ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » แพมแพม ดาราธิป เพียรวัจนธรรม แถลงข่าว ย้ำชัดไม่ได้รุม วอนจบเรื่อง

แพมแพม ดาราธิป เพียรวัจนธรรม แถลงข่าว ย้ำชัดไม่ได้รุม วอนจบเรื่อง

Posted 05/09/2014 by kapook

 

 
            แพมแพม ดาราธิป เพียรวัจนธรรม แถลงข่าว ย้ำชัดที่บ้านไม่ได้ยกพวกไปรุมทำร้ายใคร ยอมรับมีการวางมวยระหว่างน้องชายกับคู่กรณี และก่อนหน้านี้ก็เคลียร์กันไปแล้วที่โรงพัก 

            จากกรณีที่มีข่าวครึกโครมว่า ครอบครัวของดาราสาว แพมแพม ดาราธิป เพียรวัจนธรรม นักแสดงช่อง 3 และเน็ตไอดอลชื่อดัง ยกพวกไปรุมทำร้ายคนในหมู่บ้าน เหตุเพราะไม่พอใจที่เพื่อนบ้านตักเตือนเรื่องการขับรถเร็วในหมู่บ้านจนทำให้ เกิดเหตุวิวาทลุกลามบานปลายจนคู่กรณีถึงกับสมองบวม ก่อนที่เจ้าตัวสาวแพมแพม จะชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านอินสตาแกรม (IG) ของเธอ ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

            ล่าสุด 4 กันยายน 2557 แพมแพม ดาราธิป ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้งต่อหน้าบรรดาสื่อมวลชน โดยเธอระบุว่า ตน เป็นแค่นักแสดงอิสระ และวันที่เกิดเรื่องไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการยกพวกรุมทำร้ายใครแต่อย่างใด แต่คู่กรณีมาหาที่บ้าน มาถามเรื่องขับรถเร็ว ก็เจอคุณพ่อ แล้วเขาก็พูดจาไม่สุภาพ ตอนนั้นตนกับน้องชายไม่อยู่ แต่ได้รับโทรศัพท์บอกให้รีบกลับ เมื่อน้องชายตนมาถึงก็พบว่ามีปากเสียงกัน เขาชี้หน้าด่าพ่อตน น้องชายจึงเข้าไปด้วยความเป็นห่วงพ่อ แต่อีกฝ่ายกลับท้าต่อยน้องชายตนก่อนจึงเกิดการวางมวยกันระหว่างคู่กรณีกับน้องชายแค่สองคน ส่วนคุณพ่อเข้าห้ามจึงได้รับบาดเจ็บต้องเย็บไปด้วย ส่วนคู่กรณีเห็นมีเข้าเฝือก ปิดตา ก็ไม่รู้ว่าเรื่องสมองบวมมาได้อย่างไร

            แพ มแพม บอกอีกว่า เรื่องชายฉกรรจ์ 3 คนไปรุมคู่กรณีนั้นไม่มีแน่นอน ครอบครัวตนอยู่กันแค่ 4 คน พ่อแม่ลูก และเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นในบ้านของตน หลังเกิดเหตุได้มีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ รวมทั้งมีการเคลียร์กับอีกฝ่ายที่โรงพักแล้ว ดังนั้นจึงอยากวอนให้จบเรื่อง และถ้าครอบครัวตนทำอะไรให้ไม่พอใจก็ต้องขอโทษด้วย อยากอยู่อย่างสบายใจเพราะทุกคนก็ยังต้องอยู่ที่นั่น อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน 

สำหรับบทสัมภาษณ์ทั้งหมดของแพมแพม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มีดังนี้

เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร

          แพมแพม : ก็คือคู่กรณีมากดกริ่งที่บ้าน มาบอกว่าคุณพ่อขับรถเร็วเกินไป แต่ตอนนั้นคุณพ่อไม่อยู่บ้าน คุณแม่อยู่บ้านคนเดียว คุณแม่ก็เลยบอกว่า เนี่ย คุณแม่ก็เลยตกใจ งงว่าคุณพ่อไปทำอะไรให้ เขาบอกว่าให้รอสักครู่ น่าจะมีการเข้าใจผิด อธิบายเหตุผลกัน น่าจะคุยกันได้ คุณพ่อกำลังจะกลับมา แต่ทางนั้นเองก็บอกว่า ขอไปเจอที่บ้านแล้วกัน บ้านเขาอยู่ที่นี่ เลขที่นี้ คุณแม่เลยบอกว่าได้ แล้วโทรบอกคุณพ่อให้เข้ามา แล้วก็ขับรถไปพบเขา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าหลังไหน ซึ่งทางเขาก็รออยู่หน้าบ้าน เมื่อเห็นคุณพ่อก็บอกว่า ลงมาเลย ด้วยคำไม่สุภาพ แต่ก็ต้องบอกว่า พ่อแพมอายุ 60 แล้ว ส่วนคู่กรณีอายุ 30 กว่า ๆ หรือปลาย ๆ อันนี้ไม่ชัวร์นะคะ แล้วพอลงไปเนี่ย พ่อยังไม่อยากมีปัญหา เพราะยังไม่รู้ว่า เรื่องเกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งแพมมองว่า หากเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถคุยกันได้ ไกล่เกลี่ยกันได้ ไม่ต้องมีเรื่อง อย่างน้อยก็ยังอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน คุณพ่อเลยบอกว่า เนี่ย มีปัญหาอะไร แต่ทางนั้นก็เริ่มด้วยอารมณ์ พูดจาไม่ดี พูดไม่สุภาพ มีการอ้างชื่อ นามสกุล หรือเรื่องต่าง ๆ พอถึงตรงนั้นเนี่ย คุณพ่อก็บอกว่า ให้ภรรยาพาคุณสามีเข้าบ้านดีกว่า จะได้แยกย้ายกัน จะได้ไม่มีปัญหา

