สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานบริหารทีมเพื่อนตำรวจ เผยกินใจซื้อ เรดดิ้ง ได้เพราะความบ้าบอลเตะตา เซอร์ จอห์น มาเดจสกี้ , เตรียมส่ง ปกเกล้า ลุยอังกฤษ 6 เดือน

"เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานบริหารทีมเพื่อนตำรวจ ยืนยันการได้สโมสร เรดดิ้ง ครั้งนี้ ต้องเรียกว่า “การร่วมทุน” แม้จะมีหุ้น 90 เปอร์เซอนต์ แต่ต้องการให้เกียรติกับ เซอร์ จอห์น มาเดจสกี้ นั่งแท่นเป็นประธานสโมสรตีอ เผยดีลนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ 3-4 เดือนที่แล้ว จากการสนับสนุนของกลุ่มทุนจาก มาเลเซีย และ อินเดีย ที่มีหัวใจรักฟุตบอลเหมือนกัน รับกว่าจะสำเร็จต้องแข่งกับคู่แข่งถึง 6 ราย โดยเฉพาะบริษัท ฟินิกซ์ ของอเมริกา ที่เกทับสู้ ทว่า “เดอะ รอยัลส์”ได้ขายให้ตนเอง เพราะทุกคนเล็งเห็นถึงการเป็นหนุ่มไฟแรง และมีหัวใจที่รักฟุตบอล พร้อมที่จะพัฒนาสโมสรไปสู่ความยิ่งใหญ่ ที่สำคัญยังเล็งส่ง ปกเกล้า อนันต์ ห้องเครื่องของ เพื่อนตำรวจ ไปชุบตัวในวันที่ 1 ก.ค.นี้ และจะให้กลับมาช่วยทีมชาติไทย ลุยศึกเอเชี่ยน เกมส์ ที่เกาหลีใต้ อย่างแน่นอน

หลังจากที่กลุ่มทุนจากเมืองไทย ได้ทำการซื้อกิจการของทีม เรดดิ้ง สโมสรชื่อดังในลีกเดอะ แชมเปี้ยนส์ ชิพ ของอังกฤษ ด้วยข้อเสนอ 35 ล้านปอด์น (ราว 1,904 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในชื่อบริษัท ไวแบล็ค โดยมีการเปิดเผยว่ากลุ่มคนไทยดังกล่าวเป็นชื่อของ "เดอะบิ๊ก"สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานบริหารทีมเพื่อนตำรวจ

"เดอะบิ๊ก"สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานบริหารทีมเพื่อนตำรวจ ซึ่งทำภารกิจอยู่ในอังกฤษ เกี่ยวกับปัจจัยหลักในการซื้อสโมสร “เดอะ รอยัลส์”เรดดิ้ง ในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจว่า "อันที่จริงผมได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่หลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย หรือ อินเดีย โดยเฉพาะจาก มาเลเซีย ที่เป็นบิ๊กเนมในวงการธุรกิจระดับหมื่นล้านเหรียญ ซึ่งทุกคนล้วนแต่มีหัวใจที่รักฟุตบอลไม่แพ้ไปกว่าใคร ทำให้ดีลในการเข้าไปร่วมทุนกับทีม เรดดิ้ง ครั้งนี้ เป็นโปรเจคที่ผุดมาก่อนหน้านี้ 3-4 เดือน แต่เพิ่งจะมาลงลึกในรายละเอียดช่วง 5-6 สัปดาห์ที่ผ่านมา"

"และเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมจำเป็นต้องมาติดต่อธุรกิจของผม แต่นักกฏหมายได้บอกว่าต้องรีบเปิดการเจรจากับทีม เรดดิ้ง เนื่องจาก มีคู่แข่งที่เสนอมูลค่ามาสูงมากถึง 6 รายด้วยกัน โดยเฉพาะจากกลุ่ม ฟินิกซ์ ของประเทศอเมริกา ที่ยื่นข้อเสนอมามากที่สุด"

"ทว่าสิ่งที่ทำให้ เซอร์ จอห์น มาเดจสกี้ ประธานสโมสร เรดดิ้ง ยอมรับในข้อเสนอของผมมาจากเหตุการณ์หนึ่งในช่วงก่อนการพูดคุย ผมเองได้ลงไปเล่นฟุตบอลกับทีม เรดดิ้ง ซึ่งกำลังซ้อมกันอยู่ ด้วยการใส่สูทและกางเกงขายาว โดยแบ่งข้างละ 5 คน อยู่ถึง 1 ชั่วโมงด้วยกัน"

"ซึ่งในตอนนั้นเองที่ เซอร์ จอห์น มาเดจสกี้ ประธานสโมสร เรดดิ้ง ได้เห็นตัวผมที่กำลังเล่นบอลและเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทำให้เขาได้เรียกผมเข้าไปคุยเพียงกลุ่มทุนเดียว โดยที่กลุ่มทุนรายอื่นได้คุยกับนักกฤหมายของสโมสร เรดดิ้ง เท่านั้น"

"จากนั้นผมใช้เวลาคุยกับ เซอร์ จอห์น มาเดจสกี้ ประธานสโมสร เรดดิ้ง ราว 4-5 ชั่วโมง ก่อนที่ทุกอย่างจะบรรลุ และเขาได้เลือกผมด้วยเหตุผลของการเป็นคนหนุ่มไฟแรง ที่มีหัวใจที่รักฟุตบอลเพียงอย่างเดียว และต้องการที่จะพัฒนาสโมสรโดยไม่มีอ้างอิงกับสิ่งต่างๆ"

นอกจากนี้ “เดอะบิ๊ก”ยังกล่าวต่อไปว่า “สำหรับวงเงินที่ผมได้เสนอเข้าไปนั้น แม้ว่าผมจะได้รับการเป็นผู้ถือหุ้น 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ผมจะขอเรียกตัวเองว่า ประธานบริหารและผู้ถือหุ้นคนใหม่ของ เรดดิ้ง เท่านั้น เนื่องจากผมต้องการให้เกียรติกับ เซอร์ จอห์น มาเดจสกี้ ที่ยังคงเป็นประธานสโมสรต่อไป”

“เนื่องจาก เซอร์ จอห์น มาเดจสกี้ นอกจากจะเป็นบุคคลที่น่าเคารพของสโมสรแล้ว เขายังเป็นสภาเมืองเรดดิ้ง ที่ทุกคนต่างให้การยอมรับ และเมื่อเขาเห็นวิสัยทัศน์ของผมที่พร้อมจะทำให้ทีมเดินหน้าอย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาของการเจรจาที่ประสบความสำเร็จเร็วที่สุด ด้วยการใช้เวลาเพียง 2 วัน”

“เดอะบิ๊ก”สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา กล่าวต่อว่าการเป็นผู้ร่วมทุนกับ เรดดิ้ง ครั้งนี้ เพื่อนตำรวจ จะได้กลายเป็นพันธมิตรของ เรดดิ้ง อย่างไม่ต้องสงสัย และตั้งใจส่งเยาวชนของเพื่อนตำรวจ เดินทางมาฝึกซ้อมกับทีม เรดดิ้ง เป็นเวลา 6 เดือน โดยจะเริ่มจาก ปกเกล้า อนันต์ กองกลางของทีมคนแรก ที่ตนได้ให้ทำวีซ่าเรียบร้อย และเตรียมจะเดินทางมายังสโมสร เรดดิ้ง มาในวันที่ 1 ก.ค.นี้

สำหรับ “เดอะบิ๊ก”สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา วัย 39 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจบริษัท สัญญาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่่ดำเนินธุรกิจด้านการบริการรับประกันภัยเป็นหลัก ริเริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2487 ภายใต้ชื่อเดิมว่า “บริษัท พระนครธนบุรีประกันภัย จำกัด (มหาชน)” ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับรับประกันวินาศภัยทุกประเภท

นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ก่อนที่ช่วงต้นปี 2014 ผู้บริหารของทีม “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน”เพื่อนตำรวจ จะดึงเจ้าตัวเข้ามานั่งแท่นเป็น ประธานบริหารทีม เนื่องจากมองว่ามีวิสัยทัศน์ที่กว่าไกล รวมทั้งมีใจที่รักฟุตบอลอย่างแท้จริง และ “เดอะบิ๊ก”ได้นำ บริษัท สัญญาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนสโมสรเพื่อนตำรวจ เมื่อต้นฤดูกาล 2014 เป็นเวลา 3 ปี ปีละ 20 ล้านบาท อีกด้วย