ออกมาอัพเดทจนถึงวินาทีสุดท้ายกันเลยทีเดียว สำหรับคู่กรณีเพื่อนซี้บัญชีเดือด ระหว่างสองนางแบบก้านยาว "โย ยศวดี หัสดีวิจิตร" และ "บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์" หลังจากที่ปล่อยให้เป็นประเด็นดราม่ายืดเยื้อมานานกว่า 5 เดือนเต็ม!!

โดยล่าสุดขณะที่สาว "โย ยศวดี" เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวคอนโดโครงการ "J.W. @ Donmuang" เจ้าตัวก็ได้ถือโอกาสออกมาอัพเดทความคืบหน้าให้บรรดาฟังว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.) ตนและทนายความจะมีการนัดไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติกับคู่กรณีเป็นครั้งสุดท้าย แต่ถ้าหากยังตกลงกันไม่ได้ก็คงจะต้องยกให้เป็นหน้าที่ของศาลเข้ามาช่วยตัดสิน พร้อมยืนกรานงานนี้ตนขอเดินหน้าสู้เต็มที่ไม่มีอ่อนข้อเด็ดขาด...

ล่าสุดคู่กรณีเขาออกมาบอกว่าแล้วว่า ยังไม่จบ ?
"เอ่อ...จริงๆ เวลาประชุมตัวเขาเองจะเป็นคนมอบหมายหน้าที่งานให้กับเพื่อนชายของเขา ซึ่งทุกครั้งเราก็จะตกลงกันหลังประชุมเสร็จว่าจะไม่มีการออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ ทิ้งสิ้น จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเคลียร์ แต่อันนี้โยก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าเขาไปสื่อสารกันยังไง หรือเขาห้ามกันไม่ได้ เพราะพอประชุมเสร็จปุ๊ปเขาก็จะต้องออกมาให้สัมภาษณ์ทันทีทั้งๆ ที่ตัวเขาเองไม่ได้มาร่วมประชุม ดังนั้นถามว่าโยรู้สึกอะไรไหมกับสิ่งที่เขาพูด โยไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ ไม่ได้รู้สึกใส่ใจด้วย เพราะโยถือว่าตัวเขามอบหมายหน้าที่การพูดคุยให้กับเพื่อนชายเขาแล้ว ดังนั้นขาก็คงหมดหน้าที่ไปแล้ว อีกอย่างโยต้องบอกก่อนว่าทุกครั้งที่สื่อสารกับเพื่อนชายของเขาคือมันรู้เรื่องมากกว่าเยอะ ดังนั้นมันเลยไม่มีอะไรที่จะจำเป็นต้องมานั่งเถียงกันอีก"

ที่เขาบอกว่าสาเหตุที่เรื่องไม่จบเป็นเพราะพี่โยไม่ได้ติดต่อเขาไปจริงไหม ?
"ไม่มีหรอกค่ะ เพราะเขามีทนายมีทุกคนมาคุยกับโยตลอด อีกอย่างมันไม่เหตุผลด้วยเพราะที่ผ่านมาตัวเขาเองก็เคยประกาศไว้แล้วว่า ขอให้โยเป็นแค่เพื่อนร่วมโลก ดังนั้นก็ขอให้เขายึดคำนั้นไว้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ"

แบบนี้จะมีการนัดหมายเพื่อขึ้นศาลกันอีกครั้งเมื่อไหร่ ?
"ณ ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นศาลเลยค่ะ ถามว่าโยกลัวการขึ้นศาลไหม โยไม่ได้กลัวเลยนะ เพราะที่ผ่านมาโยเองก็อยากจะให้เรื่องขึ้นศาลมาโดยตลอด เนื่องจากคนจะได้รู้กันไปเลยว่าสิ่งไหนถูกต้องและสิ่งไหนที่มันผิด ถ้าทำแบบนี้เรื่องมันจะจบง่ายกว่า"