          ถึงตอนนั้นเนี่ย น้องแพมก็เข้ามาพอดี ไม่มีปัญหา คือ วันนั้นแพมไปทำธุระกับน้องที่พัทยา แล้วแยกกันกลับกันคนละคัน เนื่องจากแพมจะไปทำธุระของแพมก่อน แต่คุณแม่โทรมาบอกว่า แม่อยู่บ้านคนเดียว ยังไงก็รีบกลับบ้านหน่อย แพมก็เป็นห่วงความปลอดภัยของเขา เพราะไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร แพมก็เลยบอกว่า เดี๋ยวให้น้องกลับมา เพราะแพมติดธุระ ดังนั้น น้องแพมจึงรีบกลับไปหาคุณพ่อ ด้วยความเป็นห่วง เพราะอายุเยอะแล้ว ซึ่งก็เห็นว่าทั้งคู่กำลังมีปากเสียงกันอยู่ จึงรีบลงไป เป็นห่วงคุณพ่อ เพราะคุณพ่อแก่แล้ว มีอะไรหรือเปล่า

          หลังจากนั้น ทางคู่กรณีเห็นว่า น้องแพมลงมา ซึ่งต้องแจ้งก่อนว่า เจตนาของน้องแพมคือ ไม่ได้ต้องการไปรุมเขา หรือทำร้ายตามที่เขาพูด เพราะคุณพ่อก็ไปคนเดียว แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไร ซึ่งพอน้องแพมลงจากรถ เขาก็ท้าน้องแพมว่า เนี่ย ให้ลูกคุณมาตัวต่อตัวกับผมไหม ซึ่งคุณพ่อแพมเนี่ย ไม่ได้ตั้งใจมามีปัญหาตั้งแต่แรก เขามาเนี่ยเพราะต้องการรู้ว่ามีอะไรหรือ มีอะไรที่ไม่เข้าใจกันก็สามารถเข้าใจกันได้ แต่คุณพ่อก็บอกว่า ขึ้นรถไป กลับบ้าน แล้วก็บอกคู่กรณีว่า พาสามีเข้าบ้านเถอะ อย่ามีปัญหากันเลย แล้วก็น้องแพมก็มากับแฟนอีกคนหนึ่ง ช่วยพ่อบอกว่าอย่ามีเรื่องกันเลย ด้วยความที่เขาเป็นห่วงคุณพ่อ ก็ยังไม่อยากไปไหน เพราะเห็นคู่กรณี ชี้หน้าด่าคุณพ่อแพม โวยวาย เพราะตอนนั้นใช้อารมณ์ และใช้คำพูดที่แบบไม่สุภาพ ท้าต่าง ๆ นานา ซึ่งแพมมองว่าคุณพ่อแพมนั้นใจเย็น เป็นผู้ใหญ่ ใจเย็นสุด ๆ แล้ว พอน้องแพมเห็นว่าเขาทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมแล้ว น้องเขาก็ลงมาอีกทีหนึ่ง พอคู่กรณีเห็น ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดว่าน้องแพมจะลงมาทำร้ายเขาหรือไม่ เขาก็พุ่งเข้าหาน้องแพมทันที พอพุ่งเข้าเสร็จ ก็เกิดการชุลมุน ทะเลาะวิวาท แต่แพมก็ขอบอกก่อนว่า ทะเลาะวิวาท เป็นแค่สองคนจริง ๆ คือคู่กรณีกับน้องแพม ไม่ได้เป็นชายฉกรรจ์สามคนตามที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่งแพมก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เพราะน้องแพมมากับแฟนแค่สองคนจริง ๆ มีรูปนะคะและใบรับรองแพทย์ พอเสร็จเนี่ยชาวบ้านละแวกนั้นก็มาช่วยกันแยก ก็เป็นว่าต่างคนต่างแยกกันเข้าบ้าน

