"ซามูไรบลู" ญี่ปุ่น เซ็ง โดน บอสเนีย บุกมาเชือดคารัง 2-1 ชวดแชมป์ โดยอันดับ3เป็นของ เดนมาร์ก ที่ถล่ม บัลแกเรีย ไป 4-0 ในศึกกิริน คัพ 2016 ที่สนามซุยตะ ซิตี้ ฟุตบอล สเตเดี้ยม เมืองซุยตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอังคารที่ 7 มิ.ย.

ฟุตบอล กิริน คัพ 2016 นัดชิงชนะเลิศ
ญี่ปุ่น 1 - บอสเนียฯ 2

สนาม : ซูอิตะ ซิตี้ ฟุตบอล สเตเดี้ยม

          ญี่ปุ่น เจ้าภาพ ซึ่งกำลังไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 12 วาง ชินจิ โอกาซากิ และ ทาคูมะ อซาโนะ เป็น 3 ประสานในแดนหน้า ขณะที่ บอสเนีย ฝากความหวังกับคู่หัวหอกเลือดใหม่อย่าง มิลาน ดูริช และ อาร์มิน ฮ็อดซิช

          เริ่มเล่นเพียง 12 นาที เจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อน ทาคาชิ อูซามิ หาช่องสับไกยิงนอกเขตโทษไปโดน อิบราฮิม เซฮิช พุ่งปัดหลุดกรอบออกไปได้
 2 นาทีถัดมา เป็นโอกาสของ "ซามูไร บลู" อีกครั้ง ทาคาชิ อูซามิ จ่ายไปหน้าประตูให้ ฮิโรชิ คิโยตาเกะ ตะบันในเขตโทษระยะเผาขนเหินข้ามคานอย่างน่าผิดหวัง

 

          นาที 28 ญี่ปุ่น ออกนำ 1-0 ทาคาชิ อูซามิ ลากเข้าเขตโทษก่อนป้ายให้ ฮิโรชิ คิโยตาเกะ สอดเข้าไปยิงด้วยซ้ายแบบแป้กๆ แต่ยังข้ามตัว อิบราฮิม เซฮิช เสียบคานเข้าไป

 

          อย่างไรก็ดี ให้หลังนาทีเดียว บอสเนีย ตามตีเสมอทันควันจากบอลยาวเปิดเข้าเขตโทษ อาร์มิน ฮ็อดซิช เทกตัวโหม่งติดเซฟ ชึซากุ นิชิคาวะ แต่ลอยมาเข้าทางปืน มิลาน ดูริช ซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1

 

          กลับมาต่อครึ่งหลัง นาที 66 บอสเนีย แซง 2-1 มิโรสลาฟ สเตฟาโนวิช ตัวสำรอง จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ มิลาน ดูริช สปีดเข้าไปตวัดยิงด้วยขวาหน้ากรอบหกหลาผ่านมือ ชึซากุ นิชิคาวะ จมก้นตาข่าย

 

          ผ่านเข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาที 92 "ซามูไร บลู" พลาดโอกาสตีเสมอบ้าง ยูกิ โคบายาชิ ตัวสำรอง  หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วเลือกจ่ายเข้ากลางทั้งที่มีโอกาสยิงเองก่อนยอลติด บล็อกแนวรับบอสเนีย จบเกม บอสเนีย แซงชนะ ญี่ปุ่น 2-1 พร้อมคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรก

 

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 ญี่ปุ่น : ชึซากุ นิชิคาวะ, ยูโตะ นางาโตโมะ, มาซาโตะ โมริชิเกะ, มายะ โยชิดะ, ฮิโรกิ ซากาอิ, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, โยซึเกะ คาชิวากิ, ฮิโรชิ คิโยตาเกะ, ชินจิ โอกาซากิ, ทาคาชิ อูซามิ, ทาคูมะ อซาโนะ

 บอสเนีย : อิบราฮิม เซฮิช, โทนี่ ซุนยิช, มาเตโอ ซูซิช, เอดิน โคคาลิช, อ็อกเยน วรานซิช, ฮาริส เมดุนยานิน, อัลเมียร์ เบคิช, อิเซ็ต ฮายโรวิช, ฮาริส ดุลเยวิช, มิลาน ดูริช, อาร์มิน ฮ็อดซิช

