ปราง กัญญ์ณรัณ โต้ขับรถชนเพื่อนบ้านเกือบตายแต่หนีไม่รับผิดชอบ เผยให้แม่ไปเคลียร์แล้วแต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร วอนคู่กรณีโพสต์ข้อความแก้คำพูดให้ แต่หากไม่แก้ให้ก็จะคุยอีกครั้ง และเตรียมฟ้องเพราะเก็บหลักฐานไว้แล้ว

กลายประเด็นเม้าท์ใหญ่โตในโลกไซเบอร์ไปเรียบร้อย หลังมีคนโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กทำนองต่อว่านักแสดงสาววิก 3 ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ว่าขับรถเฉี่ยวชนจนเจ็บเกือบตายแต่หนีไม่ยอมรับผิดชอบ พอได้เจอปรางมาร่วมงาน “Fabulous Laboratory -- where fab molecules combine” ชั้น 2 โซนบีคอน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยให้เจ้าตัวชี้แจงถึงเรื่องนี้

งานนี้ ปราง เลยได้โอกาสชี้แจงแบบละเอียดยิบว่า “ก็เพิ่งทราบเมื่อเช้าเหมือนกันค่ะ ได้อ่านแล้ว คนที่โพสต์เนี่ยเป็นคนที่อยู่ข้างบ้านปรางเองนะคะ หลังจากที่อ่าน ปรางออกมาทำงานแล้ว ก็เลยโทรบอกคุณแม่ว่าช่วยไปคุยกับเขาให้หน่อย เพราะเห็นเขาบอกว่าเขาโดนเฉี่ยว พอมีคนมาคอมเมนต์ถามว่าเจ็บตรงไหนไหม เขาบอกว่าเขาเกือบตาย หนูก็เฮ้ย เมื่อไหร่อะ ทำไมเราไม่รู้ตัว ทีนี้ก็เลยให้คุณแม่ไปคุยเพราะถ้าเขาเจ็บเกือบตายจริงๆ เราก็จะช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลเพราะเรามีประกันอยู่แล้ว แต่พอคุณแม่ไปถาม เขาก็บอกว่าไม่มีแผลเพราะแค่เกือบชน หนูก็เลยแบบอืม...ยังไงอะ คือสิ่งที่เขาเขียนมันทำให้คนอื่นเข้าใจผิดน่ะ อีกอย่างนึงคือจริงๆ แล้วถ้าเกิดปรางไปเฉี่ยวเขา ปรางอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะที่รถเราไปเฉี่ยวใครบางทีเราไม่รู้ตัว ปราบยินดีจะขอโทษเขาถึงหน้าบ้านเลยค่ะ แต่ ณ วันนั้นปรางไม่รู้เลยจริงๆ แล้วเขาไม่ได้มาบอกหรือให้ใครมาแจ้งว่าปรางไปขับรถเฉี่ยวชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาน่าจะเดินมาบอกปรางน่ะ แต่เขาบอกว่าเขาเดินมาแล้วแต่ปรางเดินหนี ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ ทีนี้ก็เลยให้คุณแม่ไปเคลียร์ว่าสรุปแล้วเนี่ยเขาผิดที่ไม่ควรเขียนว่าปรางชนถูกเขา แล้วเขาเจ็บจนเกือบตาย ซึ่งทำให้คนอื่นเข้าใจปรางผิดเยอะมาก”

เขาได้บอกไหมว่าสาเหตุที่เขาโพสต์คืออะไร? “หนูก็ไม่ทราบเหมือนกัน ถ้าได้อ่านคอมเมนต์แล้วคำพูดค่อนข้างรุนแรง สิ่งที่ปรางอ่านเสร็จตอนแรกคือถ้าปรางอ่านคอมเมนต์แล้ว ปรางอยากออกไปคุยกับเขาเลย ปรางก็มั่นใจในสิ่งที่ปรางทำ ปรางไม่เคยทำอะไรเสียหาย ปกติอุบัติเหตุรถยนต์เกิดกับปรางบ่อยอยู่แล้วค่ะ ถ้าเกิดมีคนที่เคยเป็นคู่กรณีปรางฟังอยู่ก็จะรู้ว่าปรางจะลงไปเลย บางทีชนแล้วไม่มีคู่กรณีอยู่ ปรางก็ทิ้งใบขับขี่ไว้ให้ ปรางไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้ว ยิ่งชนคนเนี่ยเป็นไปไม่ได้ แล้วเขาบอกว่าปรางตั้งใจไปชนเขา หนูยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่” ปกติปรางขับรถเร็วไหม? “จริงๆ เป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว แต่ว่าในนั้นเป็นซอยเล็กๆ เป็นหมู่บ้าน หนูก็ไม่เข้าใจว่ายังไง อย่างที่บอกว่าหนูพร้อมจะขอโทษอยู่แล้วถ้าเกิดผิด แต่สิ่งที่หนูอยากได้รับตอนนี้คือหนูอยากให้เขาช่วยแก้ด้วยค่ะ ในเมื่อเขาเป็นคนบอกกับเราเองว่าเขาไม่ได้โดนแค่เกือบโดน" ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องทะเลาะกันเกิดขึ้นไหม? “ไม่มีเลยค่ะ จริงๆ ปรางอยู่บ้านนี้มานานมากตั้งแต่เด็กๆ ก็เคยเห็นคนที่บ้านนั้นตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ เคยคุยตอนเด็กค่ะ แต่พอโตมาก็ต่างคนต่างทำงาน ไม่ได้คุยเลย” ตอนเกิดเหตุเราคุยโทรศัพท์รึเปล่า? “ไม่มีเลย ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนค่ะ ก็ขับกลับบ้านตามปกติ”

รู้สึกนอยด์บ้างไหมว่าเขาทำกับเราขนาดนี้? “ใช่ เรื่องเพิ่งเกิดเมื่อเช้า แล้วเพิ่งคุยกันกับแม่ว่าสรุปเคลียร์แล้วใช่ไหม เพราะวันนี้ปรางมา 2-3 งานเลย เขาก็บอกว่าเคลียร์แล้ว ปรากฏว่าพอโทรไปถามจี้เขาจริงๆ เขาก็บอกว่าไม่รู้ๆ เขาตอบได้แค่ว่าไม่รู้ค่ะ” เขาทำไปแบบนี้เพราะอยากได้อะไรรึเปล่า? “หนูก็ไม่แน่ใจ เพราะหนูก็บอกแล้วว่าถ้าอยากได้คำขอโทษหนูมีให้ ถ้าเจ็บเป็นแผลตรงไหน หนูก็พร้อมจะพาเขาไป รพ.ตั้งแต่เช้าแล้ว เพราะเขาโพสต์ว่าเขาเกือบตายอะ” ที่เขาโพสต์มีผลกระทบอะไรกับเราบ้าง? “มีผลกระทบค่ะ อย่างที่บอกว่ามีคนถามค่อนข้างเยอะ เท่าที่หนูอ่านคอมเมนต์ก็มีคนพูดว่าคนนี้เหรอ ทำไมทำตัวแบบนี้ นิสัยไม่ดีเลย ซึ่งจริงๆ มันทำให้คนอื่นเข้าใจผิดค่ะ” ส่วนตัวจะกลับไปคุยกับเขาไหม? “เท่าที่คุยกับคุณแม่ค่อนข้างรู้เรื่องแล้ว แต่สิ่งที่คุณแม่ฝากเขาคือช่วยแก้คำพูดน่ะค่ะ จะแก้ว่าหนูเหมือนเกือบเฉี่ยวเขาก็ได้หนูไม่ว่าเลยค่ะ มันไม่ใช่หนูไปเฉี่ยวเขาแล้วเขาเกือบตายน่ะค่ะ เพราะยังไม่โดนอะไรเลย” ถ้าเขาไม่ออกมาแก้ให้ เราจะทำยังไง? “ก็อาจจะต้องคุยอีกทีนึง ถามว่าจะฟ้องไหม จริงๆ มีคุยกับเขาไว้บ้างว่าเรามีหลักฐานนะ เพราะตอนที่คุณแม่คุยกับเขาว่าคำพูดที่ใช้ไม่ถูกต้องเลยนะ ใช้คำว่าถูกเฉี่ยวไปแล้วและเจ็บเกือบตาย เขาก็บอกว่าไม่มีคำไหนเลยที่บอกว่าโดน แม่ก็เลยบอกว่าเรามีทุกคำพูดนะ คนก็เห็นกันเยอะแยะ”

กลัวเรื่องราวบานปลายไหม? “ไม่ จริงๆ ปรางไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ มันเป็นเรื่องเล็กมากๆ เลย เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมาทะเลาะกัน ยิ่งถ้าเป็นคนที่รู้จักกันอยู่แล้วปรางก็เลยไม่เข้าใจ ยิ่งคำว่าปรางเจตนาชนเขา บอกว่าหลายทีแล้วด้วย ปรางไม่มีเหตุผลที่จะไปชนเขาเลย แล้วเขาก็พิมพ์ในเฟซบุ๊กอีกว่าปรางอยากดังใช่ไหมถึงทำตัวเองแบบนี้ มัน non-sense มากเลยอะ” เสียใจไหมที่เจอแบบนี้? “ตกใจค่ะ ยิ่งตกใจเข้าไปอีก คือตอนแรกอ่านแล้วตกใจว่าเราขับรถไปเฉี่ยวใครที่ไหน ที่ไหนได้คือในบ้าน ซึ่งมันยิ่งยากเข้าไปอีกน่ะ” ปีนี้เราปีชงรึเปล่า? “ใช่ค่ะ” แบบนี้ต้องไปทำบุญเสริมดวงไหม? “จริงๆ ก็ทำบุญเยอะอยู่แล้วค่ะตั้งแต่ต้นปีเพราะเกิดเรื่องโน่นนี่” แต่คราวนี้เจอหนักเลย? “ก็ดูสิ แต่งตัวธรรมดา คนก็ดราม่าว่าเหมือนจีวรพระ แต่เรื่องรถค่อนข้างตกใจ เพราะปกติปรางไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะกับใครอยู่แล้ว” คนรอบข้างให้กำลังใจยังไงบ้าง? “ทุกคนก็บอกว่ามันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง บางคนก็บอกว่านักเลงคีย์บอร์ด อย่าไปคิดอะไรมาก แต่บางทีคนที่อ่านเขาก็คิดไง ปรางก็เลยต้องแคร์คนที่อ่านด้วยค่ะ” มันเลยเป็นบทเรียนที่ทำให้เราต้องระมัดระวังตัว? “แน่นอนค่ะ ต้องระวังมากขึ้นด้วย” อยากบอกอะไรคนที่เข้าใจเราผิดไหม? “ไหนๆ ก็สัมภาษณ์แล้วก็ขอบคุณมากเลยค่ะ ตอนแรกปรางไม่อยากโพสต์ทะเลาะกันไปๆ มาๆ ในเฟซบุ๊ก หรือมาแฉเขาในอินสตาแกรมตัวเอง ฉะนั้นปรางแค่อยากฝากความจริงว่าเป็นแบบนี้ ปรางยังไม่ได้ชนถูกเขา แล้วปรางไม่เคยคิดหนี เขาไม่ได้เกือบตายค่ะ เขาไม่ได้เป็นอะไรเลย”.