เซร์คิโอ รามอส รองกัปตัน เรอัล มาดริด ไม่อยากเชื่อมีคนคิดว่าตัวเองเจตนาเตะบอลทิ้งเพื่อล้างใบเหลืองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดถล่ม กาลาตาซาราย เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แจงทำไปเพราะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของเชิ้ตดำ และควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จริงๆ

เซร์คิโอ รามอส กองหลัง เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมาปฏิเสธเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า เสียงวิจารณ์ที่ว่าเขาตั้งใจเรียกใบเหลืองจากผู้ตัดสินในช่วงท้ายเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ "ราชันชุดขาว" เปิดบ้านถล่ม กาลาตาซาราย แชมป์ตุรกี 3-0 ที่สนามซานติอาโก เบร์นาเบว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

สเวน อ็อดด์วาร์ โมเอ็น ผู้ตัดสินชาวนอร์เวย์ แจกใบเหลืองให้ รามอส ฐานเตะบอลทิ้ง ส่งผลให้รองกัปตัน "ราชันชุดขาว" สะสมใบเหลืองครบ 2 นัด และติดโทษแบนในเกมหน้าที่จะกลับไปเยือน กาลาตาซาราย วันอังคารที่ 9 เมษายนนี้ แต่หลายคนเชื่อว่าเป็นความตั้งใจของเจ้าตัวที่เห็นว่าเกมขาดไปแล้ว และต้องการกลับมาลงเล่นในรอบรองชนะเลิศต่อไปได้โดยไม่มีโทษติดตัว 

อย่างไรก็ตาม อดีตดาวเตะ เซบีย่า วัย 27 ปี แก้ต่างว่า "ผู้ตัดสินเป่าให้ฟรีคิกกับพวกเขาตรงหน้ากรอบเขตโทษ แต่มันไม่ใช่การฟาวล์ และผมรู้สึกโมโห เพราะไม่อยากจะเสียประตู ก็เลยระเบิดอารมณ์ออกมา"

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เรอัล มาดริด ถูกกล่าวหาว่ามีนักเตะเจตนาล้างใบเหลือง โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2010 รามอส กับ ชาบี อลอนโซ่ ก็ถูกโจมตีอย่างหนักว่าจงใจขอใบแดงในเกมกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ส่งผลให้สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ต้องเข้ามาตรวจสอบ ก่อนลงโทษปรับคนละ 20,000 ยูโร (800,000 บาท) และประกาศิตว่าหากพบนักเตะคนไหนจงใจถูกจดชื่ออีกอาจจะเพิ่มโทษแบนให้เป็น 2 เกมเลย