ผู้ตัดสิน : จาร์เร็ด ยิลเล็ตต์ (ออสเตรเลีย)

 

นัดชิงอันดับ 3
เดนมาร์ก 4 - บัลแกเรีย 0

 

สนาม : ซูอิตะ ซิตี้ ฟุตบอล สเตเดี้ยม, ญี่ปุ่น

         เดนมาร์ก จัดเต็มเหมือนเดิม คริสเตียน เอริคเซ่น ปั้นเกมป้อน วิคเตอร์ ฟิสเชอร์ กับ มอร์เท่น ราสมุสเซ่น ด้าน บัลแกเรีย วางคู่กองหน้า อิเวลิน โปปอฟ ล่าตาข่ายกับ ดิมิตาร์ รันเกลอฟ

          เขี่ยบอลเล่นไป 9 นาที บัลแกเรีย ทักทายก่อน อิวายโล โชเชฟ ต่อบอลเข้าเขตโทษให้ ดิมิตาร์ รันเกลอฟ ยิงด้วยขวาไม่เข้ากรอบ

 

          เข้าสู่ นาที 39 เดนมาร์ก ออกนำ 1-0 วิลเลี่ยม ควิสต์ แทงทะลุช่องให้ วิคเตอร์ ฟิสเชอร์ เปิดเรียดจากสุดเส้นหลังฝั่งขวายัดมาหน้าประตูให้ มอร์เท่น ราสมุสเซ่น ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ ก่อนจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้

 

          กลับมาต่อครึ่งหลัง นาที 72 ขุนพลแดนโคนม ทิ้งเป็น 2-0 จากบอลยาวหน้าประตูของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล มาตกที่ คริสเตียน เอริคเซ่น แตะทีเดียวเข้าเขตโทษด้านขวาให้ ฟิสเชอร์ หลุดไปยิงไม่ผ่านมือ บอซฮิดาร์ มิเตรฟ แต่ เอริคเซ่น ยังตามไปซ้ำดาบสองด้วยซ้ายเสียบเสาแรก

 

          สกอร์ไหลเป็น 3-0 ใน 2 นาทีต่อมา จากความผิดพลาดของแนวรับบัลแกเรียทำบอลหลุดไปถึง คริสเตียน เอริคเซ่น ลากจี้มาหน้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนล็อกเข้าขวายิงหักข้อเสียบเสาแรกสุดคม

 

          นาที 82 เดนมาร์ก ได้เพิ่มอีกเม็ด วิคเตอร์ ฟิสเชอร์ ดีดเข้าเขตโทษด้านขวาให้ เอริคเซ่น ทะลุไปแปด้วยขวาผ่าน มิเตรฟ เสียบเสาสองนิ่มๆ เป็นประตู 4-0 และเป็นแฮตทริกของ เอริคเซ่น ด้วย

 

          ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เดนมาร์ก ไล่ต้อน บัลแกเรีย 4-0 คว้าอันดับ 3 ไปเป็นรางวัลปลอบใจ

 

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 เดนมาร์ก : แค สเปอร์ ชไมเคิ่ล, ซิมอน เคียร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ยันนิค เวสเตอร์การ์ด, ปีเตอร์ อังเคอร์เซ่น, วิลเลี่ยม ควิสต์, ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก, ริซ่า ดูมิซี่, คริสเตียน เอริคเซ่น, วิคเตอร์ ฟิสเชอร์, มอร์เท่น ราสมุสเซ่น

 บัลแกเรีย : บอซฮิดาร์ มิเตรฟ, เวนต์ซิสลาฟ วาซิเลฟ, อิโว อิวานอฟ, อเล็กซานดาร์ อเล็กซานดรอฟ, วาซิล โบชิคอฟ, จอร์จี้ มิลานอฟ, สเวโตสลาฟ เดียคอฟ, อิวายโล โชเชฟ, มาร์เซโล่, อิเวลิน โปปอฟ, ดิมิตาร์ รันเกลอฟ

ผู้ตัดสิน : ริวจิ ซาโตะ (ญี่ปุ่น)