ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอฟ

วันพุธที่ 14 กันยายน 2559

เรอัล มาดริด (สเปน) 2 - สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) 1 

        สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด, สเปน)

         ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์คนดังชาวฝรั่งเศส ที่พาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นสมัยที่ 11 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร เมื่อซีซั่นก่อน ไม่มี เคย์ลอร์ นาวาสนายทวารมือหนึ่ง, ฟาบิโอ โกเอนเตรา แบ็กซ้ายทีมชาติโปรตุเกส และ อีสโก้ กองกลางตัวรุกที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่

         ขณะที่ มาร์โก อาเซนซีโอ กองกลางดาวรุ่งวัย 20 ปี ไม่มีชื่อติดโผ โดยแดนกลางวาง ลูก้า โมดริช, คาเซมีโร่ และ โทนี่ โครส ลงมาทำเกมสนับสนุนสามประสานแดนหน้าทั้ง แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้าทำประตู

         ทางด้าน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมแกร่งของลีกโปรตุเกส อยู่ภายใต้การคุมทัพของ จอร์จ เชซุส ฟอร์มกำลังสุดยอดทีเดียว เกมนี้ไม่ได้ใส่ชื่อ ลูคัส สปาลวิส กองหน้าร่างใหญ่วัย 22 ปี ทีมชาติลิทัวเนีย ที่ย้ายมาจากอัลบอร์ก ในลี

กเดนมาร์ก อยู่ในโผทำศึกยุโรป โดยเรียก ไบรอัน รูอิซ กองหน้าวัย 31 ปี ทีมชาติคอสตาริกา ที่ได้พักในเกมลีก กลับมายืนเป็นหัวหอกตัวเป้า พร้อมได้ เกลสัน มาร์ตินส์ และ บรูโน่ เซซาร์ ลงมาปั้นเกม

         เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 9 นาที สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เกลสัน มาร์ตินส์ สังหารด้วยขวาบอลเข้ากรอบ แต่ไม่ผ่านมือของ กีโก้ กาซีย่า นายทวารเรอัล มาดริด

         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 27 เรอัล มาดริด ได้โอกาสบ้าง โทนี่ โครส เปิดบอลให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หวดด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเข้ากรอบ ทว่า รุย ปาตริซิโอ นายทวารของสปอร์ติ้ง ลิสบอน รับไว้ได้

         มาถึงนาทีที่ 41 ทีมเยือนสวนขึ้นมา อาเดรียน ซิลวา กัปตันทีมหวดด้วยขวาจากนอกกรอบ แต่บอลยังตรงตัว กีโก้ กาซีย่า ผู้รักษาประตูของราชันชุดขาว

         นาทีสุดท้ายครึ่งแรก เรอัล มาดริด ยังได้เสียวจากลูกฟรีคิกทางริมเส้นด้านซ้ายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งมาปั่นข้ามคานออกไป หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

         เข้าสู่ครึ่งเวลาหลังได้แค่สองนาที สปอร์ติ้ง ลิสบอนพลิกขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อบอลขลุกขลิกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ ไบรอัน รูอิซ ไหลให้กับ บรูโน่ เซซ่าร์ ตะบันด้วยซ้ายจากกรอบเขตโทษฝั่งขวาบอลเข้าประตูไป

         ต่อมานาที 54 ทีมเยือนยังได้ลุ้นอีก อาเดรียน ซิลวา พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายให้ บรูโน่ เซซ่าร์ ลากไปซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือ กีโก้ กาซีย่า

         อีกสองนาทีต่อมา เรอัล มาดริดได้โอกาสบ้าง โทนี่ โครส เปิดเตะมุมเข้ามาให้ แกเร็ธ เบล ได้เทกตัวโหม่ง แต่ยังหลุดกรอบออกไป

         มาถึงนาที 67 ''ราชันชุดขาว'' มาได้ลุ้นอีกจากจังหวะที่ มาร์วิน เซเกล่าร์ ไปทำฟาวล์ แกเร็ธ เบล เสียฟรีคิกหน้าเขตโทษ ก่อนที่เบลจะลุกมาปั่นด้วยซ้ายยังข้ามคานไม่ได้ลุ้น

         นาที 77 เจ้าถิ่นยังได้ลุ้นอีก ลูกัส บาซเกซ เปิดเข้ากลางให้ ดาเนียล การ์บาฆาล วอลเลย์ด้วยขวาหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย

         ท้ายเกมนาทีที่ 89 เรอัล มาดริดไล่ตามตีเสมอสำเร็จ 1-1 เมื่อได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพงแล้วฮุกลง รุย ปาตริซิโอ นายทวารของสปอร์ติ้ง ลิสบอน บินปัดไปชนเสาเหลี่ยมในเด้งเข้าไปตุงตาข่าย

         ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+4 ทีมชุดขาวมาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ ฮาเมส โรดริเกซ ที่ลงมาเป็นสำรองโยนจากกราบซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ลงมาเป็นสำรองเช่นกัน ทะยานขึ้นโขก รุย ปาตริซิโอ นายทวารสปอร์ติ้ง บินปัดได้นิดนึง แต่บอลยังแรงเข้าประตูไปช่วยให้เรอัล มาดริด เบียดชนะไปสนุก 2-1 เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน เก็บสามแต้มได้สำเร็จ

         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         เรอัล มาดริด: กีโก้ กาซีย่า - ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลูก้า โมดริช, คาเซมีโร่, โทนี่ โครส - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

         สปอร์ติ้ง ลิสบอน: รุย ปาตริซิโอ -ชูเอา เปเรยร่า, รูเบน เซเมโด้, เซบาสเตียน โกอาเตส, มาร์วิน เซเกล่าร์ - อาเดรียน ซิลวา (กัปตันทีม), วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ - เกลสัน มาร์ตินส์, บรูโน่ เซซาร์ - บาส ดอสต์, ไบรอัน รูอิซ

         ผู้ตัดสิน: เปาโล ตาญาเวนโต้ (อิตาลี)