สื่อผู้ดีวิเคราะห์เกมลีกแมตช์ล่าสุด ทำให้พบเหตุผลสำคัญที่ ลิเวอร์พูล แพ้ บอร์นมัธ อย่างน่าเหลือเชื่อ ขณะเดียวกับทำไม โชเซ่ มูรินโญ่ ถึงเลือกส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ ลงสนาม และเป็นจุดเปลี่ยนของเกม รวมทั้งฟอร์มที่สุดฮอตของ เชลซี ซึ่งทำให้พวกเขายึดจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น

        เดอะ ซัน สื่อชั้นนำในเมืองผู้ดี ทำการวิเคราะห์ผลงานเด็ดๆ ในเกมล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จนได้บทสรุปสำคัญในการแข่งขันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น เชลซี ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวเต็งคว้าแชมป์ลีก, ความพ่ายแพ้ของลิเวอร์พูล ทำให้รู้มีนักเตะอีกคนที่สำคัญไม่แพ้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ รวมทั้งการแก้เกมที่ผิดพลาดของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

        ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บอร์นมัธ ได้แสดงให้โลกได้เห็นว่าการไม่ยอมแพ้สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ทั้งๆ ที่ตกเป็นรอง "หงส์แดง" 1-3 แต่สามารถพลิกชนะ 4-3 ขณะที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" แสดงศักยภาพที่สุดยอดในการบุกไปปราบ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม อย่างงดงาม และยึดตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป

        ในส่วนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ใครจะไปคิดว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจอมแท็กติค จะแก้เกมผิดพลาดมหันต์จนนำไปสู่การโดน เอฟเวอร์ตัน ตีเสมอในช่วงนาทีสุดท้าย โดย เดอะ ซัน ได้ทำการวิเคราะห์แล้วจนได้บทสรุป 10 เรื่องกับเกมช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

1. เกมยังไม่จบจนกว่าเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น

        "เกมยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร" สุภาษิตนี้ยังใช้ได้ดีในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะในเกมระหว่าง บอร์นมัธ พบ ลิเวอร์พูล หลังจากที่ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ สกอร์นำ 2-0 ในครึ่งแรก และจากนั้นก็ 3-1 ในครึ่งหลัง โดยเหลือเวลาแข่งขันเพียงแค่ 14 นาที แต่กลายเป็นว่าเจ้าบ้านโชว์สเต็ปเทพซัด 3 ประตูในนาทีที่ 76, 78 และ 93 คว้า 3 แต้มสำคัญช็อกสาวก "เดอะ ค็อป" กันทั่วโลก

2. หากไม่แพ้ 3-0 คงไม่ตาสว่าง

        หลังจากที่ เชลซี แพ้ยับ อาร์เซน่อล หลังจากนั้น อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียน ได้จัดการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่น และนั่นทำให้ "สิงห์บลูส์ เก็บชัยชนะเรียบวุธ 8 เกมติดต่อกัน ที่เด็ดยิ่งกว่านั้นก็คือพวกเขามีแนวรับสุดแกร่งไม่เสียประตูเลยจากชัยชนะ 6 เกมแรก (จาก 8 เกม)

        ส่วนการเสียประตูให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้  2 เกมลีกล่าสุดนั้น ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนักเพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาก็จัดการปราบซ่าทั้งสองสโมสรได้หมด และตอนนี้ก็ยัดหัวหาดจ่าฝูงลีกอย่างเหนียวแน่น

3. โชเซ่ มูรินโญ่ ยังไม่มีนักเตะที่วางไว้ใจได้

        เห็นได้ชัดว่า "เดอะ สเปเชียล วัน" ยังมีปัญหาในการที่จะหานักเตะที่เขาสามารถไว้วางใจได้  สำหรับ ฟิล โจนส์ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่พอจะเชื่อมั่นได้ และสามารถเล่นได้ตามที่ "เฮียมู" ต้องการ แต่เกมรับโดยรวมของ "ผีแดง" ยังไม่สามารถเชื่อใจใครได้ทั้งนั้น

        สำหรับเกมล่าสุดการที่ มูรินโญ่ ตัดสินใจเปลี่ยน มารูยาน เฟลไลนี่ ลงสนามช่วยท้ายเกม เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า นายใหญ่ชาวโปรตุกีส ไม่เชื่อมั่นในเกมรับว่าแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับเกมบุกของ เอฟเวอร์ตัน แต่สุดท้าย แข้งเบลเยียมกลายเป็นต้นเหตุทำให้ทีมโดนตีเสมอซะงั้น

4. เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังเจอวิกฤติ

        สถานการณ์ของแชมป์เก่าดูท่าจะไม่สู้ดีแล้ว เพราะตอนนี้พวกเขารั้งอันดับ 15 มี 13 คะแนนอยู่ห่างจากโซนตกชั้นเพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้นและแน่นอนว่าพวกเขากำลังต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่ออยู่รอดในลีกสูงสุด ซึ่งต่างจากเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ที่สู้จนได้แชมป์แบบช็อกโลก

5. ดิมิทรี ปาเยต แข้งล้ำค่าเวสต์แฮม

        คุณภาพของเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศสไม่มีอะไรต้องสงสัย สำหรับตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี แต่การที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รั้งอยู่อันดับ 17 พวกเขาจำเป็นต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อที่จะขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับที่สูงกว่าที่เป็นอยู่

6. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จอมถล่มประตู

        อิบราฮิโมวช กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในฤดูกาลนี้ ย้อนไปช่วงหลายเกม "อิบรา" มักจะพลาดทำประตูไปหลายครั้ง จนทำให้เจอวิจารณ์อย่างหนักว่าหมดสภาพแล้ว แต่ในแมตช์ล่าสุดที่ซัดประตูสุดสวยให้ "เร้ด เดวิลส์" ขึ้นนำเอฟเวอร์ตัน 1-0 กลายเป็นประตูที่ 8 ของเขาในการเล่นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และยังคงเป็นหัวหอกที่ "ผีแดง" ต้องพึ่งพาต่อไป

7. โจเอล มาติป มีความสำคัญมากกว่า คูตินโญ่

        เมื่อทีมไม่มี ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ซึ่งต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ 5 สัปดาห์ แน่นอนว่าการขาดหายไปของเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิล เป็นเรื่องที่เสียหายสำหรับลิเวอร์พูล

        กระนั้นพวกเขาก็ยังคงมีเกมบุกที่ดุเดือดเลือดพล่านอยู่ดี จากการประสานงานกันอย่างเข้าขาระหว่าง ซาดิโอ มาเน่ กับ ดิว็อค โอริกี้ ฉะนั้นปัญหาที่แท้จริงของ "หงส์แดง" ก็คือการที่ทีมไม่มี โจเอล มาติป คุมแนวรับ

        ลิเวอร์พูล สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นเลยในยามที่กองหลังทีมชาติแคเมอรูนลงสนาม และทุกอย่างพังทลายสิ้นเมื่อทีมขาดเขาในเกมแพ้ บอร์นมัธ อย่างน่าเหลือเชื่อ

8. กองหน้าจากลอนดอนเหนือ ร้อนแรงที่สุดในพรีเมียร์ลีก ?

        อเล็กซิส ซานเชซ ซัดแฮตทริกในแมตช์ถลุง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยับเยิน 5-1 ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ส่งบอลซุกก้นตาข่าย 2 ประตู เกมในแมตช์ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทุบ สวอนซี ซิตี้ 5-0

        หัวหอกทีมชาติชิลี ก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวร่วมในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ด้วยสถิติ 11 ประตู เท่ากับ ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าตัวเก่งเชลซี  ขณะที่ เคน ก็เริ่มเรียกฟอร์มสุดคมกลับคืนมาอีกครั้งหลังจากที่หายเจ็บ ทำให้ตอนนี้ซัดในลีกไปแล้ว 7 ประตู

9. พูลิส ชีวิตกำลังไปได้สวยกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

        โทนี่ พูลิส กุนซือชาวเวลส์ เคยนำ สโต๊ค ซิตี้ ขึ้นมาติดอันดับท็อปเทนลีกมาแล้ว นอกจากนี้ยังเคยสร้างความมหัศจรรย์ช่วย คริสตัล พาเลซ อยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีตอนที่พวกเขาต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นในปี 2014

        สำหรับตอนนี้ นายใหญ่มากประสบการณ์วัย 58 ปี กำลังนำ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในเวลานี้พวกเขารั้งอยู่อันดับ 7 มี 20 คะแนนตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียง 1 แต้มเท่านั้น

10. หลังจากเริ่มต้นแย่ ตอนนี้ สโต๊ค กลับมาแล้ว

        การเก็บได้แค่ 2 คะแนนจาก 6 เกมแรก ทำให้ สโต๊ค ซิตี้ ต้องดิ้นรนอยู่ในท้ายตาราง และเริ่มเกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตในการกุมบังเหียนของ มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมชาวเวลส์

        อย่างไรก็ตาม ผลเสมอ 1-1 แมตช์พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นสุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของพวกเขา และทำให้ทัพ "ช่างปั้นหม้อ" แพ้แค่เกมเดียวจาก 7 แมตช์หลังสุด ที่สำคัญชัยชนะเหนือ เบิร์นลี่ย์ 2-0 ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 9 เรียบร้อยแล้ว