ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » จิ้งจอกสยามกู้ชื่อ!จัดวาร์ดี้ควงสลิมานี่ซัดมิดเดิ้ลสโบรช์

จิ้งจอกสยามกู้ชื่อ!จัดวาร์ดี้ควงสลิมานี่ซัดมิดเดิ้ลสโบรช์

Posted 26/11/2016 by siamsport

"จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ต้องการชัยชนะเรียกฟอร์มแชมป์กลับมา โดยวาง เจมี่ วาร์ดี้ ผนึก อิสลาม สลิมานี่ ประสานงานในแดนหน้า รับการมาเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ ที่มี อัลบาโร่ เนเกรโด้ ค้ำหน้า ในศึก ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2559 (เวลา : 22.00 น.) บีอิน สปอร์ตส์ 3 ยิงสด

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2559

เลสเตอร์ - มิดเดิ้ลสโบรช์

ถ่ายทอดสด เวลา :  22.00 น.ช่อง : บีอิน สปอร์ตส์ 3


         สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

 

          เลสเตอร์ แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก ผลงานในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ยังกระท่อนกระแท่น แพ้มา 2 นัดติดแล้ว ล่าสุดบุกพ่ายวัตฟอร์ด 1-2 อยู่อันดับ 14 ห่างโซนตกชั้น 2 แต้ม

 

          แต่ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรก ทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว หลังเปิดบ้านเชือดคลับ บรูช 2-1 จาก ชินจิ โอกาซากิ กับ จุดโทษของ ริยาด มาห์เรซ

 

          กุนซือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ จะขาด แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ กองกลางตัวหลักที่เริ่มติดโทษแบน 3 นัด หลังโดนเอฟเอลงโทษย้อนหลัง กรณีศอก วาลอน เบห์รามี่

 

          ประตูมือ 1 แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังพักฟื้นหลังผ่าตัดกระดูกมือแตก พลาดช่วยทีมร่วมกับ น็อมปาลิส เมนดี้ กองกลางที่ผ่าตัดกระดูกข้อเท้าแตก และ เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้ายเจ็บข้อเท้า

 

          ข่าวดี อิสลาม สลิมานี่ ศูนย์หน้าค่าตัว 30 ล้านปอนด์ คาดว่าจะหายเจ็บโคนขาหนีบ และ เลโอนาร์โด้ อูยัว กองหน้าอีกคนก็หายเจ็บหลัง

 

          การจัดทัพ ผู้รักษาประตู รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังยึดชุดเดิม แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์แดนกลางใช้ แอนดี้ คิง ผนึกกำลังกับ แดเนียล อามาร์ตีย์

 

          แนวรุก ริยาด มาห์เรซ กับ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ลงลากเลื้อยริมเส้น โดยที่คู่หน้า อิสลาม สลิมานี่ กลับมาลงล่าตาข่ายกับ เจมี่ วาร์ดี้

 

          ฝั่งมิดเดิ้ลสโบรช์ของ ไอตอร์ การันก้า กุนซือชาวสเปน เพิ่งแพ้นัดแรกในรอบ 4 นัด หลังเปิดบ้านพ่ายเชลซี 0-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน สภาพทีมยังคงไม่มี จอร์จ เฟรนด์ แบ็กซ้ายที่ยังบาดเจ็บเข่า พักประมาณ 4 สัปดาห์ และ ดานี่ อยาล่า เซนเตอร์ฮาล์ฟที่เจ็บข้อเท้า

 

          การจัดทัพ บิคตอร์ บัลเดส ลงเฝ้าเสา แผงหลัง อันโตนิโอ บาร์รากาน, คาลั่ม แชมเบอร์ส, เบน กิ๊บสัน และแบ็กซ้าย ฟาบิโอ ดา ซิลวา ลงต่อแดนกลาง มาร์เตน เดอ รอน คุมเกมกับ อดัม ฟอร์ชอว์ แนวรุก อดาม่า ตราโอเร่, กัสตอน รามิเรซ, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง และศูนย์หน้า อัลบาโร่ เนเกรโด้

 

         รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

         เลสเตอร์ : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์, แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์, แอนดี้ คิง, แดเนียล อามาร์ตีย์, ริยาด มาห์เรซ, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมี่ วาร์ดี้, อิสลาม สลิมานี่

 

         มิดเดิ้ลสโบรช์ : บิคตอร์ บัลเดส, อันโตนิโอ บาร์รากาน, คาลั่ม แชมเบอร์ส, เบน กิ๊บสัน, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, มาร์เตน เดอ รอน, อดัม ฟอร์ชอว์, อดาม่า ตราโอเร่, กัสตอน รามิเรซ, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, อัลบาโร่ เนเกรโด้

         ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

 

ข้อมูลน่าสนใจก่อนเกม

          - เลสเตอร์ ยังไม่ชนะมิดเดิ้ลสโบรช์ในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่พฤศจิกายน 2000 (3-0) โดยเสมอ 2 แพ้ 3 นับจากนั้น

