หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศลั่น ยังไม่ยกธงขาวกับความหวังที่จะจบซีซั่นนี้ด้วยการติดท็อปโฟร์ หลังล่าสุดพ่าย เวสต์แฮม 2-3 แต่รับ "ปีศาจแดง" ไม่ได้เป็นคนกุมชะตากรรมของตัวเองแล้ว พร้อมชี้ การที่แมตช์นี้เริ่มช้ากว่ากำหนดมันไม่ได้มีผลกระทบกับรูปเกม

หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าทีมของตนยังไม่ยอมแพ้กับโอกาสการจบฤดูกาลด้วยการเป็น 4 อันดับแรกของตารางคะแนน ถึงแม้ความหวังจะริบหรี่จากการออกไปแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 ถึงสนาม โบลีน กราวนด์ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมาก็ตาม

 ดิยาฟรา ซาโก้ ส่งให้เจ้าถิ่นขึ้นนำในนาทีที่ 10 แต่ครึ่งหลังทีมเยือนเล่นได้ดีขึ้นจนได้ทีเดียว 2 ประตูจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ในนาทีที่ 51 กับ 72 อย่างไรก็ตาม สุดท้าย เวสต์แฮม ก็แซงชนะจากประตูของ มิชาอิล อันโตนิโอ ในนาทีที่ 76 และ วินสตัน รีด นาทีที่ 81

 ความปราชัยในครั้งนี้ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มี 63 คะแนนเท่าเดิม จากการลงเล่น 37 เกม ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นอันดับ 4 อยู่ 2 คะแนน นั่นหมายความว่าในนัดสุดท้าย "ปีศาจแดง" ต้องเอาชนะ บอร์นมัธ ให้ได้ และลุ้นให้ "เรือใบสีฟ้า" แพ้ สวอนซี ซิตี้ ด้วย พวกเขาถึงจะจบซีซั่นด้วยการเป็นอันดับ 4 ได้

"ผมคิดว่ามันยังเป็นไปได้อยู่ แต่มันไม่ได้อยู่ในมือของเราเอง และนั่นเป็นสิ่งที่ต่างไปจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ มันน่าผิดหวังมาก เพราะเราได้ขึ้นนำด้วย เราเสียประตูเพราะลูกนิ่ง ในฐานะผู้จัดการทีมแล้วนั้น คุณไม่มีวันที่จะพอใจกับสกอร์ใดๆ ก็ตาม แต่เมื่อคุณนำ 2-1 หลังจากเล่นไป 70 นาทีแล้วนั้น คุณก็ต้องกระจายพื้นที่เล่นให้กว้างขึ้น และเก็บบอลกับตัวให้ดีกว่านี้" กุนซือชาวดัตช์เผยกับ บีบีซี สปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดังของเมืองผู้ดี

ทั้งนี้ เกมนัดนี้เริ่มช้ากว่ากำหนด 45 นาที หลังจากเกิดเหตุวุ่นวายจนถึงขนาดที่แฟนบอลเจ้าถิ่นขว้างปาสิ่งของใส่รถบัสของทีมเยือน แต่ ฟาน กัล กล่าวว่ามันไม่ได้มีผลกับฟอร์มการเล่นแต่อย่างใด "เราต้องใช้ชีวิตอย่างนี้ในฐานะมืออาชีพ เรารู้ดีว่ามันมีโอกาสเกิดเรื่องแบบนี้ได้ และเราก็ต้องรับมือกับมัน เรานำ 2-1 ตอนเหลือ 20 นาทีสุดท้าย ดังนั้นผมไม่คิดว่ามัน (เหตุการณ์วุ่นวายก่อนเกม) จะมีผลหรอก"