บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน กกท.ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของประธานผู้ตัดสิน โดยยก 10 กรณีตัวอย่างที่มองว่าทำหน้าที่ไม่เป็นธรรม

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (4 พฤจิกายน 2015) ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วย อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของประธานผู้ตัดสิน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งก็คือ พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล

โดยเนื้อหาภายในหนังสือได้ยกตัวอย่างกรณีที่ทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี มองว่า ประธานผู้ตัดสิน มีการตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม 10 เหตุการณ์ ประกอบด้วย

1. ในเกมชิงถ้วยพระราชทาน ก. เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 ระหว่างทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล ลงโทษ ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินข้อหาไม่เป่าจุดโทษให้เมืองทอง ด้วยการห้ามทำหน้าที่ 1 ฤดูกาล ก่อนที่ นายวรวีร์ มะกูดี จะออกมาลดโทษเหลือครึ่งฤดูกาล

2. ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2558 ระหว่าง บางกอกกล๊าส กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล ลงโทษ อำนาจ ผ่องมณี ผู้ตัดสิน ,อดิศร ป้อมน้อย ผู้ช่วยผู้ตัดสินห้ามทำหน้าที่ 6 นัด และ 4 นัดตามลำดับข้อหาไม่เป่าจุดโทษให้เมืองทอง

3.ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2558 ระหว่าง สุพรรณบุรี กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล ลงโทษ ทวีป อินทร์แก้ว ผู้ตัดสิน และ เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม ผู้ช่วยผู้ตัดสินห้ามทำหน้าที่ไม่มีกำหนด ข้อหาไม่เป่าจุดโทษให้เมืองทอง โดยในหนังสือยังระบุว่า ทวีป อินทร์แก้ว ปัจจุบันยังไม่ได้ทำหน้าที่อีกทั้งที่เป็นผู้ตัดสินฝีมือดี และได้รับการยอมรับจากทุกๆฝ่าย

4. ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2558 ระหว่าง ชลบุรี เอฟซี กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล ลงโทษ สราวุธ พรหมศรีโรจน์ ผู้ตัดสินห้ามทำหน้าที่ไม่มีกำหนด ข้อหาให้ใบแดงแก่ผู้เล่นเมืองทอง 2 คน และเป่าจุดโทษให้ชลบุรี ซึ่งปัจจุบัน นาย สราวุธ ยังไม่ได้ทำหน้าที่อีกเลย

5 ในฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดสอง เมิื่อวันที่ 16 ก.ย. 2558 ระหว่าง อาร์มี่ ยูไนเต็ด กับ ขอนแก่น เอฟซี ฮัสซัน ซันนี่ ผู้รักษาประตูอาร์มี่ ได้รับใบแดงท้ายเกม แต่ พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล กลับยอมรับหนังสืออุทธรณ์ของอาร์มี่ พร้อมยกเลิกใบเหลืองแรกให้ ฮัสซัน โดยอ้างว่าผู้ตัดสินผิดพลาด ทำให้ ฮัสซัน ได้ลงเล่นรอบรองชนะเลิศกับ บุรีรัมย์

6. ในฟุตบอลยามาฮ่าลีกวัน เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2558 ระหว่างทีม ยาสูบ กับ พัทยา ยูไนเต็ด เวลลิงตัน พรีโอรี กองหลังของพัทยา ได้รับใบแดง แต่ พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล กลับยอมรับหนังสืออุทธรณ์ของพัทยา ลดโทษจากใบแดง เป็นใบเหลือง ทำให้พรีโอรี ได้ลงแข่งขันฟุตบอลยามาฮ่าลีกวันกับ อยุธยา ในเกมถัดไป

7 ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2558 ระหว่าง ทีโอที เอสซี กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล สั่งลงโทษ ภุมรินทร์ คำรื่น ผู้ตัดสินเกมนั้นห้ามทำหน้าที่โดยไม่ได้แจ้งเหตุผลในความผิดพลาด แต่กระผมคิดว่ามาจากการกระทำและการตัดสินในสนาม ซึ่งบเกมการแข่งขันเสมอกันไป 1-1 จนทำให้เมืองทองตกจากตำแหน่งอันดับ 1 ของตาราง

8. ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2558 ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ชลบุรี เอฟซี พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล ยืนยันการทำหน้าที่ของ อลงกรณ์ ฝีมือช่าง ผู้ตัดสินปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง พร้อมปฏิเสธหนังสืออุทธรณ์ของชลบุรี ทั้งที่ ภูริทัต จาริกานนท์ เป็นฝ่ายถูก ดัสกร ทองเหลา นักเตะเมืองทอง กระทำมากกว่า อีกทั้ง อลงกรณ์ ฝีมือช่าง ก็ออกมายอมรับว่าตนเองตัดสินผิดพลาดที่ให้ใบแดงกับ ภูริทัต แต่ประธานผู้ตัดสินก็ยังยืนยันว่า อลงกรณ์ ตัดสินถูกต้องแล้ว ซึ่งกระผมตั้งข้อสังเกตว่าแตกต่างจากกรณียกเลิกใบแดงของ ฮัสซัน และ พรีโอรี แบบหน้ามือหลังมือ

9. ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2558 ระหว่าง การท่าเรือ กับ ชลบุรี เอฟซี พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล ยืนยันการทำหน้าที่ของ สุเมธ สายแวว ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องตามกติกา โดยเฉพาะจังหวะการให้จุดโทษกับการท่าเรือ ในนาทีที่ 38 อย่างไรก็ตามภายหลังนายสุเมธได้ออกมายอมรับว่าตัดสินผิดพลาด ที่เป่าให้จุดโทษกับการท่าเรือ จนต้องประกาศอำลาวงการผู้ตัดสิน แต่ประธานผู้ตัดสินก็ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ

10 . ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2557 ระหว่าง เชียงราย ยูไนเต็ด กับ โอสถสภา พล.อ. ชินเสณ ทองโกมล กล่าวหาพร้อมระบุ ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูโอสถสภา มีพฤติกรรมการเล่นแบบแปลกๆ และเล่นไม่เต็มที่ สร้างความไม่พอใจให้ นายธนา ไชยประสิทธิ์ ประธานโอสถสภาเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายประธานผู้ตัดสินก็ยืนยันคำเดิม พร้อมไม่ขอโทษและยอมรับผิดในกรณีดังกล่าว

จากพฤติกรรมของประธานผู้ตัดสิน ทางสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี เห็นว่าท่านปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความไม่เป็นธรรม พร้อมกับไม่ให้ความเสมอภาค กับ สโมสรฟุตบอลต่างๆโดยเท่าเทียมกัน อีกทั้งเลือกปฏิบัติโดยขาดมาตรฐานในการตัดสิน และ ที่สำคัญขาดวุฒิภาวะ ในความเป็นผู้นำ ทั้งๆที่ท่านเป็นผู้นำสูงสุดในคณะผู้ตัดสิน

สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี จึงใคร่ขอความกรุณา ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแล บคลากรในวงการกีฬา ได้เข้ามาตรวจสอบการทำหน้าที่ของประธานผู้ตัดสินเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ตัดสินที่ได้รับบทลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม