หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือ บาร์เซโลน่า เผยไม่มองในแง่ดีว่าเสียงวิจารณ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว หลังนำทีมเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด เมื่อวันอาทิตย์ บอกเมื่อไหร่ก็ตามที่แพ้ก็จะเกิดเสียงตำหนิขึ้นอีก และต้องการให้รอดูในช่วงจบซีซั่นแล้วค่อยตัดสินตัวเอง

หลุยส์ เอ็นริเก้ เทรนเนอร์ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า เขาไม่ได้มองในแง่ดีว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อตัวเองได้เงียบลงแล้ว หลังจากที่นำต้นสังกัดเอาชนะ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด 3-1 ที่สนามคัมป์ นู เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

มีข่าวลือออกมาว่า ลิโอเนล เมสซี่ ยอดหัวหอก บาร์ซ่า ได้ร้องขอให้สโมสรปลด เอ็นริเก้ ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาหลุดไปเป็นตัวสำรองในเกมลา ลีกา นัดที่พ่าย เรอัล โซเซียดาด 0-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และล่าสุดกุนซือวัย 44 ปี ก็เผยว่าเขารู้สึกว่าการนำทีมคว้าชัยเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ช่วยลดความกดดันของตัวเอง แต่ก็เชื่อว่ายังคงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์รออยู่เมื่อไหร่ก็ตามที่นำทีมแพ้

"ชัยชนะเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้คลื่นลมสงบได้ สภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้งถ้าเราแพ้ ผมจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ผมสามารถควบคุมได้ ผมจดจ่อกับการแข่งขัน เมื่อจบฤดูกาลเราจะได้รู้กันว่าเราสามารถคว้าแชมป์ได้หรือไม่ และนั่นจะเป็นช่วงเวลาของการตัดสินผม" เอ็นริเก้ กล่าว           

เมสซี่ จ่ายให้ เนย์มาร์ และ หลุยส์ ซัวเรซ ยิงประตู ก่อนที่ตัวเองจะมาซัดปิดท้ายช่วยให้ บาร์ซ่า เอาชนะ แอต.มาดริด และ เอ็นริเก้ ก็ยินดีกับฟอร์มการเล่นของลูกทีม

"มันเป็นเกมที่เข้มข้น ไม่ต้องสงสัยเลย การเจอกับทีมที่มีคุณภาพสูง เราคว้า 3 คะแนน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่เราก็ป้องกันคู่แข่งไม่ให้ไล่ตามเราทัน" เอ็นริเก้ กล่าว