โธมัส มุลเลอร์ ซัดคนเดียวสองตุงช่วย "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมแห่งลีกเมืองเบียร์เปิดถิ่นไล่ถล่มแหลก "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า โคตรทีมระดับเทพแห่งลีกกระทิงดุไปแบบยับเยิน 4-0 กุมความได้เปรียบเอาไว้ก่อนแต่ยังต้องลุ้นกันต่อที่ คัมป์ นู ถิ่นของ บาร์ซ่า เกมที่สองเพื่อหาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา

 

 

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก

รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

วันอังคารที่ 23 เมษายน 2556

บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 4   -   0 บาร์เซโลน่า (สเปน)

 

สนาม: ฟุตบอล อารีน่า มึนเช่น (มิวนิค, เยอรมัน)     ผู้ชม : 68,000 คน

　　บาเยิร์น มิวนิค แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน ฤดูกาล 2012-2013 เปิดบ้านปะทะ บาร์เซโลน่า จ่าฝูงลา ลีกา สเปน ในยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

　　จุ๊ปป์ ไฮน์เกส เทรนเนอร์บาเยิร์นได้ตัวหลักทั้ง ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ฆาบี มาร์ติเนซ, อาร์เยน ร็อบเบน กลับมาลงตัวจริง หลังจากได้พักในบอลลีกที่บุกไปต้อน ฮันโนเวอร์ 6-1 เมื่อวันเสาร์ 20 เมษายน แต่ทีมขาด มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าติดโทษแบน 1 นัด และเป็น มาริโอ โกเมซ ซึ่งฟอร์มกำลังแรงยิง 7 ประตูใน 3 เกมหลังสุด เป็นดาวยิงตัวหลัก

　　ส่วน ตีโต้ บิลาโนบา โค้ชบาร์เซโลน่าได้ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่าหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา กลับมาลงตัวจริง ทว่าทีมไม่มี อาเดรียโน่ กองหลังบราซิลติดโทษแบน 1 นัด โดยเป็น มาร์ก บาร์ตร้า ลงเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เคราร์ด ปีเก้

　　เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 2 นาที บาเยิร์นได้บอล มาริโอ โกเมซ เปิดจากกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ อาร์เยน ร็อบเบน สตาร์ฮอลแลนด์ซัดระยะ 12 หลา บิคตอร์ บัลเดส ใช้เท้าสกัดออกไปอย่างหวุดหวิด

　　"เสือใต้" เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า และนาที 15 ร็อบเบน ได้บอล ทำชิ่งมาที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม แบ็กขวากัปตันทีมยิงไปโดนแขนของ เคราร์ด ปีเก้ เซนเตอร์ฮาล์ฟบาร์ซ่า ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ทว่าวิคเตอร์ คาสไซ ผู้ตัดสินฮังการี ไม่เป่าให้ บาเยิร์น ได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใด

　　ความพยายามของ บาเยิร์น มิวนิคเป็นผลได้ประตูนำ 1-0 นาที 25 ฟร้องค์ ริเบรี่ จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศสเปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลที่เสาสองจ่ายให้ อาร์เยน ร็อบเบน เปิดจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปที่เสาสอง ดานเต้ บอมฟิม โหม่งชงให้ โธมัส มุลเลอร์ โขกที่เสาแรกตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 6 ของเขาในยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ และนับเป็นประตูที่ 131 ของบาเยิร์น ในการแข่งขันทุกรายการในฤดูกาลนี้

　　นาที 32 ฟร้องค์ ริเบรี่ เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ดานเต้ เทคตัวขึ้นโหม่ง แต่บอลไปโดนแขนของ เปโดร โรดริเกซ ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ แต่กรรมการไม่ให้ เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษเป็นครั้งที่ 2

　　และห้านาทีต่อมา มาริโอ โกเมซ กองหน้าบาเยิร์นโดนใบเหลืองเป็นคนแรกในเกมนี้ หลังจากทำฟาวล์ ลิโอเนล เมสซี่

　　จากนั้นนาที 39 มาร์ก บาร์ตร้าโดนใบเหลือง เนื่องจากไปทำฟาวล์ มุลเลอร์ จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิคนำอยู่ 1-0


