หารือ! ''แข้งเทพ'' แบงค็อก ยูไนเต็ด รวม 4 สโมสรหนีตาย ร่วมกันแถลงข่าว หลังโดน ''ทีพีแอล'' ตัดสินให้แพ้ บีอีซี เทโร 0-3 พร้อมปรับเงิน 30,000 บาท เนื่องจากกรณีที่ส่งผู้เล่นต่างชาติลงสนามผิดกฎ โดยยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด และจะเดินหน้ายื่นอุทธรณ์อย่างแน่นอน พร้อมกันนั้น แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังได้ออกโรงยืนยัน ไม่ต่อสัญญา โรแม็ง กัสมี่ แนวรุกชาวฝรั่งเศส อย่างแน่นอนแล้ว ทำให้ซีซั่นหน้าเจ้าตัวจะได้ย้ายทีมตามกระแสข่าวที่โพสต์ผ่านไอจีก่อนหน้านี้

สืบเนื่องจากกรณีที่ทาง "ทีพีแอล" ได้ตัดสินให้ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ต่อ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน 0-3 พร้อมปรับเงิน 30,000 บาท หลังจากทำผิดกฎ โดยการส่งผู้เล่นต่างชาติลงสนามผิดกฎโควตานอกเอเชีย 3 คน รวมกับโควตานักเตะในเอเชีย (เอเอฟซี) 1 คน หรือว่า 3+1

  ซึ่งเกมดังกล่าว แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายบุกไปเอาชนะ บีอีซี เทโรฯ 1-0 แต่ภายหลัง บีอีซี เทโรศาสน ได้ยื่นประท้วงว่า แบงค็อกส่งผู้เล่นต่างชาติผิดกฎ โดยเปลี่ยน โรแม็ง กัสมี่ (ฝรั่งเศส) ลงมาแทน เจย์ซี จอห์น (บาห์เรน) ที่เป็นโควตาเอเชีย หลังจาก กาลิฟา ซิสเซ่ (ฝรั่งเศส) ถูกไล่ออก แต่ในสนามยังมี ดาร์แกน บอสโควิช (มอนเตเนโกร) และ เลอันโดร ตาตู้ (บราซิล) ลงแข่งขันอยู่

 ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ที่ตึกทรู ทาวเวอร์ ชั้น 21 ทาง ขจร เจียรวนนท์ ประธานโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด พร้อมด้วยตัวแทนจากสโมสรราชนาวี, สระบุรี เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี และ ชัยนาท ฮอร์นบิล ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของทาง "ทีพีแอล" อย่างเคร่งครัด โดยจะเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ซึ่งระบุว่าการตัดสินครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อทุกสโมสรที่อาจจะชวดสิทธิ์ชิงแชมป์เอเอฟซี รวมถึงกำลังดิ้นรนหนีตกชั้น

โดยทาง ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้เผยว่า "ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราได้ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎกติกาที่ทางทีพีแอลได้กำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด โดยได้ยึดหลักและปฏิบัติตามโดยตลอดระยะเวลาที่ตัวผมเองเข้ามาทำหน้าที่บริหารสโมสรแห่งนี้กว่า 3 ปี

"ซึ่งผมคิดว่าการวินิจฉัยในครั้งนี้ อาจเป็นดุลพินิจส่วนตัวของคณะกรรมการตัดสินที่ไม่ได้มาจากกฎเกณฑ์ของทางพีทีแอลกำหนดเอาไว้ในปี 2558 ข้อ 5.1 ที่มีคำว่า "จำนวน" ไม่ใช่ "สัดส่วน" โดยเราไม่ขอรับคำตัดสินดังกล่าว เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อการบริหารสโมสรในปีหน้า ทั้งโควตาเอเชีย รวมถึงสปอนเซอร์รายต่างๆ ที่เข้ามาหนุนสโมสรอีกด้วย"

 "สำหรับเรื่องที่เราจะชี้แจงตามข้อ 5.3 (1) ที่ระบุว่าจะต้องมีผู้เล่นต่างชาติในสนาม 3 คน และสามารถเพิ่มต่างชาติเป็นโควตาเอเชีย AFC ได้ 1 คน แต่ข้อ 5.3 (4) ระบุการเปลี่ยนผู้เล่นต่างชาตินั้น ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นชาติใดบ้าง จึงต้องตีความหมายว่าในสนามสามารถมีผู้เล่นต่างชาติ 3 คน ได้ โดยไม่ต้องพิจารณาเรื่องโควตาเอเชีย ซึ่งคำจำกัดความคือ "ผู้เล่นต่างชาติ" เหมือนกัน"

"แน่นอนเราจะยื่นอุทธรณ์ต่อทางไทยพรีเมียร์ลีกให้เร่งพิจารณาใหม่อีกครั้งในวันนี้ (18 พ.ย. 58) ทันที ทว่าหากไม่ผ่านจริงๆ ผมในฐานะประธานสโมสรแบงค็อก ก็จะขอยืนหยัดและสู้ต่อเพื่อความเป็นธรรมของทุกสโมสร"

ซึ่งทาง พลเรือโท รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ประธานสโมสราชนาวี ได้เผยว่า "ทางสโมสรไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของคณะกรรมการในครั้งนี้เช่นกัน และเราไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทั้งสิ้น แต่ยอมรับว่าการตัดสินมันส่งผลกระทบต่อราชนาวีโดยตรง ซึ่งหากว่าเกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาล อาจจะไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่ทว่ามันเกิดขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อทุกสโมสร เราจึงจำเป็นต้องออกมาขอคำชี้แจง ซึ่งส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าดุลพินิจของคณะกรรมการตัดสินจะเป็นอย่างไร แต่ต้องมีมาตรฐานถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด"

 ด้าน วรพิชญ์ ลิขิตเยน ผู้อำนวยการสโมสรสระบุรี เอฟซี เผยว่า "วันนี้ผมไม่ได้เดินทางมาเพื่อเข้าข้างทีมใด แต่ผมมาเพื่อเป็นตัวแทนของแฟนบอลชาวจังหวัดสระบุรีและใกล้เคียง ที่คอยตามเชียร์สโมสรมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาทีมเราก็ประสบปัญหาอย่างมากมาย ทั้งเรื่องเฮดโค้ช รวมถึงสปอนเซอร์ต่างๆ แต่ที่เราดีขึ้นมาได้ และวิ่งสู้ฟัดอย่างที่ทุกคนได้เห็นอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นเพราะแฟนบอล ซึ่งการตัดสินของคณะกรรมการในครั้งนี้มันส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของพวกเขาโดยสิ้นเชิง ทางเราจึงจำเป็นต้องออกมา ต้องการความเป็นธรรม"

ขณะที่ รัชนีกร มีสมมนต์ กรรมการบริหารบริษัทการท่าเรือ เอฟซี เผยว่า "ทางเราต้องการให้ทางคณะกรรมการตัดสินได้ยึดเอาเหตุการณ์นี้เป็นกรณีศึกษาต่อไป เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อทุกสโมสรอย่างแท้จริง ที่สำคัญขอความชัดเจนในตัวบทกฎหมายที่ได้ตัดสินออกมาในครั้งนี้"

 ฟาก ศศิธร อยู่ประสงค์ ผู้บริหารฝ่ายภาพลักษณ์กิจกรรมสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล เผยว่า "ดิฉันในฐานะตัวแทนของสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล ทางเราอยากให้คณะกรรมการตัดสินด้วยความเป็นธรรม โดยไม่อยากให้ผู้ใดได้ประโยชน์หรือว่าเสียผลประโยชน์ทั้งสิ้น"

ปธ.แบงค็อกยืนยันไม่ต่อสัญญา"กัสมี่"

ก่อนหน้านี้เกิดประเด็นร้อนออกมาจากไอจีส่วนตัวของ โรแม็ง กัสมี่ แนวรุกชาวฝรั่งเศสของทีม "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ว่าอาจจะต้องยุติเส้นทางการค้าแข้งกับแบงค็อก ยูไนเต็ด ในซีซั่นหน้า

  ล่าสุด ขจร เจียรวนนท์ บอสใหญ่ แบงค็อก ยูไนเต็ด ออกมาเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "สโมสรได้หาแนวทางร่วมกับทีมงานผู้ฝึกสอน ซึ่งมองแล้วว่า กัสมี่จะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของโค้ชมาโน่ และทำให้เราตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับกัสมี่ โดยเราต้องเชื่อในแนวทางการทำทีมของโค้ชที่จะเป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เรา"

 โรแม็ง กัสมี่ ปัจจุบันอายุ 28 ปี แนวรุกชาวฝรั่งเศส ผู้นี้ย้ายมาค้าแข้งกับทีม "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด นับจากฤดูกาล 2011 ซึ่งจะถือเป็นการยุติเส้นทางการค้าแข้งกับทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด ไว้ที่ 5 ปี เท่านั้น