''เสี่ยเจียง'' บอสใหญ่สหมงคลฟิล์ม เตรียมคลอดโปรเจกต์หนังฟอร์มยักษ์ดึงซูเปอร์สตาร์แอ็กชั่นฮอลลีวู้ด ดอล์ฟ ลันด์เกรน ปะทะ โทนี่ จาพนม พร้อมแจงเรื่องนักแสดงหนังบู๊ว่าได้เคลียร์ปัญหากับพ่อเรียบร้อยแล้ว ยันมีการส่งเงินให้พ่อทุกเดือน

    หลังจากตกเป็นเรื่องราวใหญ่โตเมื่อต้นปีที่ผ่านมาสำหรับประเด็นเรื่องครอบครัวของนักแสดงบู๊ชื่อดัง ''จา'' พนม ยีรัมย์ ได้ออกมาแถลงข่าวเรียกร้องให้ลูกชายออกมาเจอหน้ากันบ้างหลังไม่เจอและขาดการติดต่อนานร่วมเดือน พร้อมกับอ้างว่าได้ถูก ''บุ้งกี๋'' ลูกสะใภ้เป็นคนกีดกัน ไม่ให้พ่อลูกได้เจอกัน
     
    หลังจากนั้นนักแสดงหนังบู๊ไม่เคยออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวเลย แต่เมื่อผู้สื่อข่าวสยามดาราทราบว่าหนุ่มจามาแถลงข่าวเปิดตัวสุดยอดอภิมหาโปรเจกต์ภาพยนตร์แอ็กชั่นฟอร์มยักษ์ที่ร่วมแสดงนำ พร้อมกับควบตำแหน่งผู้กำกับฯ และโปรดิวเซอร์ในคราวเดียว และยังเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกกับ ดอล์ฟ ลันด์เกรน ซูเปอร์สตาร์แอ็กชั่นผู้ฝากผลงานระห่ำโลก ในวันที่ 18 เม.ย. 56 ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ แต่เจ้าตัวไม่ขอให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
     
    มีแต่ นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ ''เสี่ยเจียง'' ได้ออกมาพูดถึงโปรเจกต์นี้ให้ฟังพร้อมแจงเรื่อง ''จา-พนม'' และพ่อให้ฟัง
     
    โดยเสี่ยเจียงได้พูดถึงโปรเจกต์หนังฟอร์มยักษ์ปีหน้าว่าวางงบไว้ไม่เกิน 200 ล้าน แจงฉายทั่วโลก หวังฟันกำไรมากกว่าพันล้าน
     
    ''โปรเจกต์นี้เราหวังต่างประเทศด้วย งบประมาณอย่างน้อยๆ ผมว่าไม่เกิน 200 ล้าน ส่วนที่บอกว่างบบานปลาย 400 ล้านนั้นไม่ถึงหรอก อย่าไปเชื่อเขา ซึ่งทางเรากำไรแน่นอน หวังเป็นพันถ้ามันได้''
     
    ถามต่อว่าทำไมถึงไว้วางใจนักแสดงหนังบู๊ให้เป็นนักแสดงนำ พ่วงด้วยผู้กำกับฯ และโปรดิวเซอร์ เสี่ยเจียงกล่าวว่าจาเป็นคนมีประสบการณ์ เชื่อได้ชมปีหน้า
     
    ''จาเขาก็ผ่านงานมาเยอะแล้ว เขาคงเข้าใจ  ตั้งใจไว้ปลายปีหรือไม่ก็ปีหน้า ปีนี้จามันยุ่งก็พอล่ะ แต่คุณต้องดูต้มยำกุ้งก่อน ถึงจะเข้าใจ ปีนี้คงได้ดูแน่นอนต้มยำกุ้ง''
     
    ต่อข้อซักถามต่อทันทีว่าเรื่องครอบครัวของ ''จา-พนม'' เขาได้มีการเคลียร์ปัญหาเรียบร้อยแล้วหรือยัง งานนี้เสี่ยเจียงรีบแจงทันทีว่า ได้มีการคุยกันเรียบร้อยแล้ว รับจาเข้ามาปรึกษาปัญหา
     
    ''คงจะพอตัว คุณก็รู้นิสัยจา พี่น้องเขาเยอะ คงไม่เป็นไร เขาเข้าใจดีกว่าเก่าเยอะ ทุกครั้งเขามีเรื่องอะไรก็มาคุย ทางพ่อเขาก็เจอผมแล้ว ผมได้พูดให้เขาฟังแล้วว่าจามันยุ่งอยู่ กำลังซ้อมอยู่ จะห่วงอะไร ลูกเขาก็อายุ 30 กว่าแล้ว ไม่ใช่อายุ 18 หรือ 15 มานั่งตามกัน เขาว่างจากการซ้อมหนัง เขาก็โทร.หาเอง เขาก็เอาเงินจ่ายคุณพ่อเขาทุกเดือน ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนพ่อลูกจะเจอไม่เจอผมไม่รู้ แต่เขาคงโทรศัพท์คุยกัน จารับปากกับผมว่าได้คุยกับพ่อแล้ว'' เสี่ยเจียงกล่าว