คาเรน บาร์ดส์ลี่ย์ มือกาวหญิงของ แมนฯ ซิตี้ โดนตั้งข้อหาหลังไปต่อย เฟรด้า อยีซี่ กองหน้า เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในจังหวะที่เธอโดนอีกฝ่ายศอกใส่ก่อน โดยถึงแม้เธอจะขอโทษแล้ว แต่ก็ไม่รอดอยู่ดี

คาเรน บาร์ดส์ลี่ย์ ผู้รักษาประตูหญิงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ตั้งข้อหาเล่นรุนแรงเกินกว่าเหตุ หลังจากที่เธอไปต่อยคู่แข่งระหว่างเกม วีเมนส์ ซูเปอร์ ลีก หรือลีกแข้งแม่เนื้ออ่อนของประเทศอังกฤษ ที่ต้นสังกัดเสมอกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา

ในนัดดังกล่าวนั้น บาร์ดส์ลี่ย์ โดน เฟรด้า อยีซี่ กองหน้า เบอร์มิงแฮม ที่ได้ลงเล่นเป็นนัดแรก ศอกใส่บริเวณอก ซึ่งนายทวารสาวทีมชาติอังกฤษก็ตอบโต้ไปด้วยการปล่อยหมัด ส่งผลให้ทั้ง 2 คนก่อเหตุวิวาทกันเพิ่มอีก โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ อยีซี่ โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่มือกาววัย 30 ปี ไม่โดนลงโทษอะไรเลย

แถลงการณ์ของ เอฟเอ ระบุว่า "คาเรน บาร์ดส์ลี่ย์ โดนตั้งข้อหาจาก เอฟเอ สำหรับการเล่นรุนแรงเกินกว่าเหตุ หลังเกิดเหตุการณ์หนึ่งในสนาม ซึ่งจังหวะนั้นกรรมการไม่เห็น แต่กล้องวิดีโอจับภาพเอาไว้ได้ ข้อหานี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระหว่างผู้รักษาประตูทีมหญิงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เฟรด้า อยีซี่ ของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แอลเอฟซี ซึ่งเกิดขึ้นในนาทีที่ 45 ของเกมเมื่อวันอาทิตย์ อยีซี่ โดนไล่ออกในตอนนั้นจากการที่เธอมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"

ทั้งนี้ เดิมที บาร์ดส์ลี่ย์ ก็ได้ออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ดังกล่าวไปแล้ว "อารมณ์ร่วมมันพุ่งขึ้นสูงในเกมกับ เบอร์มิงแฮม เมื่อวานนี้ พอได้ดูคลิปอีกครั้งแล้วฉันก็รู้สึกละอายใจต่อเรื่องที่ทำกับ เฟรด้า อยีซี่ มากๆ ถึงแม้ฉันจะโดนยั่วยุ แต่การตอบโต้ไปแบบนั้นมันไม่ใช่นิสัยของฉันเลย ฉันได้ติดต่อไปยัง เบอร์มิงแฮม เพื่อขอโทษกับการกระทำของตัวเองแล้ว"