ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทยสุดคึกได้ลับเกือกนัดแรกเตรียมเอเอฟเอฟซูซุกิคัพ2014 กับ "ตากาล็อก" ฟิลิปปินส์ แรงกิ้งฟีฟ่าเบอร์ 1 อาเชี่ยน "โค้ชโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ จัดทัพ 4-3-3 ลงบู๊เน้นผสมผสานกันระหว่างแข้งเรียกมาใหม่กับตัวเอเชี่ยนเกมส์ พร้อมสั่งลูกทีมลุยแหลกเน้นผลการแข่งขันเนื่องจากเป็นปฏิทินฟีฟ่าเดย์มีการ เก็บคะแนนหวังขยับอันดับให้ดีกว่าเดิม อีกทั้งสถิติไทยข่มฟิลิปปินส์อื้อซ่า เจอกันมา 17 ครั้ง ไทย ชนะ 15 เสมอ0 แพ้ 2 ยิงได้ 57 เสีย 9 ประตู ด้าน โธมัส ดอร์ลี่ กุนซือทีมชาติฟิลิปปินส์ ชี้ลับเกือกกับไทยเหมือนได้เจอ เวียดนาม ,ลาว เชื่อได้ประโยชน์หวังถึงชนะเนื่องจากมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องตามปฏิทินฟี ฟ่าเดย์

         ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยที่เตรียมทีมลุยศึกเอเอฟเอฟซูซุกิ คัพ 2014 ระหว่างวันที่ 22-29 พ.ย. นี้ โดยทีมชาติไทยอยู่สายบี มีเพื่อนร่วมก๊วนอย่าง สิงคโปร์ (เจ้าภาพ) ,มาเลเซีย และ เมียนม่าร์

         นอกจากนั้นทีมชาติไทยยังจะมีคิวลงอุ่นเครื่องกับทีมชาติ ฟิลิปปินส์ ในวันอาทิตย์ ที่ 9 พ.ย. นี้ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม ในเวลา 18.30 น.ถ่ายทอสดทาง สยามสปอร์ต ฟุตบอล ทรูวิชั่น ช่อง 694 สำหรับหน้าสนามขายบัตรในราคา 50,80 และ 100 บาท

         ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ขุนพลทีมชาติไทย ยังคงลงฝึกซ้อมเป็นวันที่ 4 ณ กิเลนวัลเลย์ เขาใหญ่ โดยมีการฝึกซ้อมเพียงแค่ช่วงเช้าเท่านั้น ซึ่ง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้เน้นซ้อมในเรื่องของแทคติกการเข้าทำที่หลากหลาย มีเพียงแค่ ชัยณรงค์ ทาทอง คนเดียว ที่ยังมีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าต้องให้ "แอนดี้" นักกายภาพบำบัด ชาวเยอรมนี ดูแลอย่างใกล้ชิด

         สำหรับเกมที่จะเจอกับ ฟิลิปปินส์ ในเกมอุ่นเครื่อง วันที่ 9 พ.ย. นี้ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวา จ.นครราชสีมา ทาง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่  ยืนยันว่าจะจัดระบบ 4-3-3 ลงบู๊เน้นนักเตะที่เพิ่งเรียกมาลงเล่นเป็นหลัก คาดว่าจะเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู แบ็กซ้าย ชยพัทย์ กิจพงษ์ศรีธาดา คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ อดิศร พรมรักษ์ ลงยืนคู่กับ ธนบูรณ์ เกศารัตน์ ฝั่งแบ็กขวาเป็น อาทิตย์ ดาวสว่าง

         แผงมิดฟิดล์ 3 คน เน้นตัวหลักจากเอเชี่ยนเกมส์ สารัช อยู่เย็น ทำเกมกลางสนามโดยมี ชิล ชัปปุยส์ กับ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ช่วยซับพอร์ตทั้งริมเส้น ซ้ายสลับขวา ขณะที่แดนหน้า 3 ประสานที่เพิ่งเรียกเข้ามาอยู่ในทีม "ซิโก้" อย่าง ประกิต ดีพร้อม,กีรติ เขียวสมบัติ และ มงคล ทศไกร ได้ลงทะลวงเป้าแน่นอน

         กุนซือทีมชาติไทยลั่นนักเตะพร้อม80-90%

         โดย กุนซือทีมชาติไทย ได้เผยถึงความพร้อมของทีมเวลานี้ต้องขอบอกว่ามีเกือบ 80-90 เปอร์เซ็นต์ มีความกระหายในชัยชนะที่จะเจอกับฟิลิปปินส์ชุดใหญ่แล้ว "แน่นอนว่า การที่เราได้อุ่นเครื่องกับ ฟิลิปปินส์ จะเป็นการเรียกความมั่นใจกลับมา ซึ่งนักเตะส่วนใหญ่ที่ผมจะใช้ลงเล่นในเกมนี้ก็คงจะเป็น นักเตะที่เรียกเข้ามาใหม่ ผสมกับพวกที่ผ่านเอเชี่ยนเกมส์มา สิ่งสำคัญที่สุดพวกเขาจะต้องเล่นให้กลมกลืนกัน"

         "ส่วนนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านี้ก็มี ปกเกล้า อนันต์ ซึ่งถอนตัวไป เวลานี้ก็มี ชัยณรงค์ ทาทอง มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของนักกายภาพบำบัดอย่างเต็มที่ ก็ต้องให้เวลาเขา ในการฟื้นสภาพร่างกายให้หายกลับมา ขณะที่คนอื่นๆไม่มีปัญหาอะไร"

         เตะตามปฏิทินฟีฟ่าเน้นผลการแข่งขัน

         นอกจากนั้น อดีตจอมตีลังกาทีมชาติ ไทย ยังเผยถึงเกมที่จะเจอกับ ฟิลิปปินส์ เป็นการประเดิมในการอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ อีกว่า "รู้สึกดีใจที่ เกมนี้เป็นเกมที่ฟีฟ่า รองรับ ซึ่งก่อนหน้านั้น ก็ยังไม่ได้ขึ้นในเวบไซต์ฟีฟ่าอย่างเป็นทางการ แต่ตอนนี้อัพเดตแล้ว"

         "เชื่อว่าจะเป็นเกมที่สนุก เพราะฟิลิปปินส์ ทีมเขาเองก็มีแรงกิ้งฟีฟ่ามาเป็นอันดับ 1 ของอาเชี่ยน เนื่องจากขยันอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ซึ่งเกมนี้หากว่าเราสามารถเอาชนะได้ ก็น่าจะได้คะแนนเก็บอีกเยอะเพื่อให้แรงกิ้งฟีฟ่าเราดีกว่าเดิม อีกทั้งถ้าเกม วันที่ 18 พ.ย. ซึ่งเจอกับทีมแกร่งจริงอย่างนิวซีแลนด์ ผมมั่นใจว่าถ้าเราเอาชนะได้ โอกาสยึดกลับมาเป็นเบอร์ 1 ของอาเชี่ยนคงจะใช้เวลาอีกไม่นาน"ซิโก้กล่าว

         ห่วง 4 แข้งเจ็บจากเอฟเอคัพ

         นอกจากนั้น "โค้ชโก้" ยังได้กล่าวถึง 4 นักเตะที่จะเข้ามาสมทบใหม่ไม่ว่าจะเป็น อดุลย์ หละโสะ ,นูรูล ศรียานเก็ม , สุทธินันท์ พุกหอม จาก ชลบุรี เอฟซี และ ประวีณวัชร บุญยงค์ จากบางกอกกล๊าส เอฟซี คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลมูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพ 2014 ว่าห่วงเพียงแค่อาการบาดเจ็บเท่านั้นเอง

         นักเตะ ทั้งหมดนี้ไม่น่าจะห่วงแต่อย่างใด เรื่องของความฟิตไม่ต้องมาเริ่มต้นใหม่ เนื่องจากซ้อมอยู่กับสโมสรมาตลอด หวั่นเกรงอย่างเดียวก็คืออาการบาดเจ็บเท่านั้นเองถ้าเข้ามาซ้อมร่วมกับทีมก็ จะใส่ในเรื่องของแทคติก ให้มีความเข้าใจตรงกันเท่านั้นเอง โดยภาพรวมอื่นๆผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาทุกคนคือนักเตะอาชีพ แล้ว"

         เจ,ป๊อบ,กิต พร้อมยิงให้ทีมชาติไทย

         หลังการฝึกซ้อมนักเตะแนวรุกที่คาดว่า "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่จะส่งลงสนามอย่าง "เมสซี่เจ" ชนาธิป สระกระสินธุ์ ออกมาแสดงความมั่นใจว่า "ผมก็มั่นใจในเพื่อนๆและพี่ๆทุกคนก็ซ้อมกันค่อนข้างดี โดยส่วนตัวอาการบาดเจ็บไม่มีร่างกายดีมาก  เจอกับฟิลิปปินส์ ถ้ายิงไม่ได้ไม่เป็นไรแต่อยากให้ทีมชนะใครยิงก็ได้"

         ทางด้าน "กีรติอุส" กีรติ เขียวสมบัติ ดาวยิงร่างบึกทีมชาติไทย ยืนยันว่า "ดูจากการฝึกซ้อมก็มั่นใจ ทุกคนมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ โดยส่วนตัวเรื่องของอาการบาดเจ็บไม่มีแล้ว สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์"

         ขณะที่ "ปีกนินจา" ประกิต ดีพร้อม ดาวยิงที่ถูกเรียกมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเปิดใจว่า "เป็นแมตซ์อุ่นเครื่องเกมแรกในนามทีมชาติไทยชุดใหญ่รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย ถ้าได้ลงเล่นก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรื่องของร่างกายมีความพร้อม 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนความมั่นใจในการยิงประตูต้องดูในเกมที่จะลงสนามหากเราเริ่มต้นได้ดีคง ไม่มีปัญหาอะไร"