          หลังจากนั้น น้องกับคุณพ่อก็เข้าไปแจ้งความที่ สน. ว่าโดนข่มขู่ แล้วก็มีการทำบันทึกประจำวัน แล้วก็มีการทำแผลในโรงพยาบาล ซึ่งเหตุการณ์แพมว่ามีอยู่แค่นี้จริง ๆ แพมสาบาน ไม่มีเหตุการณ์ชายฉรรจ์ 3 คน หรือมีพวกรุมทำร้ายเขาจนสมองบวม คือตอนนี้แพมก็คิดอยู่ว่า เขาจะสมองบวมจากอะไร เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคนต่อยกัน ไม่ได้เป็นการยกพวก

สรุปชนวนเหตุนี้มาจากอะไรคะ

          แพมแพม : เท่าที่ทราบนะคะ ที่เขาไม่พอใจเนี่ยมาจากการที่คุณพ่อขับรถเร็ว แล้วไปผ่านซอยบ้านเขา แพมก็ไม่เข้าใจว่าเร็วยังไง คือคุณพ่อก็งง ทุกวันนี้แพมก็อยากรู้เหตุผล ก็อยากเข้าไปคุยกับเขาด้วยเหตุและผลจริง ๆ

คู่กรณีได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน สมองบวมเลยอย่างที่เขาอ้างหรือเปล่า

          แพมแพม : ไม่นะคะ มันเป็นแค่การต่อยสองคนและมือเปล่า ไม่ได้มีอาวุธหรือรุม แพมว่า น้องแพม ฝ่ายแพมก็เจ็บ เจ็บทั้งคุณพ่อและน้อง เขาเองก็เจ็บ แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ เขาโดนรุมคนเดียว น้องหนูก็เจ็บเหมือนกัน แล้วก่อนอื่นแพมก็ขออนุญาตนะคะ แพมไม่ได้สังกัดช่องไหน แพมเป็นนักแสดงอิสระ ณ เหตุการณ์วันนั้น หนูไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แพมกลับมาไม่ทัน แล้วแพมก็อยู่กันแค่ 4 คนจริง ๆ เพราะไม่ได้เป็นครอบครัวใหญ่ ไม่ได้มีพวกพ้องจนสามารถนำพวกไปรุมเขาได้ แล้วแพมก็คิดว่า แพมไม่ได้เป็นดาราดัง หนูรู้ตัวค่ะ ส่วนสภาพจิตใจ คือ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องใหญ่สุดในชีวิตนะคะ ตื่นเช้ามาอีกวันหนึ่ง ทุกอย่างแบบ เหมือนทุกคนยังไม่ได้ฟังจากฝั่งเรา เหมือนไปตีความว่า แพมกับที่บ้านร้ายนะ ไปทำเขาทั้ง ๆ ที่เขามาเตือนธรรมดา ซึ่งแพมคิดว่า พ่อแพมมีเหตุผลมากพอ ถ้ามาเตือนธรรมดา คงไม่อยากมีปัญหาอยู่แล้ว เพราะอายุเยอะแล้ว ส่วนน้องแพม ไปด้วยความหวังดี เป็นห่วงคนในครอบครัวจริง ๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะแบบไปรุมเขา แพมก็เลยคิดแบบน้อยใจ ไม่รู้จุดประสงค์ของเขาว่าทำเพื่ออะไร วันนี้แพมรู้สึกเลยอยากมาบอกในส่วนของแพม เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้นะ ไม่ได้แบบรุนแรงทำให้เขาแบบสมองบวม มีชายฉกรรจ์ 3 คนจริง ๆ ค่ะ

หลังจากนี้มีไปคุยกับฝั่งนั้นอย่างไร

          แพมแพม : มีค่ะ มีไปคุยที่โรงพักค่ะ คือ แพมไปแจ้งความวันที่เกิดเหตุว่าบ้านหนูโดนข่มขู่จริง ๆ คือ แพมเป็นห่วงความปลอดภัยของที่บ้าน พ่อก็เลยแบบไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน พออีกวันทาง สน. ก็โทรมา อยากจะให้ไกล่เกลี่ยกัน จึงได้เจอกับคู่กรณีวันนั้น

แสดงว่าเขาก็ยังไม่เป็นอะไรจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล

          แพมแพม : จากวันนั้นเขาก็ยังมาได้ปกติ แต่ว่ามาแบบขามีพันเฝือก มีผ้าปิดตา แต่ก็มาได้ มาที่โรงพักมาพูดคุยได้

