บาร์เซโลน่า ถึงคราวเหงื่อตก เมื่อพนักงานอัยการของแดนกระทิงกำลังเล็งที่จะตั้งข้อหาเรื่องทำผิดด้านภาษีกับพวกเขา ในประเด็นที่เซ็นสัญญากับ เนย์มาร์ ศูนย์หน้าชาวบราซิเลียน โดยพวกเขาเชื่อว่า "อาซูลกราน่า" ค้างภาษีอยู่ถึง 9.1 ล้านยูโรด้วยกัน

พนักงานอัยการของประเทศสเปน กำลังพยายามที่จะตั้งข้อหา บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน ถึงเรื่องการทำผิดด้านภาษี จากกรณีที่ "อาซูลกราน่า" คว้าตัว เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิลมาร่วมทัพ ตามรายงานของ เอเอฟพี สำนักข่าวชื่อดัง เมื่อวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ยอดทีมแห่งถิ่น คัมป์ นู ตกเป็นข่าวฉาวจากการที่ศาลของแดนกระทิงดุรับพิจารณาคดีที่ ซานโดร โรเซลล์ อดีตประธานสโมสรของพวกเขา ถูกกล่าวหาว่ากระทำการยักยอกเงินเข้ากระเป๋าเป็นจำนวนถึง 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) จากการเซ็นสัญญากับ เนย์มาร์ ซึ่งมันร้ายแรงถึงขนาดที่ โรเซลล์ ต้องลาออกจากตำแหน่งบิ๊กบอสของ บาร์เซโลน่า เลยทีเดียว

ทั้งนี้ ล่าสุดอัยการของสเปนเชื่อว่า "อาซูลกราน่า" ค้างเงินภาษีอยู่ทั้งหมดเป็นจำนวน 9.1 ล้านยูโร (ประมาณ 364 ล้านบาท) ในการทำ 2 ข้อตกลงเพื่อกระชากตัวดาวยิงชาวบราซิเลียนเข้ามาสู่ทีม โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2011 ส่วนอีกครั้งเกิดขึ้นในปี 2013

คำฟ้องของอัยการระบุว่า บาร์เซโลน่า จ่ายเงินเป็นจำนวน 10 ล้านยูโร (ประมาณ 400 ล้านบาท) ให้กับ เอ็นแอนด์เอ็น บริษัทที่ควบคุมโดยผู้ปกครองของ เนย์มาร์ ในปี 2011 โดยข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะให้เกิดการเซ็นสัญญากับดาวเตะวัย 22 ปี ภายในปี 2014

อย่างไรก็ตาม "อาซูลกราน่า" เลื่อนแผนเร็วขึ้น 1 ปี เพื่อทำให้การย้ายทีมสิ้นสุดลง ผ่านทางการทำสัญญาที่ซับซ้อนหลายครั้งเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคำฟ้องร้องอ้างว่า ตัวเลขในสัญญามันน่าสงสัยสุดๆ และควรที่จะมีการสอบสวนเป็นอย่างน้อยเพื่อหาข้อเท็จจริง โดย บาร์เซโลน่า ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับประเด็นนี้ จนกว่าพวกเขาจะได้รับคำปรึกษาด้านกฎหมายแล้ว