เผด็จศึกลอดช่อง !!! "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพช้างศึกสั่งลุย จัด 3 ประสาน "มุ้ย"ธีรศิลป์ แดงดา นำทัพหวังกระซวกสิงคโปร์ ฝั่งซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ด้านขวาเป็น รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ที่จะได้ลงลากเลื้อย ในเกมอุ่นเครื่องฉลองครบรอบ 50 ปี การเชื่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย กับ สิงคโปร์ ชี้ลอดช่องเล่นแผน 4-2-3-1 หวังเน้นเกมเพรสซิ่งและปิดพื้นที่ไม่ให้บอมส์ใส่ อีกทั้ง ซิโก้ ยังออกอาการสุดปลื้มได้"มุ้ย"ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงเบอร์หนึ่งทีมชาติไทยคัมแบ็กกลับมาช่วยชาติอีกครั้งในรอบปี

        ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โดยมีคิวที่จะลงอุ่นเครื่องกับสิงคโปร์ วันที่ 26 มี.ค 58 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ในรายการฉลองครบรอบ 50 ปี การเชื่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย กับ สิงคโปร์ และอีกนัดกับแคเมอรูน วันที่ 30 มี.ค ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยทั้ง 2 เกมจะแข่งขันในเวลา 19.00 น.

             ล่าสุดเมื่อเวลา 9.00 น. ของวันที่ 25 มี.ค ที่ผ่านมา พลพรรคนักเตะทีมชาติไทยได้ยกพลเดินทางจากโรงแรมเอสซี ปาร์ค มายังจ.นครราชสีมา โดยมี 4 นักเตะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดอย่างธีรศิลป์ แดงดา,สารัช อยู่เย็น,กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และอาทิตย์ ดาวสว่าง ที่เสร็จภารกิจกับสโมสรตบเท้ามารายงานตัวและออกเดินทางพร้อมกับเพื่อนร่วม ทีม ก่อนที่จะเข้าพักที่โรงแรมวีวัน

                                                    "ซิโก้"มั่นใจเผด็จศึกลอดช่องได้แน่

            จากนั้นช่วงเย็นเวลา 16.00 น. "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา โดยเน้นการฝึกซ้อมแท็คติครวมถึงเล่นเกมเพรสซิ่ง ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.จึงเสร็จสิ้น

            หลังการฝึกซ้อม "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยกล่าวว่า "สำหรับเกมที่จะพบกับสิงคโปร์ผู้เล่นทุกคนมีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งแน่นอนว่าเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องชนะให้ได้สถานเดียวเท่านั้น โดยพร้อมจะเปิดเกมรุกตามสไตล์ถนัด และมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะสิงคโปร์ได้แน่นอน พร้อมกันนี้ก็ขอเชิญชวนแฟนบอลชาวโคราชหรือจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมกันเชียร์และเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทย โดยทุกคนสัญญาว่าจะทำหน้าที่สุดความสามารถเพื่อชัยชนะ"

         ล้วงตับลอดช่องเล่นระบบ 4-2-3-1  

            ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวสยามกีฬาว่าได้ศึกษาฟอร์มการเล่นของ สิงคโปร์มาก่อนหน้านี้หรือไม่ ซ฿งเฮดโค้ชจอมาตีลังกาเปิดเผยว่า "ผมศึกษาฟอร์มการเล่นของคู่แข่งมาโดยตลอด พวกเขาเล่นสูตรเดิมคือ 4-2-3-1 ซึ่งสิงคโปร์มีผู้เล่นรูปร่างสูงใหญ่กว่าเรา ก็คงจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด โดยเราจะเน้นการเล่นบอลกับพื้นการจ่ายบอลเท้าสู่เท้าที่แม่นยำ และเข้าเพรสซิ่งชิงบอลกลับมาให้เร็วที่สุด

            รวมถึงการปิดโอกาสอย่าให้พวกเขาได้เล่นลูกกลางอากาศมากเกินไป และต้องเซฟฟาล์วในโซนอันตราย เนื่องจากอย่างที่บอกว่าเราเป็นรองพอสมควรเรื่องของสรีระ และพวกเขาก็เป็นทีมที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี"

ปลื้มได้"มุ้ย"คัมแบ็กช่วยผลิตสกอร์

            นอกจากนี้"ซิโก้"ยังได้กล่าวต่อไปว่า "การได้มุ้ยกลับมาเป็นกองหน้าถือเป็นข่าวดีของทีม เพราะใครก็รู้ว่าเขาคือกองหน้าที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในเมืองไทยแล้ว ผมทราบดีว่าเขาอาจต้องแบกรับความกดดันอยู่บ้าง เพราะเล่นในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งผมก็เคยเป็นกองหน้าทีมชาติมาก่อน โดยผมเองก็หวังว่าเขาจะทำผลวานได้ดีกับทีมชาติ เพื่อเรียกความมั่นใจกลับมาให้ได้ ขณะเดียวกันที่ผ่านมาเรามีแต่ตัวเข้าทำ ยังขาดผู้เล่นตัวจบสกอร์แดนหน้าที่ครบเครื่องแบบมุ้ย การได้เขากลับมาช่วยชาติจึงเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม สำหรับทีมชาติ และสำหรับแฟนบอลชาวไทย"

