2-0 อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ฝากบอลไปที่ รูนี่ย์ แล้วรับคืน ก่อนที่ดาวเตะวัย 19 ปี จะสับด้วยซ้ายเสียบตาข่ายจากระยะ 16 หลา

     ทีมเยือนถูกปล้นลูกสามในนาทีที่ 34 แอชลี่ย์ ยัง จ่ายให้ เจอร์เมน เดโฟ ยิงโล่งๆ เข้าไป แต่ถูกยกธงล้ำหน้าทั้งที่ไม่ล้ำ

     อย่างไรก็ตาม เดโฟ มาพังประตูจนได้ เป็นประตูนำ 3-0 ในนาทีที่ 35 อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โหม่งตั้งให้ศูนย์หน้าจาก สเปอร์ส ยิงสองหลาไม่เหลือ

     เกมรุกของ อังกฤษ ไหลลื่นจริงๆ นาทีที่ 39 แอชลี่ย์ ยัง ส่องไกลระยะ 25 หลาติดไซด์เช็ดคานเข้าไปอย่างสุดงามเป็น 4-0

     และก็เป็น 5-0 ในอีก 3 นาทีต่อมา เบนส์ เปิดเรียดเข้ากลาง รูนี่ย์ ข้ามหลอกให้ แลมพาร์ด แปด้วยขวาเสียบมุม จบครึ่งแรก อังกฤษ นำ 5-0

     ครึ่งหลัง อังกฤษ มายิงครึ่งโหลเป็น 6-0 ในนาทีที่ 54 จากฟรีคิกระยะ 25 หลา เวย์น รูนี่ย์ ปั่นโค้งข้ามกำแพงเสียบเสาแรกเข้าไป

     หลังจากนั้น ทีมเยือนเปลี่ยนตัวสองคนรวดในนาทีที่ 56 ถอด รูนี่ย์ กับ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ออกไปพัก แล้วส่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กับ ลีออน ออสแมน ลงแทน

     ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเกือบมีประตูที่เจ็ดอีก สเตอร์ริดจ์ ที่เพิ่งลงไปหมาดๆ ได้โหม่งระยะไม่กี่หลาไปชนเสา

     นาทีที่ 67 อังกฤษ เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง สกอตต์ พาร์เกอร์ ลงแทน แลมพาร์ด

     สกอร์ขยับเป็น 7-0 จนได้ในนาทีที่ 70 แอชลี่ย์ ยัง หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วชิพเข้ากลางให้ สเตอร์ริดจ์ แก้ตัวสำเร็จ โหม่งระยะ 5 หลาไม่พลาด

     อังกฤษ ยังไม่หนำใจ สอยตาข่ายอีกลูกเป็น 8-0 ในนาทีที่ 77 ไคล์ วอล์คเกอร์ ลุยเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วผ่านเรียดให้ เจอร์เมน เดโฟ แปด้วยขวาไม่พลาด เป็นประตูที่ 2 ของ เดโฟ ในเกมนี้จบเกม อังกฤษ บุกถล่ม ซาน มารีโน่ ไม่ยั้ง 8-0 รับสามแต้มไปแบบหายห่วง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     ซาน มารีโน่ : อัลโด้ ซิมอนชินี่, ฟาบิโอ วิไตโอลี่, ดาวิเด้ ซิมอนชินี่, อเลสซานโดร เดลลา วัลเล่, เมียร์โก ปาลาซซี่, อเล็กซ์ กัสเปโรนี่, เอ็นริโก้ ชิเบลลี่, มิเคเล่ แชร์เวลลินี่, ฟาบิโอ โบลลินี่, มัตเตโอ วิไตโอลี่, แอนดี้ เซลวา

     อังกฤษ :โจ ฮาร์ท, ไคล์ วอล์คเกอร์, คริส สมอลลิ่ง, โจเลียน เลสค็อตต์, เลห์ตัน เบนส์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เวย์น รูนี่ย์, แอชลี่ย์ ยัง, เจอร์เมน เดโฟ

     ผู้ตัดสิน : อแล็ง บิเอรี่ (สวิตเซอร์แลนด์)