แสดงว่าพี่โยเองก็มั่นใจกับหลักฐานที่มีพอสมควร ?
"โยไม่ได้เชื่อมั่นนะคะ และโยก็ไม่ได้คิดด้วยว่าตัวเองเป็นคนดี เพียงแต่โยถือว่าสิ่งไหนที่โยเคยทำมาโยจำได้ โยเป็นคนทำงานตรงนี้เองแทบจะทั้งหมด ทุกอย่างเคยผ่านหูผ่านตาผ่านมือโยมาทั้งหมด ดังนั้นจะมาบอกว่าโยไม่ทราบเรื่องเลยเป็นไปไม่ได้ เพราะโยรู้ทุกเรื่องค่ะ โยกล้ามากที่จะให้ปากคำต่อหน้าศาล แต่ถ้าหากมีเอกสารฉบับไหนที่โยทำผิดพลาด โยก็ยินดีชดใช้ตรงนั้น แต่ขอเถอะค่ะอย่ามาชดใช้กันหน้าทีวีอีกเลย เพราะมันไม่มีผู้ตัดสินอยู่ตรงนี้"

ส่วนตัวพี่โยคิดว่ามีโอกาสขึ้นศาลสูงไหม ?
"มีแนวโน้มสูงมากค่ะ เพราะใจโยอยากให้ขึ้นศาลมาตลอด เพียงแต่ทางทนายของโยเขาอยากให้ทุกอย่างจบลงตรงที่การไกล่เกลี่ย เนื่องจากเรื่องมันจะได้ไม่ต้องยืดเยื้อไปอีกหลายปี"

ในเมื่อตัวเราเองอยากให้เรื่องจบ แล้วทำไมถึงไม่ตัดสินใจฟ้องไปเลย ?
"ก็อย่างที่โยบอกค่ะ โยฟังความเห็นหลายๆ ฝ่าย ฟังผู้ใหญ่หลายท่านที่เตือนเรา เพราะพวกเขาก็อยากให้เราจบโดยที่สุดท้ายแล้วไม่ต้องเป็นศัตรูกัน แต่ถ้าหากครั้งสุดท้ายนี้คุยกันแล้วมันจบไม่ลงจริง ๆ ก็คงต้องขึ้นศาลแน่นอน"

ที่บอกว่าคุยครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่ ?
"พรุ่งนี้ค่ะ (ยิ้ม)"

การพูดคุยในวันพรุ่งนี้ตัวเขาจะมาเองหรือเปล่า ?
"มีแค่ทนายกับทนายค่ะ ถ้าหากยุติได้ก็ยุติ แต่ยืนยันเลยว่าจะไม่มีการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น เพราะการคุยกันครั้งนี้เป็นการเจรจา และโยก็ไม่ได้มีอะไรที่จะต้องไปต่อรองกับเขาด้วย ดังนั้นทุกอย่างที่โยทำมาคือทำมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวเขาจะรับก็รับ ถ้าไม่รับก็เตรียมตัวไปขึ้นศาลกันค่ะ"

พี่โยพร้อมสู้เต็มที่เลยไหมหากต้องขึ้นศาล ?
"พร้อมเต็มที่มากค่ะ (ยิ้ม)"

แสดงว่าถ้าขึ้นศาลพี่โยก็ค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองจะต้องชนะ ?
"คือมันก็ต้องมีภาพในการที่เราประกอบงานมาทั้งหมด ซึ่งนั่นทางศาลเขาก็จะเป็นคนคำนวณในเรื่องของตัวเลขไป"

จริงๆ จำนวนเงินมันสูงมากเหมือนที่มีข่าวก่อนหน้านี้ไหม ?
"ไม่ได้มากเลยค่ะ ตัวเลขก็ไม่ได้เยอะ 7 หลักยังไม่ถึงเลย เพราะฉะนั้นโยพูดได้เลยว่าเหนื่อยมากกับระยะเวลา 5 เดือน ที่ต้องออกมาพูดตรงนี้"