ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี)

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2559)

มึนเช่นกลัดบัค (เยอรมัน) - แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)

ถ่ายทอดสด : ช่อง บีอิน สปอร์ตส์ 3 (เวลา : 02.45 น.)

สนาม : สตาดิโอน อิม โบรุสเซีย พาร์ค (มึนเช่นกลัดบัค, เยอรมัน)

        มึนเช่นกลัดบัค ของ อันเดร ชูแบร์ต ฟอร์มแผ่วไม่เลิกหลังพ่ายคารังต่อ โคโลญจน์ 1-2 ไม่ชนะในลีกมา 3 เกมติดแล้ว

        ในรายการนี้ "สิงห์หนุ่ม" ที่ได้เพียงเสมอ กลาสโกว์ เซลติก 1-1 ในเกมล่าสุด ยังเหลือประกายความหวังในการเข้ารอบต่อไปหากกำชัยเหนือ แมนฯ ซิตี้ แต่จะการันตีอันดับ 3 ทันทีหากได้รับผลเสมอและ เซลติก แพ้ บาร์เซโลน่า

        สภาพทีมล่าสุด ชูแบร์ต หมดสิทธิ์ใช้งาน 2 แข้งแบนอย่าง ยูเลี่ยน คอร์บ (ใบแดง) กับ คริสโตฟ คราเมอร์ (สะสมใบเหลืองครบ 3 ใบ)

        ส่วนพวกนักเตะที่ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ก็มี พาทริค แฮร์มันน์ (ข้อเท้า), โยซิป เดอร์มิช (เข่า), อัลบาโร่ โดมิงเกซ (หลัง) และ มามาดู ดูกูเร่ (ความฟิต)

        คาดว่า "สิงห์หนุ่ม" จะเน้นเกมรับเป็นพิเศษ ยานน์ ซอมเมอร์ เฝ้าประตูตามปกติ 3 เซนเตอร์แบ็กเป็น นิโค เอลเวดี้, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด และ โทนี่ ยานท์ชเค่อ

        อันเดรียส คริสเตนเซ่น ถูกดันขึ้นไปยืนกองกลางคู่กับ โทเบียส ชโตรเบิ้ล ขนาบด้วยตัวริมเส้น ฟาเบียน จอห์นสัน กับ ออสการ์ เวนด์ท

        เกมรุกเลือก ลาร์ส ชติ้นเดิ้ล ปั้นเกมสนับสนุนคู่หน้า อันเดร ฮาห์น กับ รัฟฟาเอลโดย ธอร์กาน อาซาร์ ลุ้นเบียดเป็นตัวจริง

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ออกแรงเหนื่อยในเกมบุกซิว คริสตัล พาเลซ 2-1 โดยได้ 2 ประตูจาก ยาย่า ตูเร่ ที่ได้โอกาสเป็นลงเล่นนัดแรกใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

        ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก "เรือใบสีฟ้า" ที่ล้างแค้น บาร์เซโลน่า ด้วยการเปิดบ้านทุบ 3-1 จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปทันทีหากคว้า 3 แต้มในวันพุธนี้สำเร็จ

        ความเคลื่อนไหวล่าสุด เคลาดิโอ บราโว่ พ้นโทษแบนพร้อมกลับมาเฝ้าเสาเป็นตัวจริง

        สำหรับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ไม่ได้ลงซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา น่าจะไม่พร้อมประจำการ หลังเจ็บศีรษะจากการเข้าปะทะกับ เคลาดิโอ บราโว่ ในเกมล่าสุด รวมถึง ฟาเบียน เดลฟ์ ที่ต้องเรียกฟิตไปก่อนหลังเพิ่งกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมสังกัด

        ทว่า ยาย่า ตูเร่ หมดสิทธิ์ลงสนามหลังไม่ได้ถูกส่งชื่อลงเล่นในรายการนี้ โดยไปรอลุ้นถูกส่งชื่ออีกครั้งในรอบน็อกเอาต์

