หากวันใดที่ “ธีรศิลป์ แดงดา” ก้าวไปพิสูจน์ฝีเท้าในแผ่นดินยุโรป เชื่อว่าชื่อของนักเตะไทยที่แฟนบอลกิเลนผยองหวังจะให้มาแทนเทพมุ้ยคงหนีไม่พ้น “ชนานันท์ ป้อมบุบผา” ดาวยิงวัย 21 ปี ของโอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี 

Did you know การเจอกันนัดที่ 10 บนลีกสูงสุดระหว่างเจ้าถิ่นพลังเอ็มกับกิเลนผยอง ทีมงาน Kirin United ไม่ขอนำเสนอสถิติการพบกันของคู่นี้ เพราะในเลกแรกเราได้นำเสนอไปแบบทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่ในคราวนี้เราจะนำเสนอเกร็ดและข้อมูลที่น่าสนใจของดาวยิงทั้งสองทีม ระหว่าง “ธีรศิลป์ แดงดา” และ “ชนานันท์ ป้อมบุบผา” ที่กำลังร้อนแรงทั้งคู่และน่าจะเป็นตัวตัดสินของเกมนัดนี้

ก่อนจะมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ทั้งธีรศิลป์และชนานันท์ต่างเป็นผลผลิตของโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี โดยเจ้ามุ้ยเป็นรุ่นพี่เจ้าทู 4 ปี หลังจากที่เจ้ามุ้ยจบการศึกษาและก้าวเข้ามาเล่นฟุตบอลในลีก เจ้าทูก็คือคนที่มาทดแทนเจ้ามุ้ย ในช่วงที่ทั้งสองลงแข่งขันฟุตบอลระดับนักเรียนสามารถพาโรงเรียนกวาดแชมป์มา นับไม่ถ้วน

ก้าวเข้าสู่รั้งกิเลนผยอง

ธีรศิลป์ย้ายมาเล่นให้กับเมืองทองตั้งแต่สมัยอยู่ในดิวิชั่น 2 พร้อมๆกับเพื่อนจากอัสสัมชัญ ธนบุรี อีกหลายคน โดยลงเล่นนัดแรกในเกมที่บุกไปชนะมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1-0 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 ซึ่งตอนนั้นเจ้ามุ้ยอายุ 19 ปี 1 เดือน และเป็นผู้ยิงประตูชัยในเกมนั้น 

ขณะที่ชนานันท์ได้เข้ามาเล่นกับเมืองทอง ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2552 ซึ่งโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี มาอุ่นเครื่องกับเยาวชนกิเลนผยอง และเจ้าทูโชว์ฟอร์มเข้าตาทีมงานจนจีบคว้าตัวมาร่วมทีมในขณะที่อายุเพียง 16 ปี ฤดูกาลนั้นชนานันท์คือนักเตะอายุน้อยที่สุดของเมืองทองส่วนธีรศิลป์ก็เป็น ดาวยิงเบอร์หนึ่งของกิเลนผยอง และวันที่ 26 เมษายน 2552 เกมที่พบกับศรีราชา เอฟซี เจ้าทูได้ลงสนามในช่วงครึ่งหลังนับเป็นเกมแรกในสีเสื้อกิเลนผยองพร้อมกับ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะของเมืองทองที่ลงเล่นไทยพรีเมียร์ลีกอายุน้อย ที่สุด ด้วยวัยเพียง 17 ปี 1 เดือน ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นสถิติที่ไม่มีนักเตะคนไหนทำลายได้ 

เส้นทางที่ต้องเผชิญ

ในฤดูกาล 2553 เมืองทอดอัดแน่นด้วยศูนย์หน้าระดับพระกาฬหลายคน ทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, ธีรเทพ วิโนทัย, รณชัย รังสิโย, โคเน่ โมฮัมเหม็ด, คริสเตียน ควาคู 

เจ้ามุ้ยฝ่าฟันผงาดเป็นศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของทีมมาตั้งแต่แรก ขณะที่เจ้าทูในวัย 18 ปีในตอนนั้นยากที่จะเบียดรุ่นพี่ๆ ลงสนาม จึงตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมอินทรีเพื่อนตำรวจในช่วงเลกสองของฤดูกาล 2553 หลังจากอยู่กับทีมดังย่านรังสิตได้ปีครึ่ง ฤดูกาล 2555 ชีพจรก็ลงเท้าชนานันท์อีกครั้ง เมื่อโอสถสภาฯ คว้าตัวไปร่วมทีมโดยหวังไปทดแทนดาวยิงตัวเก่งอย่าง “คลีตัน ดา ซิลวา” ที่ย้ายไปบีอีซี เทโรศาสน 

แฮททริคแรกในไทยพรีเมียร์ลีก 

ขึ้นชื่อว่าดาวยิงก็ต้องยิงประตู แต่ถ้านัดไหนซัดแฮททริคได้มันก็คือโบนัสสุดพิเศษของดาวยิงทุกคน ธีรศิลป์ยิงแฮททริคเกมแรกในไทยพรีเมียร์ลีกได้ในเกมที่เมืองทองถล่มบางกอกก ล๊าส เอฟซี 6-2 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ขณะที่อายุ 23 ปี 2 เดือน ส่วนชนานันท์ทำแฮททริคเกมแรกในลีกได้ในเกมที่โอสถสภาฯ ถล่มทีโอที เอสซี 4-0 เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2556 ขณะที่อายุ 21 ปี 5 เดือน

จากเด็กขี้ก้างกลายเป็นจอมแกร่ง

สิ่งหนึ่งที่ธีรศิลป์และชนานันท์มีคล้ายๆ กัน คือรูปร่างที่สูงใหญ่ประหนึ่งดั่งนักเตะจากยุโรป แต่ก่อนที่ทั้งสองคนจะมีวันนี้ ในวัยเด็กทั้งคู่มีร่ายกายที่ผอมบางมากๆ และด้วยความพยายามในการดูแลร่างกาย รวมทั้งการเล่นฟิตเนสเพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่ง ปัจจุบันทั้งคู่นอกจากจะมีส่วนสูงที่ได้เปรียบแล้วยังมีร่างกายบึกบึนยากที่ ใครจะเบียดได้ลง

ฤดูกาลนี้อันดับดาวซัลโวไทยพรีเมียร์ลีก 10 อันดับแรก มีชื่อของดาวยิงต่างชาติติดทำเนียบถึง 8 คน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เป็นดาวยิงสัญชาติไทย ซึ่งก็คือธีรศิลป์และชนานันท์ เจ้ามุ้ยยิงไปแล้ว 11 ประตู ส่วนเจ้าทูก็ซัดไปแล้ว 10 ประตู นอกจากศักดิ์ศรีของกิเลนผยองและพลังเอ็มที่เจอกันเมื่อไรใส่กันไม่ยั้งแล้ว นี่จึงเป็นอีกเกมที่แฟนลูกหนังชาวไทยจะได้ชมศูนย์หน้าที่ดีที่สุดของเมือง ไทยมาวัดฝีเท้ากัน ใครจะคมกว่าใคร และสุดท้ายใครจะเป็นนักเตะไทยที่ยิงประตูได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้ ไม่แน่เกมนี้อาจมีคำตอบ...