          - อย่างไรก็ตาม มิดเดิ้ลสโบรช์ไม่ชนะใน 12 เกมลีกหลังสุดที่พบเลสเตอร์ (เสมอ 6 แพ้ 6) เป็นสถิติไม่ชนะนานที่สุดในการเจอทีมใดทีมหนึ่ง

          - เจมี่ วาร์ดี้ ยิงประตูตลอด 3 เกมก่อนหน้านี้ที่ออกสตาร์ตพบมิดเดิ้ลสโบรช์ในลีก (3 ประตู)

          - เคลาดิโอ รานิเอรี่ ไม่แพ้ตลอด 7 เกมลีกหลังสุดที่คุมทีมพบมิดเดิ้ลสโบรช์ (ชนะ 4 เสมอ 3) หลังแพ้ในเกมแรกที่คุมทีมเจอโบโร่ในลีกสูงสุด เมื่อธันวาคม 2000

          - เลสเตอร์ แพ้เป็น 2 เท่าในฤดูกาลนี้ (6) จากเมื่อฤดูกาลที่แล้วซึ่งคว้าแชมป์ (3)

          - มิดเดิ้ลสโบรช์ชนะแค่ครั้งเดียวจาก 10 เกมลีกหลังสุด (เสมอ 4 แพ้ 5)

          - ริยาด มาห์เรซ สร้างโอกาสให้ เจมี่ วาร์ดี้ ได้แค่ครั้งเดียวจาก 7 เกมลีกหลังสุด จากการเล่นด้วยกัน 356 นาที และสร้างโอกาสให้ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษแค่ครั้งเดียวในทุกรายการ ซีซั่นนี้

          - เจมี่ วาร์ดี้ ทำ 2 ประตูในลีกจาก 12 เกมที่ลงสนามฤดูกาลนี้ หลังทำ 12 ประตูจากจำนวนนัดเท่ากัน เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

          - นับตั้งแต่ออกสตาร์ตฤดูกาลที่แล้ว เลสเตอร์ทำประตูจากจุดโทษมากกว่าทีมอื่น 4 ลูก (ยิงได้ 12 ประตู)

          - ทัพจิ้งจอกเสียแค่ 4 ประตูจาก 6 เกมลีกในบ้านฤดูกาลนี้ ขณะที่เสียถึง 16 ประตูจาก 6 เกมเยือน

          - นับตั้งแต่ยิงได้ในนัดเปิดฤดูกาลกับมิดเดิ้ลสโบรช์ เมื่อเดือนสิงหาคม อัลบาโร่ เนเกรโด้ มีโอกาสยิง 20 ครั้งโดยไม่เป็นประตูตลอด 11 เกมที่ลงสนามนับจากนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • อองรีแนะเจิดอย่าพักงานฟุตบอลนาน
    เธียร์รี่ อองรี อดีตดาวเตะอาร์เซน่อล แนะนำ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ว่าไม่ควรพักงานในวงการฟุตบอลนานเกินไป เพราะอาจทำให้ถูกลืมได้ แถมอวย "เจิด" มีคุณลักษะของการเป็นยอดโค้ช รวมถึงกล่าวถึงเหตุการณ์ที่อดีตกัปตัน "หงส์แดง" เกือบย้ายไป เชลซี ว่าตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ย้าย แม้อาจได้แชมป์ลีกมาครองก็ตาม
  • หาเรื่อง!อันแดร์สันเย้ยเจิดไม่เคยซิวแชมป์ลีก
    ใครดีกว่าเห็นกันอยู่! อันแดร์สัน อดีตกองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด ถือโอกาสในวันที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตัดสินใจปิดฉากอาชีพพ่อค้าแข้ง ออกโรงเย้ยอดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล แม้จารึกในประวัติศาสตร์เกมลูกหนัง แต่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ พรีเมียร์ลีก เลยสักครั้ง ขณะที่ตนทำได้กับ "ปีศาจแดง" มาแล้วถึง 4 ครั้ง
  • สปาร์ตักฯเล็งยืมเดอปายม.ค.ปีหน้า
    สื่อกระพือข่าว สปาร์ตัก มอสโก อยากยืมตัว เมมฟิส เดอปาย มิดฟิลด์ตัวริมเส้น แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงต้นปีหน้า หลังตกเป็นสำรอง และแทบไม่ได้ลงสนามในฤดูกาลนี้ โดยทีมหมีขาวหวังใช้ ควินซี่ย์ พรอมส์ ดาวเตะเพื่อนซี้ร่วมชาติ กล่อมให้มาอยู่ด้วยกัน
  • เจิดยกอิสตันบูลเจ๋งสุด-ลื่นเกมเชลซีเป็นตราบาป
    สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีมลิเวอร์พูล ยกเกมรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอซี มิลาน ที่ อิสตันบูล ปี 2005 เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตค้าแข้ง ขณะที่เกมลีกกับ เชลซี ปี 2014 ที่เขาลื่นล้ม มีส่วนทำให้ทีมแพ้ และชวดลีกในบั้นปลาย เป็นตราบาป และหายนะครั้งใหญ่ในชีวิต พร้อมยอมรับว่าปัญหาความฟิต สังขารที่ร่วงโรยคือปัจจัยทำให้เลือกแขวนสตั๊ด

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »