สาวก "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน คงยังปลาบปลื้มใจกับผลงานการประเดิมสนามศึก เวิลด์ คัพ 2014 ของทีมรัก ที่ถล่ม โปรตุเกส มาได้แบบเหนือความคาดหมาย 4-0 แบบไม่ไว้หน้าเซียนอูฐ "ชาฮีน"

 นอกเหนือจากชัยชนะและแฮตทริกของ โธมัส มุลเลอร์ แล้ว สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่หายไปแต่แทบไม่ได้รับการพูดถึงคือ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ อีกนักเตะระดับแนวหน้าและรองกัปตันทีม "อินทรีเหล็ก"

 โยกี้ เลิฟ เลือกส่ง ซามี่ เคดิร่า ลงเล่นในแผงกองกลางกับ โทนี่ โครส และฟิลิปป์ ลาห์ม และในเกมกับกานาที่กำลังจะมาถึง มีความเป็นไปได้สูงที่เลิฟจะใช้ เคดิร่า ลงเล่นแทนชไวน์สไตเกอร์ต่อไป

 คำถามคือ เหตุผลใดที่นักเตะคนสำคัญที่พาสโมสรประสบความยิ่งใหญ่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แถมมีหมวกทีมชาติอยู่ในสต็อคแล้ว 102 ใบ กลับถูกหมางเมิน และได้รับความไว้วางใจทีหลังกองกลางหน้าติดหนวดจากเรอัล มาดริด

 ประเด็นแรกคือเรื่องอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของ ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางจากบาเยิร์น มิวนิคเปิดเผยว่าเขาต้องกัดฟันเอาชนะอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าฝืนลงเล่นให้ทีมชาติเยอรมันในยูโร 2012 แต่ เลิฟ ยังคงให้ความไว้วางใจให้มิดฟิลด์รายนี้รับหน้าที่หัวโขนตัวเอกของทีม จน ชไวนี่ กลายเป็นจุดด่างพล้อยของทีมในที่สุด

 บุนเดสเทรนเนอร์ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และเชื่อว่า ชไวนี่ เองก็ยังไม่สามารถเรียกคืนฟอร์มระดับท็อปกลับมาได้หลังจากมีอาการบาดเจ็บ

 ขณะที่ เคดิร่า ดูจะพร้อมกว่า แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เมื่อเดินทางเข้าสู่แคมป์เก็บตัว เคดิร่า สามารถลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างเต็มที่ และฟอร์มอันเผ็ดร้อนในเกมกับทีม "ฝอยทอง" เป็นเหตุผลชัดเจนว่าเขาจะได้รับโอกาสต่อไป

 เหตุผลต่อมา เลิฟ พยายามหลีกเลี่ยงให้ ชไวน์สไตเกอร์ ลงเล่นพร้อมกับ ฟิลิปป์ ลาห์ม และโทนี่ โครส  เพราะหลายครั้งที่มิดฟิลด์ 3 รายนี้มีปัญหาลงประสานงานกันในเกมใหญ่ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ต้นสังกัด มักทำลงานได้ไม่น่าบันเทิงใจเท่าไหร่

 ความสามารถในการแย่งบอลกลางอากาศ, ความสดของร่างกาย และความเร็วในการพาบอลไปข้างหน้าของเคดิร่าก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ได้รับความไว้วางใจเหนือชไวน์สไตเกอร์

 ความแข็งแกร่งของ เคดิร่า น่าจะมีประโยชน์กว่าในการรับมือมิดฟิลด์พันธุ์โคถึกอย่าง ไมเคิ่ล เอสเซียง และซัลลี่ย์ มุนตารี่

 เป็นไปได้ว่าจะใช้ เคดิร่า เข้าปะทะแล้วให้ ฟิลิปป์ ลาห์ม รอรับบอลพร้อมทำหน้าที่เปิดเกม

 แล้วมิดฟิลด์รายอื่นล่ะ ???

 โทนี่ โครส เป็นนักเตะอีกคนที่เล่นในตำแหน่งคล้ายกับชไวน์สไตเกอร์ ทว่าด้วยผลงานจากในระดับสโมสรและในเกมกับโปรตุเกส รวมถึงสภาพร่างกายที่สดกว่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ทำให้ ชไวนี่ ไม่สามารถเบียดเอาชนะมิดฟิลด์รายนี้ได้เช่นกัน

 ขณะที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม อายุอานามไล่เลี่ยกัน อาจถูกขยับไปเล่นเป็นแบ็กขวาเพื่อเปิดทางให้ ชไวน์ไตเกอร์ ลงมารับบทมิดฟิลด์ แต่กองหลังร่างเล็กก็เปิดเผยกับสื่อว่า ตอนนี้เขารู้สึกคุ้นเคยและโปรดปรานตำแหน่งกองกลางมากกว่าแล้ว และด้วยฟอร์มอันโดดเด่นในตำแหน่งนี้ ทำให้เบียดชนะชไวน์สไตเกอร์ไปอีกคน

 "ของที่มันยังไม่ถึงขั้นพังก็อย่าไปซ่อมมัน" ดูจะเป็นคำกล่าวที่คู่ควรกับแนวทางการทำทีมของ โยอัคคิม เลิฟ ในขณะที่ ซามี่ เคดิร่า, ฟิลิปป์ ลาห์ม และโทนี่ โครส กำลังประสานงานกันได้ดีและแทบไม่มีช่องว่างสำหรับความผิดพลาด ส่งผลให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ตัวเก๋าของทีมยังคงต้องรอโอกาสต่อไป

 บางทีเราอาจได้เจอ ชไวนี่ ลงเล่นอีกทีในยูโร 2016 เลยก็เป็นได้...