ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2556

นิวคาสเซิ่ล - เชลซี

ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 1 เวลา : 19.45

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค

        สาลิกาดง ของกุนซือ อลัน พาร์ดิว เพิ่งพาทีมตกรอบ แคปปิตอลวันคัพ ด้วยการแพ้คาบ้านต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ซึ่งต้องเล่นถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที

        เกมลีกในบ้านฤดูกาลนี้ผลงานไม่ดี 5 นัดหลัง พ่ายถึง 3 เสมอ 1 และชนะ 1 นอกจากนี้ 9 นัดแรก เสียไปแล้ว 16 ลูก น้อยกว่า คริสตัล พาเลซ กับ ซันเดอร์แลนด์ เพียง 2 ทีม

        สภาพทีมต้องรอทดสอบความฟิต ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ กับ สตีเว่น เทย์เลอร์ ที่อยู่ในช่วงเรียกความฟิต หากไม่พร้อม มาปู ยองกา-เอ็มบิว่า จะจับคู่เซนเตอร์กับ ไมค์ วิลเลียมสัน ตามเดิม

        ตัวหลักอย่าง โลอิก เรมี่, โยอัน กาบาย, ดาวิเด้ ซานตอน และ อาเต็ม เบน อาร์กฟา จะกลับคืนทีมตัวจริงทั้งหมด หลังได้พักเป็นสำรองในเกมบอลถ้วย

        การจัดทัพ ทิม ครุล เฝ้าเสา แนวรับ มาติเยอ เดบูชี่, ไมค์ วิลเลียมสัน, มาปู ยองกา-เอ็มบิว่า, ดาวิเด้ ซานตอน แดนกลาง โยอัน กาบาย, ชีค ติโอเต้, มุสซ่า ซิสโซโก้

        แนวรุก อาเต็ม เบน อาร์กฟา กับ โลอิก เรมี่ ที่ได้พักในบอลถ้วย จะกลับคืนตัวจริงทั้งคู่ ประสานงานกับ โยอัน กุฟฟร็อง ส่วน ปาปิสส์ ซิสเซ่ คาดว่าจะนั่งสำรองต่อ

        ฝั่ง สิงโตน้ำเงินคราม ผ่านสองเกมหนักๆ มาได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่เกมลีกที่ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 วันอาทิตย์ ต่อด้วย แคปปิตอลวัน คัพ ที่บุกชนะ อาร์เซน่อล 2-0 วันอังคาร

        โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีส ตั้งเป้าพาทีมคว้าชัยชนะติดต่อกันเป็นนัดที่ 7 รวมทุกรายการให้ได้ และจะเป็นชัยชนะรวด 4 นัดในลีก หากบุกชนะเกมนี้

        สภาพทีมไม่มีปัญหา ขาดเพียง มาร์โก ฟาน กิงเคล กองกลางดัตช์ที่บาดเจ็บพักยาวคนเดียว โดย มูรินโญ่ จะเรียกตัวหลักที่พักในบอลถ้วยกลับมาทั้งหมด

        การจัดทัพ ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แผงหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล คู่กองกลาง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ รามิเรส

        แนวรุก อันเดร เชือร์เล่ ประสานงานกับ ออสการ์, เอแดน อาซาร์ กองหน้าตัวเป้าเลือก เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงตัวจริง หลังโชว์ฟอร์มเยี่ยมเกมชนะ แมนฯ ซิตี้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครุล, มาติเยอ เดบูชี่, ไมค์ วิลเลียมสัน, มาปู ยองกา-เอ็มบิว่า, ดาวิเด้ ซานตอน, โยอัน กาบาย, ชีค ติโอเต้, มุสซ่า ซิสโซโก้, อาเต็ม เบน อาร์กฟา, โยอัน กุฟฟร็อง, โลอิก เรมี่

        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, อันเดร เชือร์เล่, ออสการ์, เอแดน อาซาร์, เฟร์นานโด ตอร์เรส

        ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

สถิติสูสี! สิงห์ไม่เหนือกว่าสาลิกา

        การพบกันช่วงหลังของ นิวคาสเซิ่ล กับ เชลซี ค่อนข้างสูสี 3 ฤดูกาลหลัง ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ โดยฤดูกาลที่แล้ว ต่างเก็บชัยชนะในบ้านตัวเองได้ทั้งสองทีม

        ซีซั่นที่แล้ว เอแดน อาซาร์ กดจุดโทษ บวกกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส อีกลูก ในชัยชนะ 2-0 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ส่วนอีกนัดที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค นิวคาสเซิ่ล พลิกสถานการณ์จากตามหลัง กลับมาแซงชนะ 3-2 โดยได้ 2 ประตูแซงจาก มุสซ่า ซิสโซโก้

        หากนับเฉพาะเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ 5 นัดหลัง ปรากฏว่า เชลซี เก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น ซึ่งก็เกิดขึ้นฤดูกาลที่แล้ว ส่วนอีก 4 นัดที่ นิวคาสเซิ่ล บุกเสมอ 2 ครั้ง ฤดูกาล 2008-09 และ 2010-11 และบุกชนะ 2-0 ฤดูกาล 2011-12 อีกเกมเป็นถ้วยลีกคัพ สาลิกาดง บุกชนะ 4-3 ฤดูกาล 2010-11

ข้อมูลนิวคาสเซิ่ล - เชลซี
ผลงานการพบกันที่บ้าน นิวคาสเซิ่ล (72 นัด)
นิวคาสเซิ่ล ชนะ 36 เชลซีชนะ 18 เสมอ 18
ประตู :
นิวคาสเซิ่ล 105 ประตู เฉลี่ย 1.46 ประตูต่อเกม
เชลซี 78 ประตู เฉลี่ย 1.08 ประตูต่อเกม

- นิวคาสเซิ่ล ทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษได้มากกว่าทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ (5 ประตู)
- เชลซี ยิงประตูได้เฉลี่ย 2 ประตู ตลอด 5 เกมหลังสุดในรายการพรีเมียร์ลีก ที่เดินทางมาเยือนเซนต์ เจมส์ พาร์ค
- ทีมสาลิกาดง ทำประตูเชลซีไม่ได้ 7 ครั้ง จาก 12 เกมหลังสุดที่พบกันในเกมลีกสูงสุด
- ตลอด 4 เกมที่ผ่านมาในรายการพรีเมียร์ลีกของเชลซี พวกเขาเสียประตูเพียงเกมละ 1 ลูกเท่านั้น
- เฟร์นานโด ตอร์เรส ยิงประตูตรงกรอบเพียง 5 ครั้งเท่านั้นในการลงเล่นพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ โดย 3 จาก 5 ลูกดังกล่าว เกิดขึ้นในเกมกับแมนฯ ซิตี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ตอร์เรส เปลี่ยนโอกาสการทำประตูทั้งหมด เป็นสกอร์ได้ 13% โดยสมัยเล่นให้ลิเวอร์พูล ตอร์เรสทำได้ 22%
- เชลซี เก็บคลีนชีตในเกมพรีเมยร์ลีกนอกบ้านได้เพียง 3 ครั้ง จาก 12 เกมหลังสุด
- นิวคาสเซิ่ล เก็บได้เพียง 5 คะแนน จาก 7 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่ลงเล่นในบ้าน (ชนะ 1 เสมอ 2)
- เอแด็น อาซาร์ เป็นผู้เล่นที่สร้างสรรค์โอกาสทำประตูจากลูกโอเพ่น เพลย์ ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ (19 ครั้ง)
- นิวคาสเซิ่ล และฟูแล่มเป็นทีมที่เสียประตูจากลูกโหม่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ (5 ประตู)
- โชเซ่ มูรินโญ่ เก็บชัยชนะในเกมพรีเมียร์ลีก นอกบ้านได้เพียง 2 ครั้ง จาก 9 เกมหลังสุด (เสมอ 5 แพ้ 2)

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้านนิวคาสเซิ่ล)
นิวคาสเซิ่ล ชนะ เชลซี 3-2
ผู้ทำประตู : 1-0 โฮนาส กูเตียร์เรซ น.41, 1-1 แฟร้งค์ แลมพาร์ด น.55, 1-2 ฆวน มาต้า น.61, 2-2 มุสซ่า ซิสโซโก้ น.68, 3-2 มุสซ่า ซิสโซโก้ น.61
2 กุมภาพันธ์ 2013  ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - นอริช

ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 5  เวลา : 22.00

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

        เรือใบสีฟ้า ของกุนซือ มานูเอล เปเยกรินี่ นำทีมบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ในเกมแคปปิตอลวันคัพ รอบ 4 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ต้องเล่นถึง 120 นาที

        ผลงานในลีกเพิ่งบุกแพ้ เชลซี 1-2 แต่เกมในบ้านถือว่ายอดเยี่ยม ผ่านไป 4 นัดชนะรวด และถ้านับรวม 10 นัดหลัง ชนะถึง 9 มีเพียงเกมเดียวที่แพ้คาบ้าน ซึ่งคู่แข่งก็คือ นอริช

        สภาพทีมยังขาด แว็งซ็องต์ ก็อมปานี เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมที่เจ็บต้นขา อีกคนคือ สเตวาน โยเวติช เพิ่งฟิตกลับมาเล่นบอลถ้วยเมื่อวันพุธ แต่ก็บาดเจ็บตั้งแต่ 9 นาทีแรก

        ตัวหลัก ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา, ปาโบล ซาบาเลต้า, ซามีร์ นาสรี่, อัลบาโร่ เนเกรโด้, มาติย่า นาสตาซิช จะคืนตัวจริงทั้งหมด รวมถึง โจ ฮาร์ท ที่มีข่าวอาจเสียมือ 1 ด้วย

        การจัดทัพ โจ ฮาร์ท เฝ้าเสา แนวรับ ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เดมิเคลิส, มาติย่า นาสตาซิช, กาแอล กลิชี่ คู่กลาง ยาย่า ตูเร่ กับ แฟร์นันดินโญ่

        แนวรุกเรียก ดาบิด ซิลบา กับ ซามีร์ นาสรี่ กลับคืนตัวจริง โดยมี เซร์คิโอ อเกวโร่ กับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ เป็นความหวังในการทำประตู

        ด้าน นกขมิ้นเหลืองอ่อน ของกุนซือ คริส ฮิวจ์ตัน เพิ่งนำทีมบุกแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-4 ในบอลถ้วย แคปปิตอลวันคัพ ตกรอบ 4 เมื่อวันอังคาร

        ฤดูกาลนี้มีปัญหาเรื่องการทำประตู เพราะเกมลีก 8 นัดหลัง ซัลโวได้เพียง 4 ประตู รวมแล้วเพิ่งยิงไป 6 ลูก น้อยสุดเท่ากับ สโต๊ค และ คริสตัล พาเลซ

        สภาพทีม อเล็กซานเดอร์ เทตเตย์ กองกลางเกิดเอ็นหัวเข่าฉีก ต้องพักยาวหลายสัปดาห์ ส่วน ริคกี้ ฟาน โวล์ฟสวิงเคล กองหน้าค่าตัวแพง ก็เจ็บเท้าก็พลาดช่วยทีม

        โรเบิร์ต สน็อดกราส (กระทบกระเทือนที่ศีรษะ) กับ เนธาน เร้ดมอนด์ (สะโพก) สองกองกลางตัวรุก บาดเจ็บมาจากเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องรอเช็กความฟิต

        การจัดทัพจะเรียกตัวหลักกลับคืน ผู้รักษาประตู จอห์น รัดดี้ แผงหลัง รัสเซลล์ มาร์ติน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, เซบาสเตียง บาสซง, มาร์ติน โอลส์สัน

        แดนกลางประกอบด้วย โรเบิร์ต สน็อดกราส, แบร๊ดลี่ย์ จอห์นสัน, จอนนี่ ฮาวสัน, เลรอย เฟอร์, แอนโธนี่ พิลคิงตัน หน้าเป้าเลือก แกรี่ ฮูเปอร์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เดมิเคลิส, มาติย่า นาสตาซิช, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่, เซร์คิโอ อเกวโร่, อัลบาโร่ เนเกรโด้

        นอริช : จอห์น รัดดี้, รัสเซลล์ มาร์ติน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, เซบาสเตียง บาสซง, มาร์ติน โอลส์สัน, โรเบิร์ต สน็อดกราส, แบร๊ดลี่ย์ จอห์นสัน, จอนนี่ ฮาวสัน, เลรอย เฟอร์, แอนโธนี่ พิลคิงตัน, แกรี่ ฮูเปอร์

        ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

4 นัดเรือ-นกขมิ้นยิงแหลก 25 ลูก

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ นอริช ซิตี้ เผชิญหน้ากันใน 2 ฤดูกาลหลัง มีประตูให้เห็นมากถึง 25 ประตู เฉลี่ยนแล้ว ตกเกมละ 6.25 ประตูเลยทีเดียว โดย เรือใบสีฟ้า คว้าชัย 3 นัด และ นอริช ได้นัดเดียว

        ฤดูกาล 2011-12 แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่มยับ 5-1 ก่อนบุกชนะอีก 6-1 จากแฮตทริกของ คาร์ลอส เตเวซ ส่วนฤดูกาล 2012-13 หรือซีซั่นที่แล้ว เรือใบสีฟ้า บุกชนะ 4-3 แต่อีกนัด นอริช บุกชนะ 3-2 ยุติการไม่ชนะ แมนฯ ซิตี้ รวมทุกรายการติดต่อกัน 7 นัดลงได้สำเร็จ

        นอกจากนี้ 4 นัดหลังสุดที่พบกัน เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่าของ แมนฯ ซิตี้ ทำผลงานได้ดีทีเดียว ยิง นอริช รวมได้ถึง 4 ประตู

ข้อมูลเพิ่มเติมแมนฯ ซิตี้ - นอริช ซิตี้
ผลงานการพบกันที่บ้าน แมนฯ ซิตี้ (29 นัด)
แมนฯ ซิตี้ ชนะ 20 นอริช ซิตี้ชนะ 3 เสมอ 6

ประตู :
แมนฯ ซิตี้ 64 ประตู เฉลี่ย 2.21 ประตูต่อเกม
นอริช ซิตี้ 24 ประตู เฉลี่ย 0.83 ประตูต่อเกม

- นับตั้งแต่ นอริช ซิตี้ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่น 2011/12 จากทั้งหมด 4 เกมที่พบแมนฯ ซิตี้  มีประตูเกิดขึ้นรวมกัน 25 ประตู เฉลี่ยเกมละ 6.25 ประตู
- นอริช ซิตี้ เป็นทีมสุดท้ายที่บุกมาเอาชนะแมนฯ ซิตี้ได้ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม โดยทีมนกขมิ้นบุกมาเอาชนะ 3-2 ในเกมสุดท้ายของซีซั่นที่แล้ว
- เซร์คิโอ อเกวโร่ ยิง 4 ประตู จากการออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 3 เกม ในรายการพรีเมียร์ลีกที่พบกับนอริช ซิตี้
- มากกว่านั้น อเกวโร่ ทำประตูได้ 6 ประตู จาก 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- นอริช ซิตี้ เป็นเพียงทีมเดียวที่ไม่ยังทำประตู ในช่วง 30 นาทีแรกของเกมไม่ได้เลย ในรายการพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้
- แมนฯ ซิตี้ ทำประตูในเกมพรีเมียร์ลีก เกมเหย้าได้ตลอด 54 เกมหลังสุด
 - เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมนกขมิ้นมีโอกาสส่องประตูคาร์ดิฟฟ์ถึง 31 ครั้ง ทว่าไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เลย
- ในเกมพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ โยฮัน เอลมานเดอร์, แกรี่ ฮูเปอร์ แ ละริคกี้ ฟาน โวล์สวิงเคิ่ล สามแนวรุกของนอริช มีโอกาสยิงประตูตรงกรอบรวมกันเพียง 6 ครั้งเท่านั้น
- ในเกมพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ทีมเรือใบสีฟ้า ก่อความผิดพลาดอันนำมาซึ่งการเสียประตูไปแล้ว 5 ครั้ง มากกว่าทีมอื่นๆ
- นอริช ซิตี้ เป็นเพียงทีมเดียวที่ไม่สามารถทำประตูจากจังหวะเซตพีซได้เลยในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ทว่า แมนฯ ซิตี้เป็นทีมที่ยิงประตูจากการเข้าทำลักษณะนี้ได้มากที่สุด (7 ครั้ง)

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้านแมนฯ ซิตี้)
แมนฯ ซิตี้ แพ้ นอริช ซิตี้ 2-3
ผู้ ทำประตู : 0-1 แอนโธนี พิลคิงตัน น.26, 1-1 แจ็ค ร็อดเวลล์ น.29, 2-1 แกรนท์ โฮลท์ น.54, 2-2 แจ็ค ร็อดเวลล์ น.59, 2-3 โจนาธาน ฮาวสัน น.65
19 พฤษภาคม 2013 ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์