4 ทีมในกลุ่มท้ายตารางจับมือกับแบงค็อกแถลงข่าวโต้ผลการตัดสินของทีพีแอลกรณี ปรับแพ้เทโร บิ๊กขจรชี้เป็นวินิจฉัยส่วนตัวไม่ใช่การทำตามกฏ พร้อมเดินหน้าฟ้องศาลหากอุทธรณ์ไม่เป็นผล

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด โดย ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสร มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วยตัวแทนจาก การท่าเรือ เอฟซี ,ชัยนาท ฮอร์นบิล ,ราชนาวี และ สระบุรี ร่วมกันแถลงข่าวหลัง บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ตัดสินให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด แพ้ บีอีซี เทโรศาสน 3-0 จากกรณีส่งผู้เล่นต่างชาติลงแบบผิดกฏในช่วงท้ายเกม

เกมดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของแข้งเทพ 1-0 แต่ภายหลัง บีอีซี เทโรศาสน ได้ยื่นประท้วงว่า แบงค็อก ส่งผู้เล่นต่างชาติผิดกฏหลังจากเปลี่ยน โรเมียง กัสมี ลงแทน เจย์ซี จอห์น ที่เป็นโควต้าเอเชีย หลังจาก คาลิฟา ซิสเซ่ ถูกไล่ออก .ขณะที่ในสนามยังมี ดราแกน บอสโควิช และ เลอันโดร ตาตู้ ที่เป็นโควต้าต่างชาติอยู่ด้วย โดย ทีพีแอล ตัดสินว่า แบงค็อก ผิดกฏข้อ 5.3 (4) ซึ่งต้องลดจำนวนโควต้าผู้เล่นต่างชาติเหลือ 2 คน บวกอีก 1 คนสำหรับโควต้าเอเชีย AFC จึงมีความผิดในการส่งผู้เล่นเกินโควต้าทำให้ผู้เล่นที่ลงสนาม ผิดคุณสมบัติ ซึ่งอาศัยอำนาจตามข้อบังคับฯ บทที่ 6 ข้อ 4. บททั่วไปอาศับบทบังคับ AFC ปรับเป็นแพ้ 0-3 และปรับเงินจำนวน 30,000 บาท

นายขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า "วันนี้ต้องขอบคุณผู้บริหารทุกสโมสร และสื่อมวลชนทุกคน ที่เข้ามาแถลงข่าววันนี้ จริงๆแล้วผมได้คุยกับทีมและนักเตะทุกคนว่าสิ่งที่ เราชนะบีอีซีเทโรฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คือความภูมิใจที่สุดที่ผมได้ทำทีมมาตลอด 3 ปี"

"สิ่งที่เกิดขึ้นทางเราไม่สบายใจ ตลอด 3 ปี เราทำตามกฏเกณฑ์ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นการวินิจฉัย ความคิดส่วนตัวของกรรมการทำให้ทางเราไม่สบายใจมาก ทุกสโมสรต่างทุ่มเท ทุกฝ่ายอยากจะเห็นทีพีแอลวินิจฉัยตามกฏเกณฑ์ การตัดสินใจให้เราแพ้ 3 แต้มในวันนี้ เป็นการวินิจฉัยส่วนตัวของกรรมการ สิ่งที่เสียหายกับทุกสโมสรที่มาในวันนี้

"เราอยู่ในช่วงหาสปอนเซอร์ที่ได้บอกไว้ว่าจะติดท็อปไฟว์ แต่ถ้าตกมาอยู่อันดับ 6-7 ก็จะน้อยลง ทีมอื่นๆก็เช่นกัน"

"มีข่าวบอกว่าผมฮั้วให้บีอีซีเทโรฯไม่ตกชั้น ผมจะบอกว่าทุกทีมสามารถส่งทนายมาคุยกับทีม และวันนี้ผมจะอุทธรณ์แน่นอน แต่หากอุทธรณ์ไปแล้วบทสรุปจะเป็นอย่างไรผมก็ต้องดูอีกครั้งว่าผมเสียหายตรง ไหน จากนั้นผมก็จะทำตามกฏหมายต่อไป"

มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า "ผมยืนยันว่าผมเข้าใจถูกต้องกับกฏทีพีแอล ที่สามารถลงทะเบียนนักเตะต่างชาติได้ 5 คน และสามารถลงเล่นได้ด้วยโควตา 3+1(เอเชีย) ในกฏเขียนไว้ชัดเจนว่า จำนวนไม่ใช่สัดส่วน ซึ่งผมก็เข้าใจว่าผมทำถูก ผมจะทำผิดก้ต่อเมื่อผมเอานักเตะไทยออกแล้วเอาผุ้เล่นต่างชาติเข้ามาแทน แต่ผมไม่ได้ทำเช่นนั้น"

ขณะที่ ขจร เจียรวนนท์ ตอบคำถามสื่อมวลชนว่าหากผลการอุทธรณ์ต่อบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ไม่เป็นผลก็จะเดินหน้าฟ้องร้องต่อศาลปกครองต่อไป

พลเรือโท รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ประธานบริหาร สโมสรราชนาวี กล่าวว่า "สำหรับ ทางราชนาวีก็มีผลกระทบแน่นอน เมื่อเทโรชนะก็จะข้ามอันดับพวกเราไป ในความคิดของผมหากเป็นไปตามที่แบงค็อกบอก จริงๆก็ไม่ถึงขั้นที่ผิดขนาดต้อง ปรับแพ้ ผมไม่ได้ติดใจกับทีมแบงค็อก เขาพยายามทำให้อยู่อันดับ 3 อยู่แล้ว ส่วนตัวของราชนาวีผมว่าไม่ยุติธรรมที่เราต้องโดนข้ามอันดับโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งเอาไปแข่งใหม่ยังดีกว่า ผมคิดว่าถ้าแข่งใหม่ แบงค็อกก็ชนะอีกล่ะ ผมรู้สึกสลดใจกับทีมตัวเองและทีมคนอื่นด้วย พวกเราก็พยายามทำทีมให้ดีขึ้น แต่หากต้องมาตกชั้นด้วยเหตุผลแบบนี้ เราไม่พอใจคำตัดสิ้นแบบนี้หรอกครับ และทุกทีมก็คงจะคิด เหมือนกับผม ขอบคุณครับ"

วรพิชญ์ ลิขิตายน ผู้อำนวยการสโมสรสระบุรี เอฟซี กล่าวว่า "วันนี้สโมสรสระบุรีผมไม่ได้มาคนเดียว ผมมาพร้อมกับความรู้สึกของแฟนบอลสระบุรี ฉะนั้นการตัดสินของคณะกรรมการที่ออกมาแบบนี้มันมีผลกระทบเยอะมาก ไม่ใช่เพียงแบงค็อกกับเทโร จะเห็นได้ว่าทางสระบุรีก็เจอปัญหามากมายตั้งแต่ต้นฤดูกาล การที่กลุ่มของท่านบางคนใช้ดุลพินิจตัดสินแบบนี้ผมขอวิงวอนให้ท่านพิจารณา อีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายผมยืนยัน ว่าเหตุการณ์นี้กระทบต่อจิตใจแฟนบอลสระบุรีมากๆครับ ขอบคุณครับ"

รัชนีกร มีสมมนต์ กรรมการบริษัทการท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า "ในฐานะของทางสโมสรการท่าเรือเราก็ไม่เห็นด้วยกับกรณีนี้ ก็ถือเป็นกรณีศึกษาที่ข้อกฏหมายยังคลุมเครือ เราอยากให้มีการพิจารณาการตัดสินอีกครั้งหนึ่ง เพราะมีผลกระทบต่อจิตใจพวกเราจริงๆ เราก้หวังว่าจะมีความชัดเจนในข้อกฏหมายด้วย ขอบคุณค่ะ"

ศศิธร อยู่ประยงค์. ผู้บริหารฝ่ายภาพลักษณ์องค์กรสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล กล่าวว่า "ในนามของชัยนาทวันนี้ก็คล้ายๆกับทุกสโมสรที่มาวันนี้ ก็อยากให้มีการตัดสินโดยที่ไม่มีใครได้รับประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ขอบคุณค่ะ"