ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » ราชันเหนือชั้น!ถล่มครูซอาซูล4-0ลิ่วชิงฯ

ราชันเหนือชั้น!ถล่มครูซอาซูล4-0ลิ่วชิงฯ

Posted 17/12/2014 by siamsport

 

        "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เจ้าของตำแหน่งแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โชว์ฟอร์มเฉียบ หลังเปิดเกมไล่ถล่ม ครูซ อาซูล แชมป์คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแบบยับเยิน 4-0 ทะลุผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปรอพบกับ ซาน โลเรนโซ่ หรือ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ในการแข่งขันฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2014 รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันอังคารที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา

 

 

 

การแข่งขันฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2014

รอบรองชนะเลิศ

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2557

ครูซ อาซูล (เม็กซิโก) 0-4 เรอัล มาดริด (สเปน)


สนาม: สต๊าด เดอ มาร์ราเคช, (มาร์ราเคช, โมร็อกโก), (สนามกลาง)

          ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 3 นาที เรอัล มาดริด ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แปด้วยขวาจ่อๆไปติดเซฟของ โฮเซ่ โคโรน่า นายทวารของครูซ อาซูล


          ผ่านมา 11 นาที ราชันชุดขาว น่าจะได้ประตูเมื่อ โทนี่ โครส จ่ายให้กับ คาริม เบนเซม่า ซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลไปชนเสาซ้ายออกมาอย่างน่าเสียดาย


          สี่นาทีต่อมา เรอัล มาดริด ขึ้นนำก่อน 1-0 จนได้จากจังหวะที่ โทนี่ โครส โยนฟรีคิกจากทางด้านขวาเข้ามา โฮเซ่ โคโรน่า นายทวารของครูซ อาซูล ออกมาตัดบอลพลาด บอลเลยมาเข้าหัวของ เซร์คิโอ รามอส โหม่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม


          เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 31 โทนี่ โครส กองกลางของเรอัล มาดริด รับบอลมาจาก อีสโก้ ก่อนกระทุ้งด้วยขวาจากนอกเขตโทษแต่ไปติดเซฟของ โฮเซ่ โคโรน่า นายทวารของครูซ อาซูล


          ห้านาทีต่อมา เรอัล มาดริด มาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ ดาเนียล การ์บาฆาล เปิดจากกราบขวาให้กับ คาริม เบนเซม่า ชาร์จด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่ายช่วยให้ ราชันชุดขาว นำห่าง 2-0


          ขยับมานาทีที่ 39 ครูซ อาซูล ได้จุดโทษจากจังหวะที่ มาเรียโน่ ปาโวเน่ โดน เซร์คิโอ รามอส เหนี่ยวไหล่ล้มลงไป ผู้ตัดสิน เอ็นรีโก้ โอสเซส เป่าทันที ก่อนที่จะให้ใบเหลืองกับ รามอส ไปด้วย จากลูกจุดโทษ เคราร์โด้ ตอร์ราโด้ กัปตันทีมครูซ อาซูล ซัดด้วยขวาไปทางด้านขวาของ อีเกร์ กาซียาส นายทวารเรอัล มาดริด แต่โดน กาซียาส พุ่งปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำก่อน 2-0


          มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 5 นาที ราชันชุดขาว เดินหน้าบดต่อเนื่องมาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ เบนเซม่า ไหลออกมาทางด้านซ้ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตักเข้ามาเสาสองให้กับ แกเร็ธ เบล โหม่งเข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด นำขาด 3-0


          กระเถิบมานาทีที่ 59 เรอัล มาอีกครั้ง โทนี่ โครส โยนเข้ามาให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงด้วยขวาไม่ผ่านมือของ โฮเซ่ โคโรน่า นายทวารของครูซ อาซูล


          จากนั้นนาทีที่ 64 เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา เซร์คิโอ รามอส ที่มีอาการบาดเจ็บออกมาพักแล้วส่ง ราฟาแอล วาราน ลงมาคุมเกมรับแทน


          ข้ามมานาทีที่ 72 ชุดขาวมาได้ประตูที่สี่จากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สับขาหลอกกองหลังของครูซ อาซูล จนหัวหมุน ก่อนผ่านเรียดสั้นๆเข้าในให้กับ อีสโก้ โชว์เทคนิคล็อคหลบผู้เล่นของครูซ อาซูล ก่อนเกี่ยวบอลไปปั่นโค้งด้วยขวาในกรอบเขตโทษบอลเข้าประตูไปสุดคลาสสิคช่วยให้ เรอัล มาดริด นำหายห่วง 4-0


          นาทีที่ 79 ครูซ อาซูล พยายามฮึดสู้ เคราร์โด้ ตอร์ราโด้ ผ่านบอลให้กับ เมาโร่ ฟอร์มิก้า หวดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือของ อีเกร์ กาซียาส นายทวารของเรอัล มาดริด


          ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 เฆเซ่ โรดรีเกซ ที่ลงมาเป็นสำรองโยนบอลให้กับ ซามี เคดิร่า ขึ้นโหม่งบอลไปชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย


          เวลาที่เหลือทำอะไรกันอีกไม่ได้ ครบ 90 นาที เรอัล มาดริด ถล่ม ครูซ อาซูล ไปยับเยิน 4-0 ตบเท้าเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศรอพบกับผู้ชนะระหว่าง ซาน โลเรนโซ่ หรือ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ที่สนามสต๊าด เดอ มาร์ราเคช ประเทศโมร็อกโก ในวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม ศกนี้ พร้อมกับทำสถิติคว้าชัยเป็นนัดที่ 21 ติดต่อกันจากทุกรายการแล้ว


          ส่วน ครูซ อาซูล ไปชิงอันดับ 3 กับ ผู้แพ้ระหว่าง ซาน โลเรนโซ่ หรือ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ในวันเดียวกัน

          รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          ครูซ อาซูล: โฮเซ่ โคโรน่า - เคราร์โด้ ฟลอเรส, ฟรานซิสโก้ โรดริเกซ, ฮูลิโอ โดมิงเกซ, ฟาอุสโต้ ปินโต้ - เคราร์โด้ ตอร์ราโด้ (กัปตันทีม), เอร์นาน เบร์นาร์เดโย่ - คริสเตียน ฮิเมเนซ (มาร์โก ฟาเบียน น.65), เมาโร ฟอร์มิก้า, ชูเอา โรฮาส (อิสมาเอล บาลาเดซ น.76) - มาเรียโน่ ปาโวเน่ (ปาโบล บาร์เรร่า น.65)
          เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส (ราฟาแอล วาราน น.64), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้, โทนี่ โครส (ซามี เคดิร่า น.73), อีสโก้ (เฆเซ่ โรดรีเกซ น.76) - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
          ผู้ตัดสิน: เอ็นรีโก้ โอสเซส (ชิลี)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »