อินญีโก้ มาร์ติเนซ กลายเป็นฮีโร่ของฝั่งเจ้าถิ่นหลังซัดประตูตัวเอง แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ เรอัล โซเซียดาด แบบหืดจับ 1-0 ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ. เมื่อวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ.

ฤดูกาล 2013-14

วัยพุธที่ 23 ตุลาคม 2556

แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 1 - 0 เรอัล โซเซียดาด (สเปน)

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

 
        แมนฯ ยูไนเต็ดซึ่งผลงานยังลุ่มๆดอนๆทำช็อคจัดทัพโดยไม่มีชื่อโรบิน ฟาน เพอร์ซี่อยู่ในทีมเนื่องจากไม่ฟิตจากการยืนยันของเดวิด มอยส์  ขณะที่อัดนาน ยานูซายตกเป็นตัวสำรองร่วมกับมารูยาน เฟลไลนี่
 
        ด้านชินจิ คางาวะกับฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ชิชาริโต้ได้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงร่วมกับไรอัน กิ๊กส์
 
        ฝ่ายเรอัล โซเซียดาดทีมจากกลางตารางของลีกเช่นกัน แต่แพ้ทั้งสองเกมในรายการนี้ได้ทั้งกัปตันทีมชาบี ปริเอโต้และอัลเบร์โต้ เด ลา เบย่าฟิตลงเล่นได้ ขาดเพียงเอสเตบัน กราเนโร่ที่ยืมมาจากควีนสพาร์คซึ่งบาดเจ็บ
 
        ผีแดงได้เขี่ยบอลก่อน และเพียงนาทีที่ 2 แฟนผีก็ได้เฮลั่นจากการบุกขึ้นทางซ้ายแล้วปาทริซ เอวร่าเข้าปั๊มแย่งบอลได้ เวย์น รูนีย์จึงเก็บไปลากเข้าเขตโทษโยกหลอกกองหลังทีมเยือนทั้งแผงก่อนซัดไปชนเสาไกลแล้วอินญีโก้ มาร์ติเนซตามไปเคลียร์แย่ กระโดดตีเข่าส่งบอลเข้าประตูตัวเองช่วยให้เจ้าบ้านนำ 1-0
 
        แมนฯ ยูไนเต็ดลุยต่อเอาใจสาวกเต็มที่ และนาทีที่ 13 อันโตนิโอ วาเลนเซียก็ป้ายบอลออกทางขวาให้ราฟาเอล ดา ซิลวาเติมไปโยนเข้าเขตโทษโดยรูนีย์ได้แปเน้นๆระยะ 12 หลาถูกเคลาดิโอ บราโว่ล้มตัวปัดได้อย่างหวุดหวิด
 
        ผ่านมาถึงนาทีที่ 20 ผีแดงได้ลูกเตะมุมด้านขวา และกิ๊กส์เล่นสั้นก่อนรับบอลคืนจากวาเลนเซียแล้วสาดเข้าเสาไกลให้ชิชาริโต้โขกเผาขนตุงตาข่าย แต่กองหน้าเม็กซิกันถูกแผงหลังโซเซียดาดเช็คล้ำหน้าก่อนแล้ว
 
        จากนั้นอีกสามนาที การ์ลอส เวล่าไปทำฟาวล์ฟิล โจนส์ทำให้โดนจดชื่อเป็นคนแรก
 
        กระนั้นนาทีที่ 27 ราฟาเอลเข้าบอลเสียบใส่เด ลา เบย่าอันตราย จึงได้ใบเหลืองตามมา
 
        ล่วงมาอีกสองนาที ทีมจากลา ลีกาน่าจะตีเสมอได้อย่างยิ่งเมื่อฮาริส เซเฟโรวิชควบบอลขึ้นมากระทุ้งเต็มข้อระยะ 20 หลาโดยคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเจ้าถิ่นลังเลไม่เข้าบล็อคทั้งคู่ ดีที่ว่าดาบิด เด  เคอาปัดพ้นคานได้เยี่ยม
 
        จนกระทั่งนาทีที่ 34 คางาวะก็มีใบเหลืองติดตัวเช่นกันหลังจากทำฟาวล์ก่อนหน้านี้มาแล้วหลายหน
 
        ถัดมาในนาทีที่ 39 สิงห์เชิ้ตดำมอบใบเหลืองให้มาร์เคล เบร์การ่าอีกรายโทษฐานดึงกิ๊กส์ล้มหลังแย่งบอลไม่สำเร็จ
 
        เล่นกันมาอีกสามนาที ปริเอโต้ถูกแจกใบเหลืองให้จนได้เนื่องจากยิงฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 25 หลาทั้งๆที่ผู้ตัดสินยังไม่ได้ให้สัญญาณจากจังหวะที่ราฟาเอลทำฟาวล์ แต่จากโอกาสยิงฟรีคิกใหม่ อองตวน เกรซมันน์ก็เปลี่ยนมาซัลโวแทน และโชคร้ายบอลลอยไปชนสามเหลี่ยมโดยที่เด เคอาหมดสิทธิ์เซฟแล้ว ครบ 45 นาทีแรก อสูรแดงจึงนำอยู่ 1-0
 
        ครึ่งหลังโซเซียดาดเริ่มเกมได้ดี เป็นฝ่ายบุกขึ้นไปสร้างความหวาดเสียวได้หลายต่อหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เป็นใจ ขาดๆเกินๆอยู่ตลอดเวลา
 
        และแล้วนาทีที่ 54 แมนฯ ยูไนเต็ดก็โจมตีขึ้นทางซ้ายโดยคางาวะหยอดบอลจากริมเขตโทษไปเสาสองให้โจนส์โขกเผาขนโดนบราโว่ปัดได้เฉียดฉิว
 
        ขยับมาอีกสี่นาที ผีแดงเปลี่ยนคริส สมอลลิ่งลงไปแทนราฟาเอลก่อนที่คางาวะจะปาดบอลจากกราบซ้ายเข้ากลางให้รูนีย์ลากขึ้นไปสับไกระยะ 25 หลาในนาทีที่ 62 แต่บอลกลิ้งบดพื้นจึงถูกบราโว่รับสบาย
 
        นาทีต่อมา เจ้าบ้านพลาดได้เม็ดสองอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อวาเลนเซียทะลุเข้าเขตโทษด้านขวาได้ แต่สุดท้ายง้างยิงเหน่งๆไปชนเสาสอง
 
        นาทีที่ 66 วาเลนเซียควบบอลทะยานเข้าเขตโทษด้านขวาได้อีก และจ่ายถวายพานจากเส้นหลังคืนให้คางาวะตามไปเผด็จศึก แต่กองกลางซามูไรจับบอลแรกไม่ดี เลยกระทุ้งไปโดนกองหลังทีมเยือนเข้าขวางได้ทัน
 
        หลังจากเกมเริ่มเป็นรอง ทีมจากแดนกระทิงก็เปลี่ยนปริเอโต้ออกให้รูเบน ปาร์โด้ลงเล่นแทนในนาทีที่ 68 แต่เป็นเจ้าบ้านที่น่าจะคลำเป้าได้อีกในนาทีที่ 71 จากบอลโยนยาวที่วาเลนเซียโขกต่อให้รูนีย์ได้ตะบันในเขตโทษด้านขวา ทว่ากองหน้าทีมชาติอังกฤษส่งบอลข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
 
        ช่วงสิบห้านาทีสุดท้าย โซเซียดาดใช้งานตัวสำรองอีกสองรายด้วยการส่งอีมานอล อาคีร์เรตเซ่กับกอนซาโล่ กาสโตรแทนที่เซเฟโรวิชกับดาบิด ซูรูตูซ่า แต่ไม่อาจพังประตูคืนได้ หมดเวลาแมนฯ ยูไนเต็ดจึงเฉือนเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 1-0 ยัดเยียดให้ทีมจากสเปนแพ้สามเกมรวด

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ฟิล โจนส์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์ ,ชินจิ คางาวะ, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ชิชาริโต้, เวย์น รูนีย์
สำรอง : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, คริส สมอลลิ่ง, นานี่, แอชลีย์ ยัง, อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์, มารูยาน เฟลไลนี่, อัดนาน ยานูซาย

เรอัล โซเซียดาด : เคลาดิโอ บราโว่, การ์ลอส มาร์ติเนซ, มิเกล  กอนซาเลซ, อัลเบโต้ เด ลา เบย่า, มาร์เคล เบร์การ่า, อินญีโก้ มาร์ติเนซ,  ชาบี ปริเอโต้, ดาบิด ซูรูตูซ่า, อองตวน เกรซมันน์, ฮาริส เซเฟโรวิช, คาร์ลอส เวล่า
สำรอง : เอ็นยานุต ซูบิกาไร, ยอน อันโซเตกี, ลีอัสซีน คามาดูโร่, รูเบน ปาร์โด้, ฆาเบียร์ โรส, อีมานอล อาคีร์เรตเซ่, โชรี่ คาสโตร

ผู้ตัดสิน : บาส ไนจ์ฮุส (ฮอลแลนด์)