　　ในครึ่งหลัง บาเยิร์น นำห่าง 2-0 นาที 49 อาร์เยน ร็อบเบน เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาไปที่เสาสอ ง โธมัส มุลเลอร์ โหม่งตั้งให้ มาริโอ โกเมซ วอลเล่ย์เท้าซ้ายจ่อๆ หน้าประตูเรียบร้อย

　　และสามนาทีต่อมา เสือใต้ลุยใส่อย่างต่อเนื่อง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ทำชิ่งให้ โกเมซ เปิดมาถึง มุลเลอร์ ซัดเต็มเท้า บอลถากเสาออกไปอย่างหวุดหวิด

　　นาที 68 ชาบี เอร์นานเดซ กัปตันทีมบาร์ซ่า เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวามาที่เสาแรก มาร์ก บาร์ตร้า ยิงไปติด มานูเอล นอยเออร์ เซฟอยู่หมัด

　　มาถึงนาที 73 บาเยิร์นนำห่าง 3-0 ฟร้องค์ ริเบรี่ เปิดบอลจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายระยะ 20 หลาให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ผ่านต่อมาถึง อาร์เยน ร็อบเบน ยิงเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งเสียบมุมไกลอย่างสวยงาม แต่เมื่อดูภาพรีเพลย์ ก่อนที่ร็อบเบนยิงประตู มุลเลอร์ ใช้ตัวขวาง จอร์ดี้ อัลบา ไม่ให้เข้าไปแย่งบอลจาก ร็อบเบน แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร โดยให้เสือใต้ได้ประตูนี้

　　นาที 81 เสือใต้หนีไปอีกเป็น 4-0 ริเบรี่ จ่ายให้ ดาวิด อลาบา เปิดจากกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไปหน้าประตูให้ โธมัส มุลเลอร์ ซัดเผาขนตุงตาข่าย เป็นลูกที่สองของเขาในนัดนี้และ นับเป็นประตูที่ 7 ของเขาในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้

　　ท้ายเกมแข้งบาร์ซ่าถูกแจกเพิ่มสองใบเหลือง เริ่มจากนาที 89 จอร์ดี้ อัลบา ถูกใบเหลืองส่งท้ายจากจังหวะคุมอารมณ์ไม่อยู่โยนบอลใส่เข้าหน้า ร็อบเบน อย่างจัง และ นาทีที่ เป็นของ

　　จบเกม บาเยิร์น มิวนิค ถล่ม บาร์เซโลน่า 4-0 และทั้งคู่จะพบกันอีกครั้งที่คัมป์ นู บ้านของ บาร์เซโลน่า ในยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 คืนวันพุธที่ 1 พฤษภาคม




รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

　　บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), เยโรม บัวเต็ง, ดานเต้ บอมฟิม, ดาวิด อลาบา - ฆาบี มาร์ติเนซ, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์ (เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ น.83), ฟร้องค์ ริเบรี่ (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.88) - มาริโอ โกเมซ (ลุยซ์ กุสตาโว่ น.71)

　　สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ทอม สต๊าร์ค (ผู้รักษาประตู), ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, ราฟินญ่า, อนาโตลี่ ติมอสชุค

　　ใบเหลือง : มาริโอ โกเมซ น.37, ฆาบี มาร์ติเนซ น.46, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ น.87

　　บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนี่ยล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, มาร์ก บาร์ตร้า, จอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า - อเล็กซิส ซานเชซ, ลิโอเนล เมสซี่, เปโดร โรดริเกซ (ดาบิด บีย่า น.83)

　　สำรองที่ไม่ได้ใช้ : โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู), เชส ฟาเบรกาส, ติอาโก้ อัลคานตาร่า, มาร์ติน มอนโตย่า, เอริก อบิดาล, อเล็กซ์ ซง

　　ใบเหลือง : มาร์ก บาร์ตร้า น.39, อเล็กซิส ซานเชซ น.86, จอร์ดี้ อัลบา น.89, อันเดรส อิเนียสต้า น.90


　　ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)