การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง

 วันอังคารที่ 29 เมษายน 2557

 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) 0-4 เรอัล มาดริด (สเปน)
(รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด ชนะด้วยสกอร์รวม 5-0)

สนาม: อารีน่า มึนเช่น, (มิวนิค, เยอรมัน) 
 
         ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้ประมาณ 9 นาที เรอัล มาดริด ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่วางบอลยาวขึ้นหน้า มานูเอล นอยเออร์ นายทวารบาเยิร์น ออกมาโหม่งสกัดมาเข้าทางของ แกเร็ธ เบล วอลเลย์สวนด้วยซ้ายทันทีจากนอกกรอบเขตโทษ บอลโด่งข้ามคานไป
 
         สามนาทีต่อมา ทีมเยือนบุกขึ้นมาอีกครั้ง อังเคล ดิ มาเรีย ได้ซัดด้วยซ้ายจากริมกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่เข้ากรอบ
 
         อย่างไรก็ตามนาทีที่ 16 ราชันชุดขาว มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ ลูก้า โมดริช โยนลูกเตะมุมจากทางด้านซ้ายบอลเลย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่มาตกใส่ เซร์คิโอ รามอส ขวิดเข้าไปไม่เหลือช่วยให้ เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0
 
         สี่นาทีต่อมา ทีมเยือนมาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย โยนฟรีคิกจากทางด้านขวา เปเป้ โหม่งเช็ดมาเข้าทางของ เซร์คิโอ รามอส พุ่งโหม่งเข้าไปตุงตาข่ายให้ เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0 และเป็นประตูที่สองของ รามอส ในเกมนี้
 
         ผ่านมา 27 นาที เรอัล มาดริด มีโอกาสอีก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้วปั่นด้วยขวาจากระยะ 25 หลา นอกเขตโทษหลุดกรอบไป
 
         กระนั้นก็ดีนาทีที่ 34 ทีมชุดขาวมาได้ประตูที่สามจากจังหวะโต้กลับเร็ว อังเคล ดิ มาเรีย ตัดบอลได้ในแดนหลังแล้ววางออกมาทางขวาให้กับ คาริม เบนเซม่า จับบอลลงแล้วจ่ายเข้าในให้กับ แกเร็ธ เบล กระชากด้วยความเร็วเข้าหากรอบประตู ก่อนป้ายออกทางด้านซ้ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งมายิงด้วยขวาเข้าไปให้ เรอัล มาดริด นำกระจุย 3-0 และเป็นประตูที่ 15 ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากการลงสนาม 10 นัดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ กลายเป็นสถิติใหม่ลบสถิติเดิมของ ลีโอเนล เมสซี่ ดาวเตะของบาร์เซโลน่า ที่เคยทำไว้ 14 ประตู ในฤดูกาล 2011-12 ลงได้สำเร็จ
 
         ถัดมา 3 นาที เรอัล มาดริด น่าได้ประตูที่สี่ เมื่อ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารของบาเยิร์น ออกมาหวดสกัดบอลนอกเขตโทษ แต่บอลดันปลิ้นมาเข้าทางของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงไกลลักไก่ด้วยขวาบอลข้ามคานไปอย่างน่าหวาดเสียว
 
         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 38 ชาบี อลอนโซ่ กองกลางของเรอัล มาดริด ไปล้มตัวเสียบ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ หน้ากรอบเขตโทษ เลยรับใบเหลืองไป ส่งผลให้ถ้า เรอัล มาดริด เข้าชิงชนะเลิศได้ จะไม่มี อลอนโซ่ ที่ติดโทษแบนจากการได้ใบเหลืองสะสมครบตามโควตา
 
         เจ้าถิ่นได้โอกาสเหมือนกันในช่วงนาทีที่ 41 แต่ ลูกยิงของ มานด์ซูคิช และ ดาวิด อลาบา หลุดกรอบออกไป หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด บุกมานำห่าง 3-0
 
         มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เสือใต้ มีการปรับทัพเอา มานด์ซูคิช ออกแล้วให้ ฆาบี มาร์ติเนซ ลงมาเล่นแทน พร้อมกับดัน โธมัส มุลเลอร์ ขึ้นมาเล่นในแดนหน้า
 
         รูปเกมครึ่งหลัง บาเยิร์น ลงมาคุมเกมบุกได้ดี มีโอกาสลุ้นจากจังหวะที่ อาร์เยน ร็อบเบน ปั่นโค้งด้วยซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษบอลเลี้ยวเฉี่ยวเสาไปนิดเดียวเท่านั้นในนาทีที่ 57
 
         หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน ฟร้องก์ ริเบรี่ ดาวเตะชาวฝรั่งเศสของบาเยิร์น พาบอลหนี โคเอนเตรา ก่อนซัดทันที แต่ไม่ผ่านมือของ อีเกร์ กาซียาส นายทวารกัปตันทีมเรอัล มาดริด
 
         ล่วงเลยมานาทีที่ 64 โทนี่ โครส กองกลางของเสือใต้ ได้โอกาสส่องไกล แต่ อีเกร์ กาซียาส นายทวารของเรอัล มาดริด ปัดไว้ก่อนแล้วรับอีกที
 
         ห้านาทีต่อมา เรอัล สวนขึ้นมาบ้าง อังเคล ดิ มาเรีย โยนจากทางด้านซ้ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งข้ามคานไป
 
         ท้ายเกมนาทีที่ 72 บาเยิร์น มิวนิค เปลี่ยนเอา มาริโอ เกิตเซ่อ ลงมาเล่นแทน ริเบรี่ พร้อมกับให้ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ ลงมาล่าตาข่ายแล้วถอด โธมัส มุลเลอร์ ออกมาพัก
 
         3 นาทีต่อมา เรอัล มาดริด จัดการถอด เซร์คิโอ รามอส คนทำสองประตูในเกมนี้ออกมาพัก เพื่อเป็นการเซฟไม่ให้โดนใบเหลืองเพิ่ม เพราะมีใบเหลืองคาดโทษอยู่ แล้วให้ ราฟาแอล วาราน ลงมายืนในแนวรับแทน
 
         เสือใต้ ยังไม่ท้อมีโอกาสเหมือนกันในนาทีที่ 78 โทนี่ โครส ล็อคมาปั่นด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลาหน้ากรอบเขตโทษบอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียวเท่านั้น
 
         นาทีสุดท้ายของเกม ทีมเยือนมาได้ลูกฟรีคิกระยะ 20 หลาหน้าเขตโทษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลอกยิงเลียดรอดกำแพงเข้าไปอย่างเหนือชั้น ให้ เรอัล มาดริด หนีห่างสุดกู่ 4-0 และเป็นประตูที่ 16 ของเจ้าตัวในซีซั่นนี้
 
         เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาถล่ม บาเยิร์น มิวนิค ได้ถึงถิ่น 4-0 รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด ผ่านเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยสกอร์รวม 5-0 และเป็นการผ่านเข้าชิงรายการนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีของราชันชุดขาว  
 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
         บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), เยโรม บัวเต็ง, ดานเต้ บอมฟิม, ดาวิด อลาบา - โทนี่ โครส, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์ (เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ น.72), ฟร้องค์ ริเบรี่ (มาริโอ เกิตเซ่อ น.72) - มาริโอ มานด์ซูคิช (ฆาบี มาร์ติเนซ น.46)   
         สำรองไม่ได้ใช้: ลูคัส เรเดอร์ (ผู้รักษาประตู) - ดาเนียล ฟาน บุยเต็น, ราฟินญ่า, ปีแอร์ ฮอยเบิร์ก
 
         เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - ดาเนียล การ์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส (ราฟาแอล วาราน น.75), เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเตรา - ลูก้า โมดริช, ชาบี อลอนโซ่, อังเคล ดิ มาเรีย - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า (อีสโก้ น.80), คริสเตียโน่ โรนัลโด้
         สำรองไม่ได้ใช้:ดีเอโก้ โลเปซ (ผู้รักษาประตู) - มาร์เซโล่ วิเอยร่า, คาเซมีโร่, อัลบาโร่ โมราต้า, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ 
 
         ผู้ตัดสิน: เปโดร โปรเอนซ่า (โปรตุเกส)