"วิรัช"พร้อมส่งชนินทร์เฝ้าเสาก่อน

            ด้านวิรัช วังจันทร์ โค้ชผู้รักษาประตูเปิดเผยว่า "เกมที่จะอุ่นเครื่องกับสิงคโปร์ ผมคิดว่าอยากจะให้ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ ลงเฝ้าเสาก่อน เพราะเชื่อว่าระดับอาเซียนกับสิงคโปร์เขาน่าจะยืนได้สบาย ในใจลึกๆคิดว่าอยากจะทดลองให้เขาลงก่อน ส่วนกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ อยากจะเก็บไว้ใช้งานเต็มๆในแมตซ์อุ่นเครื่องกับแคเมอรูนมากกว่า เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ และมีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับซิโก้ว่าจะเห้นด้วยหรือไม่"

                                                                จัดหนัก 3 ประสานทะลวงสกอร์

            ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของทีมชาติไทย ภายใต้การกุมบังเหียนของ "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะมาในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตู ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ,แบ็กซ้ายเป็น ธีราทร บุญมาทัน ที่จะสวมปลอกแขนกัปตันทีม แบ็กขวาใช้ พุทธินันท์ วรรณศรี เซนเตอร์ฮาล์ฟเป็นการจับคู่กันของ สุทธินันท์ พุกหอม กับ กรวิทย์ นามวิเศษ

            แดนกลางมี สารัช อยู่เย็น คอยคุมจังหวะ โดยมี ปกเกล้า อนันต์ กับ ประกิต ดีพร้อม เดินเกมรุก ส่วน 3 ประสานแดนหน้า ประกอบด้วยฝั่งซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ด้านขวาเป็น รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ที่จะได้ลงลากเลื้อย โดยมี "มุ้ย"ธีรศิลป์ แดงดา เป็นหัวหอกตัวเป้า

            อนึ่งทีมชาติไทยมีแรงกิ้งฟีฟ่าอยู่ในอันดับ 142 ของโลก โดยอยู่ในโถ 3 ของการจับสลากฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่หากสามารถเอาชนะได้ทั้ง สิงคโปร์ และ แคเมอรูน รวมถึงลุ้นให้ ฟิลิปปินส์ ไม่ชนะ บาห์เรน ก็มีสิทธิ์จะขยับขึ้นไปอยู่ในโถ 2 ทันที

ไทยชุดแดง,เปาศรีลังกา-เหงียน

            สำหรับทีมชาติไทยจะสวมชุดแดงทั้งชุดลงสนาม ส่วนทีมชาติสิงคโปร์จะสวมชุดน้ำเงินทั้งหมด โดยเกมนี้จะมีการคาดเทปดำที่แขนเสื้อนักฟุตบอลทุกคน รวมถึงก่อนแข่งขันจะมีพิธีการยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้ ลี กวน ยู ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ที่เพิ่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 23 มี.ค ที่ผ่านมา

            ขณะที่คณะผู้ตัดสินในเกมนี้จากเป็นชาวศรีลังกาและเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ตัดสินชุดเดียวกับที่จะลงทำหน้าที่ในศึกปรีโอลิมปิก รอบคัดเลือก กลุ่มจี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 27-31 มี.ค นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานอีกด้วย

สถิติชี้ชัดไทยเหนือกว่าลอดช่อง

            ในเรื่องของสถิติของทีมชาติไทย และ สิงคโปร์ ที่พบกัน ตามบันทึกสถิติของฟีฟ่าเจอกันทั้งหมด 58 นัด ทว่าอาจจะมีทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่ทำให้ต้องดึกสถิติ 10 เกม หลังสุดที่พบกันออกมา ปรากฏว่าในการเจอกันในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน ครั้งที่ 1 วันที่ 10 ก.ย.1996 ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (รอบแรก), ครั้งที่ 4 วันที่ 22 ธ.ค.2002 ไทย เสมอ สิงคโปร์ 1-1 (รอบแรก)

            ครั้งที่ 6 วันที่ 31 ม.ค.2007 ไทย แพ้ สิงคโปร์ 1-2 (ชิงชนะเลิศนัด 1 ), วันที่ 4 ก.พ.2007 เสมอ 1-1 (ชิงชนะเลิศนัด2 ), ครั้งที่ 9 วันที่ 19 ธ.ค.2012 ไทย แพ้ สิงคโปร์ 1-3 (ชิงชนะเลิศนัด 1 ), วันที่ 22 ธ.ค.2012 ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (ชิงชนะเลิศนัด 2 ) และ ครั้งที่ 10 วันที่ 23 พ.ย.2014 ไทย ชนะ สิงคโปร์ 2-1 (รอบแรก)

            ส่วนการเจอกันในรายการอื่นๆ ประกอบด้วย วันที่ 17 ม.ค.2010 ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (คิงส์ คัพ), วันที่ 11 ส.ค.2010 ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (อุ่นเครื่อง), วันที่ 24 ส.ค.2011 ไทย เสมอ สิงคโปร์ 0-0 (อุ่นเครื่อง) ทำให้สรุปสถิติที่ ไทย พบ สิงคโปร์ ทั้งหมด 10 ครั้ง ไทย ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 2 ได้ 10 เสีย 8