         ปินส์มาเต็มทัพส่งลูกครึ่งยิง

         ทางฝั่งทีมชาติฟิลิปปินส์ หลังจากที่เดินทางมาเก็บตัวที่ จ.นครราชสีมา ช่วงเย็น โธมัส ดอร์ลี่ กุนซือใหญ่ อดีตกองหลังทีมชาติสหรัฐอเมริกา นำลูกทีมลงซ้อมที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคมโดยเกมนี้คาดว่าจะส่งตัวหลักลงบู๊เพียบส่วนใหญ่เป็นนักเตะลูกครึ่ง ยุโรปกว่าค่อนทีม ในเกมที่เจอกับไทย คาดว่า "โธมัส ดอร์รี่" จะจัดทัพใหญ่โดยมี แนวรับอย่าง ร็อบ กีอาร์ กับ อัลวาโร่ ชิลวา เป็นตัวหลัก นอกจากนั้นยังมี ไดซูเกะ ซาโตะ ลูกครึ่งญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์ ทำเกมริมเส้น

         ขณะที่แดนกลาง เจมส์ ยังฮันแบรนด์ และ คริส เกรซวิช รวมทั้ง มาร์ติน สตูเบล ทำหน้าที่ประสานงานในแผนกห้องเครื่อง ส่วนคู่หน้าวาง ฟิล ยังฮัสแบรนด์ เป็นตัวหลัก และมี มาร์ค ฮาร์ทแมน ดาวยิงลูกครึ่งอังกฤษ-ฟิลิปปินส์ เติมเต็มในแนวรุก

 
         โธมัสโวอุ่นเครื่องเจ๋งมาตลอด

         ก่อนการฝึกซ้อม "โธมัส ดอร์ลี่" กุนซือใหญ่ทีมชาติ ฟิลิปปินส์ มั่นใจว่าเกมนี้จะได้ประโยชน์มหาศาล เนื่องจาก ทีมชาติไทย มีสไตล์การเล่นที่ใกล้เคียงกับ เวียดนาม และ ลาว อีกทั้งเป็นปฏิทินฟีฟ่าเดย์ขอเอาชนะเป็นจ่าฝูงในอาเชี่ยนเหมือนเดิม

         "เราเจอกับทีมชาติไทย มั่นใจว่าจะได้ประโยชน์มหาศาลเลยทีเดียวในแง่ของการเตรียมเพื่อสู้ศึกเอเอ ฟเอฟซูซุกิคัพ เนื่องจากไทย ถือว่ามีสไตล์การเล่นที่ไม่ต่างจาก เวียดนาม รวมไปถึง ลาว เพราะอยู่ในละแวกเดียวกัน"

         "แน่นอนว่าศักยภาพของนักเตะเราอาจจะเป็นรองทีมชาติไทย ที่ได้เป็นเจ้าบ้าน แต่อย่างไรก็ตามเราขอเอาชนะในเกมอุ่นเครื่องนี้ เนื่องจากเป็นการแข่งขันตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์มีคะแนนให้สะสม หากเราชนะโอกาสที่จะนำจ่าฝูงกับแรงกิ้งฟีฟ่าไปยาวๆก็มีสูง"

         แฉสถิติไทยข่มปินส์อื้อชนะ 15 แพ้แค่ 2 หน

         สำหรับสถิติที่พบกันมาของทั้งสองทีม เริ่มตั้งแต่ ปี 1971 ไทย แพ้ ฟิลิปปินส์ 1-3 (ซีเกมส์),ปี1971 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 1-0 (เมอร์ไลอ้อนส์) ,ปี 1972ไทย แพ้ ฟิลิปปินส์ 0-1 (เฟสซิเดนซ์คัพ),ปี 1972ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 4-0 (เมอร์เดก้าคัพ),ปี 1982 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 (คิงส์คัพ)

         ปี 1983 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 (เฟสซิเดนซ์คัพ),ปี 1985 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 7-0 (ซีเกมส์) ,ปี 1991 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 6-2 (ซีเกมส์),ปี 1996 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 5-0 (เอเอฟเอฟซูซุกิคัพ ),1998 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 (เอเอฟซูซุกิคัพ),ปี 1999ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 9-0 (ซีเกมส์)

         ปี2000 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 (เอเอฟเอฟซูซุกิคัพ),ปี2004 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1(เอเอฟเอฟซูซุกิคัพ),ปี2006 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 5-0 (อุ่นเครื่อง),ปี 2007 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 4-0 (เอเอฟเอฟซูซุกิคัพ)ปี 2012 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์2-1 (เอเอฟเอฟซูซุกิคัพ)

         สรุปสถิติเจอกันมา 17 ครั้ง ไทย ชนะ 15 เสมอ0 แพ้ 2 ยิงได้ 57 เสีย 9 ประตู