ดูเหมือนว่ามันจะจบไหมคะ

          แพมแพม : คือวันที่ไปไกล่เกลี่ยที่โรงพัก แพมคิดว่าจบแล้ว คือมันเป็นเรื่องที่แบบเล็กมาก อาจจะมีความเข้าใจผิดหรืออะไรยังไง ถ้าครอบครัวแพมทำอะไรให้เขา มันคุยกันได้ค่ะ แต่ว่าพอหลังจากวันนั้นเนี่ย มันก็กลายเป็นว่า มีข่าวอันนี้เกิดขึ้น คือเช้าอีกวันหนึ่ง ซึ่งแพมก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาเป็นหรือเปล่า เพราะหลังจากเจอที่โรงพัก เขาก็บอกว่า ขอไปรักษา แล้วค่อยกลับมาคุยอีกรอบหนึ่ง

แล้วหลังจากที่ได้พูดคุยกันไป ครอบครัวเราตกลงกันว่าอย่างไรบ้าง ว่าอยากจะจบหรืออยากจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

          แพมแพม : ก็ ความจริงแพมพูดตามความเป็นจริงเลยนะคะ ว่าตอนนี้แพมเป็นห่วงความปลอดภัยของทางบ้าน เพราะแพมก็อยู่กัน 4 คน พ่อแม่ลูกจริง ๆ ไม่ได้มีใครอื่น ถ้าสมมติว่า แพมขอเป็นตัวแทนของทางครอบครัวนะคะ ถ้าทำให้เกิดความไม่พอใจหรือเกิดความเข้าใจผิด แพมขอโทษ ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ ขอโทษแทนคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ แล้วคิดว่า แพมอยากให้เรื่องมันจบ เพราะวันนี้แพมสบายใจที่มาพูดในส่วนของแพมค่ะ แล้วแพมคิดว่า เรื่องถ้าจบได้มันก็ดีค่ะ เพราะทุกคนจะได้อยู่อย่างสบายใจ ถึงอย่างไรเราก็ต้องอยู่ตรงนั้น ถ้าทุกอย่างมันคลี่คลายหลังจากนี้ หรือมีคนพูดอะไรสร้างให้มันเป็นเรื่องอื่นอีก แพมว่ามันน่าจะจบได้ที่ตรงนั้น

ถ้าเราแถลงจบแล้ว แล้วฝั่งคู่กรณีออกมาแถลงบ้าง

          แพมแพม : คือ หลังจากนี้

คือ ยังไม่ได้ปรึกษาทางครอบครัว

          แพมแพม : คือ หลังจากนี้แพมก็ยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลยค่ะว่าจะทำอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ศาลสั่งจำคุก จัสติน ลี 80ปีคดีข่มขืน
    ลูกเจ้าสัวใหญ่ชื่อดัง ''จัสติน ลี'' เพลย์บอยไต้หวัน ถูกศาลสูงไต้หวันพิพากษาจำคุก 79 ปี 7 เดือน คดีข่มขืนเหล่าดารา-นางแบบสาววงการบันเทิง พร้อมคำสั่งชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายทุกคน รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 29.44 ล้านบาท
  • ช็อค!คลิปว่อนเน็ตลือนางเอกม.ชวนพระเอกจ้ำจี้...ใช่หรือไม่??
    กระฉ่อน! คลิปฉาวว่อนโลกอินเตอร์เน็ต ลือเป็นดาราสาวชื่อดังหลุดพูดชื่อตัวเองอักษรย่อ ม.ม้า ทำท่าถอดกางเกงแอ่นเป้าโชว์ ส่งเสียงอ้อนขอมีเซ็กส์กับผู้ชาย ชาวไซเบอร์คาดเป็น "คู่จิ้น" แห่งช่องน้อยสี!
  • "เมย์ พิชญ์นาฏ" ปากเจ่อๆ และสะโพกกลมกลึงช่างเย้ายวน
    เมย์-พิชญ์นาฎ สาขากร กับการขึ้นปก FHM เป็นครั้งที่ 4 และเรากล้าการันตีเลยว่านี่เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน เพราะเธอตั้งใจมอบเป็นของขวัญสำหรับสาวก FHM โดยเฉพาะ
  • ''พอลล่า'' อวดเมนูเด็ดโชว์สเต็ปคุณแม่
    ถือเป็นคุณแม่สุดสวยสำหรับแวดวงคนบันเทิงเลยทีเดียวสำหรับสาว "พอลล่า เทเลอร์" ที่วันก่อนสาวเจ้าเดินทางมาร่วมงานกิจกรรมสร้างเสริมสุขลักษณะการทานอาหารที่ถูกต้องให้แก่เด็กไทย กับเต้าหู้ไข่ไก่ โอเมก้า ผสมผัก ซีพี ผ่านแคมเปญ "CP Tofu Heroes เต้าหู้ผักพิทักษ์โลก"

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »