สั่งปรับ ทีโอที เอสซี ที่ประท้วงคำตัดสินของเชิ้ตดำนาน 8 นาที ในเกมบุกไปพ่าย ''ราชันมังกร'' 0-1 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา 1 หมื่นบาท รวมทั้งปรับเจ้าหน้าที่ทีม บางกอกกล๊าส เอฟซี กับ เอสซีจี เมืองทองฯ ฝั่งละ 1 หมื่นบาท ข้อหาออกนอกเทคนิค เพื่อมาประท้วงในเรื่องของลูกทุ่มเข้าประตูของ ปิยพล ผานิชกุล นอกจากนี้การดีใจเกินเหตุของ เฮแบร์ตี้ เฟอร์นันเดซ ที่ยิง ชลบุรี เอฟซี ได้ และกระโดดไปหอมแฟนสาว โดนปรับ 3 หมื่นบาท ขณะเดียวกัน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ปีกซ้าย ''ฉลามชล'' โดนแบน 1 เกม ปรับ 3 หมื่นบาท เนื่องจากไปใช้วาจาไม่สุภาพกับผู้ตัดสิน หลังเกมที่แพ้ ราชบุรีฯ 1-3

         เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ครั้งที่ 3 โดยมี ธนพิชญ์  มูลพฤกษ์ เป็นประธาน พร้อมด้วย  ดร. ราเชล  ได้ผลธัญญา ,  ประดิษฐ์  นิธิยานันท์, กฤตเมต  เอ่งฉ้วนธาดา , ดนัย  มงคลศิริ, เอกชัย ถนัดเดินข่าว  คณะ อนุกรรมการและ ไพฤทธิ์  ต้านไพรี  เลขานุการคณะอนุกรรมการ  ร่วมกัน ประชุม

        สำหรับศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ยังคงเป็นการหารือจากเกม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ ทีโอที เอสซี จากวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่าง น. 88 นั้นผู้เล่นของ ทีโอที เอสซี มีการประท้วง การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินหลังจากที่เสียประตู   และทำให้การแข่งขัน นั้นหยุดไปเป็นเวลา 8นาที

        โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้เผยสรุปว่าผู้เล่นของ ทีโอที เอสซี ทำผิดในข้อ 3.8 ทีมใดประท้วงด้วยเหตุใดๆก็ตาม ทำให้การแข่งขันกำลังดำเนินอยู่ต้องหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง หากมีรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขันหรือผู้ตัดสิน จะถูกปรับเงิน 50,000 บาท ก่อนที่จะเรียก อนุวัตร ฝีมือช่าง ผู้ตัดสิน และ วิชาญ กลิ่นถาวร ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 เข้ามาสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมดังกล่าว ทำให้ ทีโอที เอสซี ถูกปรับเงิน 50,000 บาท เนื่องจากเป็นการประท้วงให้เกมหยุดกาแข่งขัน

        ปรับจนท.บีจี-เมืองทองฝั่งละ 1 หมื่น

        ในเกม บางกอกกล๊าส เอฟซี เสมอกับ เอสซีจี เมืองทองฯ 1-1 ใน น.85 จังหวะที่ ปิยพล ผานิชกุล ทุ่มบอลจากเส้น 18 หลา และลูกบอลได้เข้าเส้นประตูภายใต้เสา และคานประตู โดยไม่สัมผัสผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นประตู ทำให้เจ้าหน้าที่ บางกอกกล๊าส เอฟซี หลายคนออกนอกเส้นเทคนิค เดินเข้าไปสอบถามผู้ตัดสินที่ 4 ที่เส้นข้างสนาม จนกระทั่งผู้ตัดสินไปปรึกษากับ ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 และสรุผว่าลุกบอลไม่ได้สัมผัสผู้เล่นคนใด จึงกลับคำตัดสิน ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ เอสซีจี เมืองทองฯ หลายคนออกจากนอกเส้นเทคนิคไปหาผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ที่เส้นข้างสนามเช่นกัน เพราะทีมของตนเสียประโยชน์ไม่ได้ประตู

        ซึ่งกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ บางกอกกล๊าส เอฟซี และ เอสซีจี เมืองทองฯ เข้าข่ายความผิดตามผนวกที่ 7 ข้อที่ 2.1 ข้อ 3 คือ ออกนอกเส้นเทคนิค มีโทษปรับ 10,000 บาท และถ้าออกนอกเส้นเทคนิคครบ 3 ครั้ง จนกระทั่งผู้ตัดสินหรือผู้ตัดสินที่ 4 ต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเชิญผู้กระทำผิดขึ้นบนอัฒจันทร์ จะมีโทษตามข้อ 2.3 ซึ่งสั่งปรับเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 สโมสร เป็นเงินทีมละ 10,0000 บาท

        เฮแบร์ตี้ดีใจเกินเหตุโดนไปด้วย-แบนเกริกฤทธิ์ต่อว่าเปาหลังเกม

        นอกจากนี้ยังมีในคู่ของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กับ ชลบุรี เอฟซี ใน น.60 เฮแบร์ตี้  เฟอร์นันเดซ ผู้เล่นของ ราชบุรี มิตรผม เอฟซี ยิงประตูที่ 2 ได้ จนวิ่งดีใจออกนอกสนาม กระโดดข้ามเด็กเก็บบอล กระโดดขึ้นไปบนอัฒจันทร์หลักไปหาแฟนบนอัฒจันทร์

        คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้วว่า เฮแบร์ตี้ เฟอร์นันเดซ เข้าข่ายความผิดข้อ 1.6 แสดงความยินดีจากการที่ทีมตนทำประตูได้ ด้วยการวิ่งออกจากสนามแข่งขัน หรือปีนขึ้นไปยืนบนป้าย หรือรั่วกั้นพร้อมกับแสดงอาการดีใจ หรือถอดเสื้อแข่งขันออกแล้ววิ่งไปตามลู่หรือบริเวณขอบสนาม และมิได้ถูกผู้ตัดสินคาดโทษ ซึ่งนักตะรายนี้กระโดดข้ามรั้วกั้น ขึ้นไปฝั่งอัฒจันทร์ฝั่ง วีไอพี มีโทษปรับ 30,000 บาท

        และหลังจากจบเกมการแข่งขันในคู่ดังกล่าว มีรายงานจากผู้ตัดสินว่า เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ผู้เล่นของ ชลบุรี เอฟซี ไปต่อว่าผู้ตัดสินด้วยวาจาไม่สุภาพ แล้วเดินกลับเข้าห้องพัก ทำให้มีความผิดตามข้อ 1.9 คือ การใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น ต่อเจ้าหน้าที่ทีม หรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน หรือ นักฟุตบอล หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขันหรือบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทำให้ห้ามลงแข่งขัน 1 นัด ปรับเงิน 30,000 บาท

        ใน ยามาฮ่า ลีก วัน คู่ของ นครปฐม ยูไนเต็ด แพ้ บางกอก เอฟซี ไป 0-1 ผู้ควบคุมการแข่งขันได้รายงานว่า มิลอส โจซิค ไม่พอใจผู้เล่นได้เตะขวดน้ำออกนอกเทคนิค เข้าข่ายความผิดข้อ 2.6 แสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อสาธารณะชน และมิได้ถูกผู้ตัดสินคาดโทษ ห้ามทำหน้าที่ในเกมต่อไป 1 นัด และปรับอีก 1 หมื่นบาท