บาร์เซโลน่า โดนตั้งข้อหาโกงภาษี จากประเด็นที่เซ็นสัญญากับ เนย์มาร์ แล้ว อย่างไรก็ตาม "อาซูลกราน่า" ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ ทั้งนั้น และจะสู้คดีต่อไป

โฆษกของศาลในประเทศสเปน ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน ได้ถูกตั้งข้อหาการโกงภาษีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากกรณีที่พวกเขาคว้าตัว เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิลมาจาก ซานโตส เมื่อปีก่อน

การเซ็นสัญญากับ เนย์มาร์ ทำให้ "อาซูลกราน่า" ต้องเจอกับเรื่องวุ่นวายอย่างไม่คาดคิด โดยก่อนหน้านี้ศาลของแดนกระทิงดุรับพิจารณาคดีที่ ซานโดร โรเซลล์ อดีตประธานสโมสรของพวกเขา ถูกกล่าวหาว่ากระทำการยักยอกเงินเข้ากระเป๋าเป็นจำนวนถึง 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) จากการซิวแข้งวัย 22 ปีมาเสริมแกร่ง ซึ่งสุดท้าย โรเซลล์ ถึงกับต้องลาออกจากตำแหน่งบิ๊กบอสของ บาร์เซโลน่า เลยทีเดียว

กระทั่งล่าสุด ประเด็นของหัวหอกชาวบราซิเลียนก็ตามมาเล่นงานยอดทีมแห่งถิ่น คัมป์ นู อีกครั้ง เมื่ออัยการของแดนกระทิงดุเชื่อว่า บาร์เซโลน่า ไม่ได้จ่ายภาษีให้กับกรมสรรพากรเป็นจำนวนทั้งหมด 9.1 ล้านยูโร (ประมาณ 364 ล้านบาท) ในการทำ 2 ข้อตกลงเพื่อกระชากตัว เนย์มาร์ เข้ามาสู่ทีม โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2011 ส่วนอีกครั้งเกิดขึ้นในปี 2013 ซึ่งล่าสุด "อาซูลกราน่า" ก็โดนตั้งข้อหาโกงภาษีแล้ว

"ผู้พิพากษา ปาโบล รุซ ได้ตั้งข้อหา บาร์เซโลน่า ในประเด็นการฝ่าฝืนอำนาจด้านการจ่ายภาษี ที่เกี่ยวข้องกับกรณีการซื้อนักเตะชาวบราซิเลียนเข้ามาร่วมทีม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" กระบอกเสียงของฝ่ายตุลาการในสเปน ระบุ

อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า ประกาศว่า พวกเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ ทั้งนั้น พร้อมเสริมว่า จะส่งทีมกฎหมายไปยังศาลในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อปกป้องสิทธิ และผลประโยชน์ของพวกเขาเองด้วย "สโมสรดำเนินการในกรณีของเรื่องนั้น (การเซ็นสัญญากับ เนย์มาร์) ตามข้อกฎหมายที่ระบุเอาไว้มาตลอด ในขณะเดียวกัน บาร์ซ่า ก็มีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับฝ่ายยุติธรรมในกระบวนการนี้ เหมือนกับที่สโมสรทำมาตั้งแต่ต้น หรือในกรณีไหนๆ ที่ต้องการการแทรกแซงของสโมสร"