        เคลาดิโอ บราโว่ ประจำการด่านสุดท้าย แนวรับพร้อมส่ง จอห์น สโตนส์ เข้าคู่กับ นิโกลาส โอตาเมนดี้ ถ้า แว็งซ็องต์ ก็องปานี ไม่ผ่านเช็คฟิต แบ็กขวา-ซ้ายเป็น ปาโบล ซาบาเลต้า กับ อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ

        แฟร์นันดินโญ่ ปักหลักสกรีนหน้าแผงหลัง เกมรุกฝาก เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกาน, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง สนับสนุนหอกเป้า เซร์คิโอ อเกวโร่

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        มึนเช่นกลัดบัค (3-4-1-2) : ยานน์ ซอมเมอร์ - นิโค่ เอลเวดี้, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, โทนี่ ยานต์ชเค่ - ฟาเบียน จอห์นสัน, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, โทเบียส ชโตรเบิ้ล, ออสการ์ เวนด์ท - ลาร์ส ชตินเดิ้ล - อันเดร ฮาห์น, รัฟฟาเอล เดอ อาเราโฮ  

        แมนฯซิตี้ (4-1-4-1) : เคลาดิโอ บราโว - ปาโบล ซาบาเลต้า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, จอห์น สโตนส์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - แฟร์นานโด ลุยซ์ โรซ่า แฟร์นานดินโญ่ - เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกาน, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง - เซร์คิโอ อเกวโร่

        ผู้ตัดสิน : กูเน็ต ซาคีร์ (ตุรกี)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- มึนเช่นกลัดบัคและแมนฯ ซิตี้ เจอกันในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. 2 ฤดูกาลติดต่อกัน โดยซิตี้ชนะทั้ง 3 เกมก่อนหน้านี้ (ได้ 10 เสีย 3)
- แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถทำคลีนชีตใน 5 เกมที่เยือนสโมสรเยอรมัน ชปล. (ชนะ 2 แพ้ 3)
- มึนเช่นกลัดบัคชนะแค่ครั้งเดียวจาก 5 เกมเหย้าชปล. (เสมอ 2 แพ้ 2) จากเกมพบเซบีย่า เมื่อพฤศจิกายาน 2015 (4-2)
- ทั้ง 5 เกมชปล.ในบ้านของกลัดบัค มีประตูเกิดขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่าย
- แมนฯ ซิตี้ ไม่ชนะนอกบ้าน 4 เกมหลังชปล. (เสมอ 2 แพ้ 2) โดยในฤดูกาลนี้ พวกเขาเสีย 7 ประตูจาก 2 นัดเยือนรายการนี้
- ความเป็นจริงแล้ว แมนฯ ซิตี้ พลาดทำคลีนชีตใน 9 เกมเยือนหลังสุด ชปล. นับตั้งแต่ธันวาคม 2014 ที่พบโรม่า (2-0)
- แมนฯ ซิตี้ ไปไกลกว่ารอบ 16 ทีมแค่ครั้งเดียว จากฤดูกาล 2015-16 ที่ผ่านถึงรอบรองชนะเลิศ (โดนเรอัล มาดริดเขี่ย) และมีโอกาสผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน
- นี่เป็นการเล่นชปล. รอบแบ่งกลุ่ม 2 ครั้งติดต่อกันของมึนเช่นกลัดบัค หลังไม่ผ่านเข้าเล่นรอบนี้ตลอด 23 ครั้งก่อนหน้านั้น
- ลาร์ส สตินเดิ้ล ของมึนเช่นกลัดบัค มีส่วนร่วม 8 จาก 12 ประตูของทีมนับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว (ยิง 5 จ่าย 3)
- เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ทำ 4 ประตูจาก 2 เกมชปล.ที่พบมึนเช่นกลัดบัค รวมถึงแฮตทริกในนัดแรกที่เจอกันเมื่อต้นฤดูกาล